โลโก้ (Logo) คืออะไร ทำไมต้องมี(ดี)
ถ้าอยากเป็นที่จดจำ เราต้องมีตัวตน และต้องให้คนเห็น เช่นเดียวกับแบรนด์ องค์กร หรือธุรกิจ แต่ก่อนที่คนจะสัมผัสแบรนด์ สิ่งที่พอจะบอกลูกค้าได้ถึงตัวตนของแบรนด์นั้นก็คือ โลโก้ คนจะชอบไม่ชอบ สนใจหรือไม่ โลโก้มีผลต่อการตัดสินใจไม่แพ้ปัจจัยอื่น ๆ ลองสมมติว่าคุณจะไปซื้อน้ำหอม มีสองขวดวางอยู่ข้างกัน ดีไซน์ขวดเหมือนกัน กลิ่นเหมือนกัน ต่างกันแค่โลโก้บนขวด คุณก็อาจจะเลือกโลโก้ที่สะท้อนรสนิยม หรือความเป็นตัวคุณมากที่สุด
โลโก้ (Logo) คืออะไร
โลโก้ หรือ Logotype คือ เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง (Symbolism) สามารถเป็นรูปภาพ ตัวอักษร รูปร่าง หรือส่วนผสมระหว่างสามสิ่งนี้ ใช้เป็นตัวแทนของธุรกิจหรือองค์กรในการสื่อสารกับผู้บริโภค ลูกค้าทั้งกลุ่มเป้าหมายและทั่วไป
โลโก้ที่ดี จะสามารถสะท้อนตัวตนได้ตั้งเเต่แรกเห็น และจดจำง่าย
ทำไมต้องมีโลโก้?
โลโก้ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ must have แต่ always good to have เพราะ...
- เป็นเสมือนตัวแทนที่สร้างความประทับใจของแบรนด์/ธุรกิจ
- บ่งบอกตัวตน
- แตกต่างจากคู่แข่ง
- สร้างลูกค้าที่ภักดีกับแบรนด์
- มีความเป็นมืออาชีพ
- เป็นที่จดจำได้ง่ายขึ้น
ประเภทของโลโก้
มีการแบ่งประเภทของโลโก้ออกเป็น 4 บ้าง 5 บ้าง 7 บ้าง 10 บ้าง แล้วแต่ว่าจะแยกองค์ประกอบกันอย่างไร แต่ในที่นี้จะขอแบ่งเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้
1. Wordmark
หรือ Logotype เป็นโลโก้ที่เอาชื่อธุรกิจแบบเต็ม ๆ มาใช้โดยตรง เพราะชื่อธุรกิจจะสร้างความแตกต่างได้ระดับหนึ่ง และอาจมีหรือไม่มีความหมายก็ได้ โลโก้ประเภทนี้เน้นการเลือกใช้ฟอนต์ที่เหมาะกับธุรกิจ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น eBay, Google
2. Lettermark
เหมาะกับธุรกิจที่มีชื่อยาว และต้องการเลือกใช้ตัวอักษรย่อ หรือตัวอักษรเดียวให้มีลักษณะพิเศษ แตกต่าง และง่ายต่อการจดจำ เช่น IBM (International Business Machines Corporation), HBO (Home Box Office), NASA (National Aeronautics and Space Administration)
3. Pictorial
เป็นรูปเชิงสัญลักษณ์กราฟฟิกที่จดจำได้ง่าย มักเอาสิ่งที่คนทั่วไปรู้จัก คุ้นชินมาออกแบบเป็นโลโก้ ทำให้คนเห็นแล้วนึกออกว่าคืออะไรได้ทันที เหมาะกับธุรกิจที่คนรู้จักดีระดับหนึ่ง แต่ด้วยความ minimal ของโลโก้ประเภทนี้ ต้องแน่ใจว่ามันจะสื่อความหมายแบบเดียวกับที่เราต้องการ ไม่เช่นนั้นคนอาจจะสับสนได้ ยกตัวอย่างโลโก้ประเภทนี้ เช่น Twitter, WWF, Mc Donald's
4. Abstract
โลโก้ที่ออกแนวนามธรรม มักเล่นกับรูปทรงเรขาคณิตต่าง ๆ แต่ทำให้เกิดความแตกต่างได้ผ่านสี เส้น รูปร่าง ไม่มีกฎตายตัว มีความยืดหยุ่นสูง เช่น Pepsi, Adidas, Spotify
5. Emblem
ประเภทสุดท้ายเป็นแบบตราสัญลักษณ์ อยู่เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน มีหลากหลายรูปทรง เช่น ทรงกลม สี่เหลี่ยม วงรี ประกอบด้วยรูปภาพหรือตัวอักษร มีความคลาสสิก มั่นคง แต่มักมีปัญหาเรื่องการปรับใช้ เพราะหากโลโก้มีรายละเอียดเยอะมาก เวลาย่ออาจจะสูญเสียรายละเอียดและความชัดเจนไป เช่น 8, Harley-Davidson
โลโก้ ไม่ใช่แบรนด์ แต่เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์
“Your brand is what other people say about you when you’re not in the room.”
Jeff Bezos CEO, Founder Amazon
เป็นที่เข้าใจผิดกันเรื่อยมา และยังคงสร้างความงุนงนสงสัยอยู่ว่า โลโก้ กับแบรนด์นั้นแตกต่างกันอย่างไร พูดง่าย ๆ ว่าแบรนด์ คือประสบการณ์ การรับรู้ ความรู้สึกของลูกค้าที่มีต่อบริษัทนั้น ๆ ส่วนโลโก้ เป็นเพียงเครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ทางการค้า ที่ถูกทำขึ้นเพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ และเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์
ติดตามอ่านบทความดี ๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Machine Learning, Startup, Design, Software Development และ Management ทาง Senna Labs Blog ได้ทุกวัน