hand lthand lt
25Mar, 2025
Language blog :
Thai
Share blog : 
25 March, 2025
Thai

Headless CMS คืออะไร? ข้อดีและการใช้งานสำหรับธุรกิจ

By

2 mins read
Headless CMS คืออะไร? ข้อดีและการใช้งานสำหรับธุรกิจ

ในยุคที่ธุรกิจต้องการความคล่องตัวในการจัดการเนื้อหาและรองรับการเข้าถึงจากหลายอุปกรณ์ การใช้ Headless CMS กำลังเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ระบบนี้ช่วยให้สามารถเผยแพร่ข้อมูลไปยังเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Banpu เป็นหนึ่งในองค์กรที่นำ Headless CMS มาใช้เพื่อบริหารจัดการเนื้อหาทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันภายในระบบเดียวกัน ซึ่งช่วยให้สามารถอัปเดตข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ลดการทำงานซ้ำซ้อน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล

 

Headless CMS คืออะไร

Headless CMS เป็นระบบบริหารจัดการเนื้อหาที่แยกระหว่าง Backend (ส่วนจัดการข้อมูล) และ Frontend (ส่วนแสดงผล) ทำให้สามารถส่งข้อมูลผ่าน API ไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ ได้อย่างอิสระ

โครงสร้างของ Headless CMS

  1. Content Repository – จัดเก็บข้อมูลและเนื้อหา

  2. API (RESTful หรือ GraphQL) – เชื่อมต่อข้อมูลระหว่าง Backend และแพลตฟอร์มต่างๆ

  3. Frontend – นำข้อมูลจาก API ไปแสดงผลบนเว็บไซต์ แอป หรืออุปกรณ์ IoT

Headless CMS แตกต่างจาก Traditional CMS เช่น WordPress หรือ Joomla ตรงที่ไม่มีการรวม Backend และ Frontend ไว้ในระบบเดียวกัน แต่สามารถนำไปใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นๆ ได้อย่างอิสระ

 

 ข้อดีของ Headless CMS

1) รองรับหลายแพลตฟอร์มจากระบบเดียวกัน

  • อัปเดตข้อมูลเพียงครั้งเดียวและเผยแพร่ได้ทั้งบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มอื่นๆ

  • ลดการทำงานซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเนื้อหา

2) ออกแบบและพัฒนา Frontend ได้อย่างอิสระ

  • นักพัฒนาสามารถใช้เทคโนโลยีใดก็ได้ เช่น React, Vue, Angular, Flutter

  • ไม่ต้องพึ่งพาระบบ CMS ที่มีข้อจำกัดด้านการออกแบบ

3) ปรับปรุงประสิทธิภาพและความเร็วของเว็บไซต์

  • โหลดข้อมูลเฉพาะส่วนที่จำเป็นผ่าน API ทำให้เว็บไซต์ทำงานได้รวดเร็วขึ้น

  • ลดภาระของเซิร์ฟเวอร์และปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้

4) ปรับตัวง่ายต่อการขยายธุรกิจในอนาคต

  • รองรับการเชื่อมต่อกับ AI, Machine Learning และระบบอัตโนมัติ

  • ใช้งานร่วมกับระบบ Cloud และ Microservices ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

ตัวอย่างการใช้งานจริง: Banpu กับ Headless CMS

Banpu บริษัทพลังงานชั้นนำของไทย เลือกใช้ Headless CMS เพื่อบริหารจัดการเนื้อหาผ่านระบบเดียวกัน ทั้งบน เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ

ปัญหาที่พบก่อนใช้ Headless CMS

  • ต้องอัปเดตข้อมูลแยกกันในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ทำให้เกิดความซ้ำซ้อน

  • ระบบ CMS แบบเดิมมีข้อจำกัดในการออกแบบและพัฒนา

  • ต้องการแพลตฟอร์มที่รองรับการขยายธุรกิจในอนาคต

โซลูชันที่ Banpu นำมาใช้

  • ใช้ Headless CMS เพื่อรวมศูนย์ข้อมูล – อัปเดตเนื้อหาครั้งเดียวแล้วเผยแพร่ไปยังทุกแพลตฟอร์มผ่าน API

  • เชื่อมต่อข้อมูลระหว่างเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน – ให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลสำคัญแบบเรียลไทม์

  • พัฒนา Frontend ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ – ใช้ React และ Flutter เพื่อสร้าง UI ที่ตอบสนองรวดเร็ว

ผลลัพธ์ที่ Banpu ได้จากการใช้ Headless CMS

  • ลดเวลาการบริหารเนื้อหาลง 40 เปอร์เซ็นต์ เพราะอัปเดตข้อมูลครั้งเดียวสามารถใช้ได้กับทุกแพลตฟอร์ม

  • เพิ่มความเร็วของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ลดเวลาโหลดและปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้

  • สามารถขยายระบบได้ง่ายขึ้น รองรับการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในอนาคต

 

ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้ Headless CMS

นอกจาก Banpu แล้ว หลายองค์กรระดับโลกก็นำ Headless CMS มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเนื้อหา

1) Netflix

  • ใช้ Headless CMS ในการแสดงข้อมูลภาพยนตร์และซีรีส์ไปยังหลายอุปกรณ์

  • ปรับแต่งเนื้อหาแบบเรียลไทม์ตามพฤติกรรมของผู้ใช้

2) Nike

  • ใช้ Headless CMS ในแพลตฟอร์ม E-Commerce เพื่อรองรับหลายช่องทาง

  • อัปเดตข้อมูลสินค้าและโปรโมชั่นได้อย่างรวดเร็ว

3) Tesla

  • ใช้ระบบ API-Based CMS เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลของรถยนต์และบริการต่างๆ

  • รองรับการแสดงผลผ่านเว็บไซต์ แอป และระบบในรถยนต์

 

วิธีเลือก Headless CMS ให้เหมาะกับธุรกิจ

1) รองรับ API และการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นๆ

  • ควรเลือก CMS ที่มี REST API หรือ GraphQL เพื่อให้สามารถส่งข้อมูลไปยังระบบอื่นได้อย่างยืดหยุ่น

2) รองรับ Omnichannel Content Delivery

  • CMS ควรสามารถเผยแพร่เนื้อหาไปยังเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ในเวลาเดียวกัน

3) มีระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง

  • รองรับการเข้ารหัสข้อมูลและการยืนยันตัวตนเพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์

4) รองรับเทคโนโลยี Frontend ที่ต้องการใช้

  • ควรเลือก CMS ที่สามารถใช้งานร่วมกับ React, Vue, Angular หรือ Flutter ได้

 

สรุป

Headless CMS เป็นโซลูชันที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับหลายแพลตฟอร์ม และช่วยลดภาระในการบริหารจัดการข้อมูล

ตัวอย่างของ Banpu แสดงให้เห็นว่า Headless CMS สามารถช่วยให้บริษัทลดเวลาการทำงาน ปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน และรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต

สำหรับธุรกิจที่ต้องการ ความยืดหยุ่นในการพัฒนาเว็บไซต์และลดต้นทุนในการจัดการเนื้อหา Headless CMS คือทางเลือกที่เหมาะสมในการก้าวสู่ยุคดิจิทัล

Written by
Opal Piyaporn Kijtikhun
Opal Piyaporn Kijtikhun

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

18
April, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
18 April, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
18
April, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
18 April, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
Letter Opener เป็น gem ของ ที่ใช้แสดงรูปแบบของอีเมลที่เราต้องการจะส่ง ก่อนที่จะส่งจริง เพื่อให้ง่ายและไวต่อการทดสอบ Let's Get started... Installation เพิ่ม Gem ใน Gemfile จากนั้นรัน `bundle install` # Gemfile group :development do gem "letter_opener" gem "letter_opener_web", "~> 1.0" end กำหนดการส่งอีเมลโดยใช้ letter_opener (กรณี Production จะใช้เป็น :smtp) # config/environments/development.rb config.action_mailer.delivery_method

By

3 mins read
Thai
18
April, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
18 April, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.