13May, 2025
ภาษา :
Thai
Share blog : 
13 May, 2025
Thai

การวัดผลเว็บไซต์: Metrics เบื้องต้นที่ต้องรู้

By

2 mins read
การวัดผลเว็บไซต์: Metrics เบื้องต้นที่ต้องรู้

เมื่อเว็บไซต์ของคุณเริ่มใช้งานแล้ว ไม่ว่าจะเพื่อขายของ ให้ข้อมูล หรือเก็บรายชื่อผู้สนใจ สิ่งสำคัญลำดับต่อไปคือ การวัดผลเพราะคุณไม่สามารถพัฒนาเว็บให้ดีขึ้นได้ ถ้าไม่รู้ว่าผู้ใช้เข้าเว็บมาทำอะไร อยู่ได้นานแค่ไหน หรือออกไปตอนไหน

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก Metrics สำคัญสำหรับวัดผลเว็บไซต์ ที่เจ้าของเว็บควรรู้ พร้อมกรณีศึกษาจากธุรกิจขายประกัน ที่แค่รู้ว่าคนออกตรงไหน ก็สามารถปรับ UX ให้ยอดซื้อเพิ่มขึ้นได้ทันที

Metrics เบื้องต้นที่ควรรู้

1. Page Views – จำนวนครั้งที่หน้าเว็บถูกเปิด

แสดงว่าหน้านั้นมี “คนเข้า” มากน้อยแค่ไหน

ตัวอย่างการใช้งาน:
ถ้าคุณมีหน้าโปรโมชั่นใหม่ แต่ Page Views ต่ำ อาจต้องดูว่าปุ่มหรือแบนเนอร์ที่ลิงก์ไปหน้านั้นวางไว้ดีพอหรือยัง

 

2. Bounce Rate – เข้าแล้วออกเลย ไม่คลิกต่อ

ถ้า Bounce Rate สูง (เช่น 80%) แปลว่า “คนเข้าแล้วออกเลย” อาจเพราะ:

  • โหลดช้า

  • ไม่ตรงกับสิ่งที่ค้นหา

  • UX ใช้ยาก

เป้าหมายทั่วไป:
พยายามลด Bounce Rate ให้อยู่ที่ 40–60% สำหรับเว็บทั่วไป

 

3. Conversion Rate – เปลี่ยนจากผู้เข้าชมเป็นลูกค้า

Conversion Rate = จำนวนคนที่ทำ “เป้าหมาย” สำเร็จ เช่น:

  • สมัครสมาชิก

  • กรอกฟอร์ม

  • กดสั่งซื้อ

ตัวอย่าง:
หากมี 1,000 คนเข้าหน้า Checkout แต่มี 50 คนสั่งซื้อ → Conversion Rate = 5%

 

4. Average Session Duration – เวลาที่คนอยู่บนเว็บไซต์

ยิ่งคนอยู่เว็บนาน ยิ่งบอกได้ว่าเว็บมีคุณภาพหรือเนื้อหาน่าสนใจ

ตัวเลขคร่าว ๆ ที่ดี:
2–3 นาทีสำหรับเว็บทั่วไป / 5+ นาทีสำหรับเว็บบทความยาว

 

5. Google Analytics – เครื่องมือวัดผลที่ขาดไม่ได้

Google Analytics ช่วยให้คุณดูข้อมูลทั้งหมดข้างต้นได้แบบละเอียด และฟรี

สิ่งที่ดูได้:

  • คนเข้ามาจากช่องทางไหน (Google, Facebook, พิมพ์ URL เอง)

  • เข้าผ่านมือถือหรือเดสก์ท็อป

  • เข้าหน้าไหนเยอะสุด

  • ออกจากหน้าไหนบ่อยที่สุด

 

กรณีศึกษา: ธุรกิจขายประกันที่ปรับ UX จากข้อมูล Analytics

สถานการณ์:
บริษัทขายประกันสุขภาพเปิดหน้าเว็บใหม่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกแพ็กเกจและซื้อผ่านหน้าเว็บไซต์

หลังจากเปิดใช้งาน 1 เดือน มีคนเข้าหน้ารายละเอียดแพ็กเกจเยอะ แต่ยอดซื้อไม่ขยับ

สิ่งที่ทีมทำ:
ติด Google Analytics แล้วตั้งเป้าให้ หน้า Checkout เป็น Conversion Goal

สิ่งที่พบ:

  • คนเข้าหน้า Checkout แล้ว “ออก” เยอะมาก

  • หน้า Checkout มี 4 ขั้นตอน, ฟอร์มกรอกยาว, ปุ่มซื้ออยู่ล่างสุด

การปรับ UX:

  • ลดขั้นตอนเหลือ 2 ขั้น (เลือกแพ็กเกจ → กรอกข้อมูลสั้น ๆ)

  • ทำปุ่ม “ซื้อเลย” ให้อยู่ตรงกลางหน้าจอ เห็นตั้งแต่เปิด

ผลลัพธ์หลังปรับ:

  • Bounce Rate หน้า Checkout ลดลงจาก 68% → 35%

  • Conversion Rate เพิ่มจาก 1.2% → 3.8%

  • ลูกค้าหลายรายให้ Feedback ว่า “ซื้อได้ง่ายขึ้น ไม่ซับซ้อน”

 

สรุป

การวัดผลเว็บไซต์ไม่ใช่เรื่องของทีมเทคนิคเท่านั้น
แต่เป็นสิ่งที่เจ้าของเว็บไซต์ควรเข้าใจ เพื่อใช้ตัดสินใจปรับปรุง UX, เนื้อหา และการตลาดได้ตรงจุด

เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วย 3 ขั้นตอน:

  1. ติด Google Analytics บนเว็บไซต์

  2. ตั้งเป้าหมายที่ต้องการวัด เช่น การกดปุ่ม หรือการกรอกฟอร์ม

  3. วิเคราะห์แล้วปรับ UX ให้คนไปถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

เว็บไซต์ที่ดีไม่ใช่แค่มีคนเข้าเยอะ แต่ต้อง “ใช้งานได้จริง และวัดผลได้” ด้วย

 

Written by
Mic Noppawit Chavanadul
Mic Noppawit Chavanadul

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

บทความอื่นๆ

22
May, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
22 May, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
22
May, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
22 May, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
Letter Opener เป็น gem ของ ที่ใช้แสดงรูปแบบของอีเมลที่เราต้องการจะส่ง ก่อนที่จะส่งจริง เพื่อให้ง่ายและไวต่อการทดสอบ Let's Get started... Installation เพิ่ม Gem ใน Gemfile จากนั้นรัน `bundle install` # Gemfile group :development do gem "letter_opener" gem "letter_opener_web", "~> 1.0" end กำหนดการส่งอีเมลโดยใช้ letter_opener (กรณี Production จะใช้เป็น :smtp) # config/environments/development.rb config.action_mailer.delivery_method

By

3 mins read
Thai
22
May, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
22 May, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!ติดต่อเรา
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.