UX/UI คืออะไร? พื้นฐานที่มือใหม่ต้องรู้ในการออกแบบเว็บไซต์

2 mins read

Published

6 March, 2025

Language

Thai

Written by

Share

UX/UI คืออะไร? พื้นฐานที่มือใหม่ต้องรู้ในการออกแบบเว็บไซต์

เมื่อพูดถึงเว็บไซต์ที่ดี ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ต้องใช้งานง่ายและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ การออกแบบ UX/UI ที่ดีสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ ดึงดูดลูกค้า เพิ่มยอดขาย และลดอัตราการออกจากเว็บไซต์

สำหรับมือใหม่ที่อยากเข้าใจว่า UX/UI คืออะไร และ ต้องเริ่มออกแบบเว็บไซต์อย่างไรให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานสำคัญ พร้อมกรณีศึกษาของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ปรับ UX/UI และสามารถเพิ่มยอดขายได้สำเร็จ

UX/UI คืออะไร และแตกต่างกันอย่างไร?

UX (User Experience) คืออะไร?

UX หรือ ประสบการณ์ผู้ใช้ หมายถึงความรู้สึกของผู้ใช้เมื่อเข้ามาใช้งานเว็บไซต์ เช่น

  • เว็บไซต์ใช้งานง่ายหรือไม่?

  • ผู้ใช้หาสิ่งที่ต้องการได้เร็วแค่ไหน?

  • ระบบโหลดเร็วหรือช้า?

  • ระบบตอบสนองได้ดีแค่ไหน?

ตัวอย่าง UX ที่ดี: เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ที่จัดหมวดหมู่สินค้าชัดเจนและมีปุ่มสั่งซื้อง่ายๆ

 

UI (User Interface) คืออะไร?

UI หรือ ส่วนติดต่อผู้ใช้ หมายถึงการออกแบบองค์ประกอบที่ผู้ใช้มองเห็น เช่น

  • สี ฟอนต์ และองค์ประกอบกราฟิก

  • ปุ่ม "ซื้อเลย" หรือ "สมัครสมาชิก"

  • ไอคอน เมนู และภาพประกอบ

ตัวอย่าง UI ที่ดี: ปุ่ม Call to Action (CTA) เช่น “ซื้อเลย” มีขนาดใหญ่และสีโดดเด่นเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้กดคลิก

 

UX และ UI แตกต่างกันอย่างไร?

  • UX เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดี เช่น ระบบสั่งซื้อที่ง่าย ไม่ซับซ้อน

  • UI เน้นการออกแบบอินเทอร์เฟซให้ดึงดูดสายตา

สรุปง่ายๆ: UX คือ "การใช้งาน" ส่วน UI คือ "การออกแบบ" ทั้งสองสิ่งต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้เว็บไซต์ออกมาสมบูรณ์แบบ

 

องค์ประกอบหลักของ UX/UI ที่ส่งผลต่อประสบการณ์ผู้ใช้

1 ความง่ายในการใช้งาน (Usability)

เว็บไซต์ที่ดีต้องใช้งานง่าย ผู้ใช้ควรหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

ตัวอย่าง: เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่มีแถบค้นหาสินค้าอยู่ด้านบนสุดของหน้าเว็บ

 

2 ออกแบบให้รองรับมือถือ (Mobile-First Design)

มากกว่า 60% ของผู้ใช้เข้าเว็บผ่านมือถือ การออกแบบต้องรองรับทุกขนาดหน้าจอ

ตัวอย่าง: เว็บขายเสื้อผ้าที่ทำให้ปุ่ม “สั่งซื้อ” กดง่ายบนมือถือ

 

3 ความเร็วในการโหลด (Page Speed)

หากเว็บไซต์โหลดช้ากว่า 3 วินาที ผู้ใช้จะออกจากเว็บทันที

ตัวอย่าง: เว็บที่ลดขนาดรูปภาพและใช้เทคนิค Lazy Load ทำให้โหลดเร็วขึ้น

 

4 การออกแบบสีและฟอนต์ (Visual Hierarchy)

  • สีแดง กระตุ้นการตัดสินใจ เหมาะกับปุ่ม "ซื้อเลย"

  • สีฟ้า ให้ความรู้สึกมั่นใจและปลอดภัย

ตัวอย่าง: Amazon ใช้สีเหลือง-ดำในการออกแบบ UI เพื่อกระตุ้นการซื้อ

 

วิธีออกแบบ UX/UI ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

1 ศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้ (User Research)

ก่อนออกแบบ ต้องรู้ว่า กลุ่มเป้าหมายหลักของเว็บไซต์เป็นใคร

  • พวกเขาใช้มือถือหรือเดสก์ท็อปเป็นหลัก?

  • ชอบเว็บที่มีสีสันสดใส หรือโทนเรียบง่าย?

ตัวอย่าง: เว็บขายอุปกรณ์เกมมิ่งมักใช้โทนสีดำ-แดงที่ดูดุดัน

 

2 ออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย (Website Navigation)

  • เมนูควรเข้าใจง่าย เช่น “สินค้า” “เกี่ยวกับเรา” “ติดต่อเรา”

  • ปุ่ม Call-to-Action (CTA) เช่น "ซื้อเลย" ควรเด่นชัด

ตัวอย่าง: Shopee มีปุ่ม "ซื้อเลย" สีส้มที่โดดเด่น ทำให้ลูกค้ากดสั่งซื้อได้ง่าย

 

3 ทำ A/B Testing และปรับปรุง UX/UI อย่างต่อเนื่อง

A/B Testing คือการทดลองใช้ดีไซน์ 2 แบบเพื่อดูว่าอันไหนช่วยให้ผู้ใช้โต้ตอบกับเว็บไซต์ได้ดีขึ้น

ตัวอย่าง: เปลี่ยนปุ่ม "ซื้อเลย" จากสีเทาเป็นสีแดง แล้วพบว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 15%

 

กรณีศึกษา: เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่เปลี่ยน UX/UI แล้วเพิ่มยอดขาย

ปัญหาของเว็บไซต์เดิม:

  • ปุ่ม “ซื้อเลย” มีขนาดเล็กและไม่ชัดเจน

  • เมนูสินค้าหายาก ทำให้ลูกค้าละทิ้งการซื้อ

  • เว็บไซต์โหลดช้า ทำให้ลูกค้าไม่รอ

การปรับปรุง UX/UI :
- เพิ่มขนาดปุ่ม “ซื้อเลย” และเปลี่ยนเป็นสีแดง
- ปรับเมนูสินค้าให้ใช้งานง่ายขึ้น
- ลดขนาดรูปภาพเพื่อให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น

ผลลัพธ์หลังปรับ UX/UI :

  • ยอดขายเพิ่มขึ้น 35% ภายใน 3 เดือน

  • ลูกค้าใช้เวลาอยู่บนเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 40%

  • อัตราการออกจากหน้าเว็บลดลง 25%

 

สรุป:

UX/UI ที่ดีสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ
- ใช้งานง่าย และทำให้ผู้ใช้พึงพอใจ
- ลดอัตราการออกจากเว็บไซต์

- เพิ่มยอดขายและ Conversion Rate

การออกแบบ UX/UI ไม่ใช่แค่เรื่องของดีไซน์ แต่เป็น เครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ ถ้าคุณต้องการเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ อย่าละเลย UX/UI และปรับปรุงให้ดีขึ้นอยู่เสมอ

Written by
Chu Chawit Supanichpol
Chu Chawit Supanichpol

Share

Keep me posted
to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

More than 120,000 people/day  visit to read our blogs

Related articles

Explore all

Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง
18 Sep, 2025

by

Preview email ด้วย Letter Opener
Preview email ด้วย Letter Opener
Letter Opener เป็น gem ของ ที่ใช้แสดงรูปแบบของอีเมลที่เราต้องการจะส่ง ก่อนที่จะส่งจริง เพื่อให้ง่ายและไวต่อการทดสอบ Let's Get started... Installation เพิ่ม Gem ใน Gemfile จากนั้นรัน `bundle install` # Gemfile group :development do gem "letter_opener" gem "letter_opener_web", "~> 1.0" end กำหนดการส่งอีเมลโดยใช้ letter_opener (กรณี Production จะใช้เป็น :smtp) # config/environments/development.rb config.action_mailer.delivery_method
18 Sep, 2025

by

การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need
18 Sep, 2025

by

Contact Senna Labs at :

hello@sennalabs.com28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599
© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved. | Privacy policy