เข้าใจ Youtube Algorithm : อยากให้คลิปอยู่อันดับต้น ๆ ต้องมีอะไรบ้าง?

เชื่อว่า ยูทูบเบอร์ (YouTubers) หรือแม้กระทั่งแบรนด์ต่าง ๆ ย่อมต้องการให้คลิปมีคนเข้าชมเป็นจำนวนมาก ยิ่งยอดเข้าชมมากเท่าไหร่ โอกาสที่คลิปวิดีโอนั้นจะดัง และเป็นที่พูดถึงก็มากขึ้น แบรนด์ได้โปรโมตสินค้าและบริการ นอกจากนี้ เจ้าของช่องยูทูบ (YouTube Channel) ก็จะได้รับรายได้ตามสัดส่วนยอดวิว (Views) อีกด้วย
การที่จะทำให้ยอดเข้าชมสูงขึ้นนั้น สิ่งสำคัญก็คือ อันดับการค้นหา (Search Ranking) ถ้าคลิปแสดงผลอยู่อันดับต้น ๆ ของการค้นหา แนวโน้มที่ผู้ชมจะคลิกเข้าไปดูคลิปก็เพิ่มสูงขึ้น เรามาดูกันว่ามีปัจจัยสำคัญอะไรบ้างที่ YouTube ใช้ในการจัดอันดับของคลิปวิดีโอค่ะ
คีย์เวิร์ด
คีย์เวิร์ด (Keywords) นับเป็นส่วนสำคัญในการจัดอันดับของ YouTube เพราะยิ่งคีย์เวิร์ดสามารถอธิบายตัวคลิปวิดีโอได้ดีเท่าไร ยิ่งทำให้ Algorithm ของ YouTube เข้าใจคลิปนั้น ๆ ได้ดีมากขึ้น ยูทูบเบอร์ควรใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องในส่วนต่าง ๆ ดังนี้
• คำอธิบายช่องยูทูบ (Channel Description)
• คำอธิบายคลิปวิดีโอ (Video Description)
• ชื่อคลิปวิดีโอ (Video Title)
• พูดถึงในคลิปวิดีโอ
• ซับไตเติล (Video Transcripts)
• แท็ก (Video Tags)
ตัวอย่างการค้นหาคลิปวิดีโอด้วยคีย์เวิร์ดบน YouTube
เครื่องมือแนะนำในการช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดสำหรับคลิปวิดีโอบน YouTube มีมากมาย อย่างเช่น Ahrefs TubeBuddy และ VidIQ เป็นต้น
ชื่อคลิปวิดีโอ (Video Title)
ชื่อคลิปวิดีโอ (Video Title) เป็นสิ่งแรกที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าวิดีโอนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ซึ่งควรจะสั้น กระชับ และมีคีย์เวิร์ดในชื่อคลิป แต่ควรมีประมาณ 5 คำขึ้นไปเพื่อให้อ่านแล้วสามารถเข้าใจได้ง่าย ซึ่ง YouTube กำหนดให้ชื่อวิดีโอมีความยาวไม่เกิน 100 ตัวอักษร และจะถูกตัดออกเมื่อเกิน 70 ตัวอักษรเมื่อแสดงในผลการค้นหาบนสมาร์ทโฟน เพราะพื้นที่ในการแสดงชื่อคลิปวิดีโอจะน้อยกว่าการค้นหาผ่านคอมพิวเตอร์
คำอธิบายคลิปวิดีโอ (Video Description)
YouTube จำกัดคำอธิบายคลิปวิดีโอ (Video Description) อยู่ที่ 5,000 ตัวอักษร โดยจำนวนคำที่แนะนำอยู่ที่ 250 คำเป็นอย่างน้อย และคีย์เวิร์ดหลัก ๆ ของคลิปควรอยู่ประมาณ 25 คำแรกของคำอธิบาย นอกจากจะอธิบายว่าคลิปวิดีโอเกี่ยวข้องกับอะไรแล้ว ยูทูบเบอร์สามารถใส่รายละเอียดหรืออ้างอิงเพิ่มเติมจากในคลิป และโปรโมตแบรนด์หรือช่องยูทูบของตัวเอง โดยเพิ่มข้อมูลและ URL ของช่องทางอื่น ๆ ในคำอธิบาย
ยอดเข้าชม (View Count)
ถ้าคลิปวิดีโอไหนมียอดเข้าชม หรือ ยอดวิว (View Count) มาก YouTube จะแสดงผลการค้นหาอยู่อันดับต้น ๆ โดยอัตโนมัติ ดังนั้น การโปรโมตไปยังโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อดึงให้คนเข้ามารับชมนั้น จึงมีประโยชน์ในการเพิ่มยอดเข้าชมในอนาคตได้เป็นอย่างดี
แท็ก (Tag)
ยูทูบเบอร์ควรใส่คำสำคัญที่เกี่ยวของกับวิดีโอไว้ที่ แท็ก (Tags) ทุกครั้ง เพราะเป็นการทำ SEO ให้กับคลิปของคุณ ทำให้คลิปหาเจอได้ง่ายขึ้น แท็กที่ใส่ควรมีดังนี้
• คีย์เวิร์ดหลักที่ตรงกับเนื้อหามากที่สุด (Main Keyword)
• คีย์เวิร์ดที่มีความกว้าง ครอบคลุม และมีแนวโน้มว่าคนจะเสิร์ชหาเยอะ (Broad Keywords)
• คีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงกับหัวข้อหรือเนื้อหาในคลิป (Specific Keywords)
ตัวอย่างคีย์เวิร์ดที่ควรใส่ในแท็ก
คุณภาพของวิดีโอ
YouTube จัดอันดับให้คลิปวิดีโอที่มีคุณภาพสูง ภาพคมชัดกว่า อยู่ในอันดับแรก ๆ ของการค้นหา เพราะคลิปที่คมชัดมีความเป็นมิตรต่อผู้รับชมมากกว่า ซึ่งแต่ละ Channel ควรจะอัปโหลดคลิปที่มีคุณภาพสูงระดับ High Definition (HD) ขึ้นไป
ปัจจุบันยูทูบได้ถอดความคมชัดระดับ 720p ออกจาก HD ไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2563 จึงทำให้ความคมชัดระดับ HD ขึ้นไป ได้แก่
• 1080p และ 1440p อยู่ในระดับ HD
• 2160p อยู่ในระดับ 4K
• 4320p อยู่ในระดับ 8K
นอกจากนี้ ผู้รับชมยังสามารถค้นหาวิดีโอในยูทูบ โดยฟิลเตอร์เฉพาะวิดีโอคุณภาพระดับ HD และ 4K ได้อีก จึงลดโอกาสที่คลิปวิดีโอคุณภาพต่ำกว่า 1080p จะถูกรับชม
ภาพตัวอย่างของวิดีโอ (Thumbnail)
Thumbnail หรือ ภาพตัวอย่างของวิดีโอ คือภาพนิ่งก่อนที่ผู้ชมจะคลิกเข้ามาดูคลิปวิดีโอนั่นเอง Thumbnail ควรสะดุดตาเพื่อดึงความสนใจของผู้ค้นหาให้มารับชม อาจใช้สีสัน และการผสมผสานระหว่างข้อความ ภาพผู้พูด รูปภาพ หรือกราฟิกต่างๆ ไม่ควรใช้ข้อความ 100% ในการทำภาพตัวอย่างเพราะจะทำให้ดูเป็นวิดีโอที่น่าเบื่อ ขนาดภาพที่แนะนำคือ 1280 x 720 px และมีขนาดไม่เกิน 2 MB
ระยะเวลาเข้าชม (Watch Time)
หากมีคลิปวิดีโอสองคลิปที่คุณภาพใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็นชื่อวิดีโอ คำอธิบาย ยอดเข้าชม แท็ก และความคมชัดในระดับใกล้เคียงกัน YouTube จะใช้ระยะเวลาเข้าชมเป็นตัวช่วยจัดอันดับว่าคลิปวิดีโอใดควรอยู่ก่อนหรือหลังในการแสดงผลการค้นหา ซึ่งระยะเวลาเข้าชม (Watch Time) หมายถึง ระยะเวลาสะสมที่ผู้ชมทั้งหมดเข้ามารับชมคลิปวิดีโอนี้ ถ้าคลิปวิดีโอมีระยะเวลาเข้าชมที่ยาวนาน แสดงว่าคลิปนั้นมีประโยชน์ต่อผู้ชมมาก สามารถดึงความสนใจได้นาน
อย่างไรก็ตาม อัลกอริทึมของ YouTube ได้คำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ในการคำนวน Watch Time โดยดูระยะเวลาโดยเฉลี่ยที่ผู้ชมดูคลิปนั้น ๆ เทียบกับความยาวของคลิป และดูอีกว่าหลังจากผู้ชมดูคลิปจบแล้วได้คลิกเพื่อดูคลิปอื่น ๆ ต่ออีกหรือไม่ หากดูคลิปต่อแทนที่จะปิด YouTube ก็จะมีโอกาสที่จะได้ Watch Time ที่สูงกว่า
ตัวอย่างระยะเวลาเข้าชมบน YouTube Analytics (Image: Fanbooster)
โดยสรุปแล้ว YouTube ใช้หลายปัจจัยในการจัดอันดับการค้นหาคลิปวิดีโอ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่ความเป็นมิตรต่อผู้ชม (User friendliness) คลิปวิดีโอที่มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ สร้างความสนุก ภาพคมชัด และน่าสนใจ ก็มีโอกาสที่ผู้ชมจะชมเป็นจำนวนมาก และมีระยะเวลานาน รวมไปถึงมีความสะดวกต่อการค้นหา มักจะมีโอกาสที่จะอยู่ในอันดับต้น ๆ ดังนั้น ยูทูบเบอร์และแบรนด์ต่าง ๆ ควรคำนึงถึงผู้รับชมเป็นหลัก ในการวางแผนสร้าง Content หรือก่อนอัปโหลดวิดีโอลงในช่องยูทูบของตนเอง
ที่มา
-
What Exactly Are the YouTube Ranking Factors? by Anirban Roy
-
6 YouTube SEO Tips to Get Your Videos Ranked by Influencer Marketing Hub
- Watch Time: A Guide to YouTube’s TOP Search Ranking Factor by Mark Robertson


Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates
Other articles for you



Let’s build digital products that are simply awesome !
We will get back to you within 24 hours!Go to contact us








