05Feb, 2025
Language blog :
Thai
Share blog : 
05 February, 2025
Thai

เคล็ดลับการร่วมงานกับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

By

2 mins read
เคล็ดลับการร่วมงานกับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรหรือธุรกิจมักเป็นโครงการที่ซับซ้อนและใช้เวลา หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี การทำงานร่วมกับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์อาจเจอปัญหา เช่น งานล่าช้า เกินงบประมาณ หรือผลงานไม่ตรงความคาดหวัง

 

ตัวอย่างการใช้งาน

กรณีศึกษา: องค์กรขนาดใหญ่
องค์กรด้านการเงินแห่งหนึ่งว่าจ้างบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อสร้างระบบจัดการข้อมูลลูกค้า (CRM) ที่ซับซ้อน โครงการนี้มีความท้าทายทั้งด้านฟีเจอร์ การรักษาความปลอดภัย และการกำหนดงบประมาณ

กลยุทธ์ที่ใช้:

  • ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อย

  • มีการประชุมเป็นประจำเพื่อติดตามความคืบหน้า

  • ใช้เครื่องมือสำหรับติดตามงาน เช่น Jira หรือ Trello

ผลลัพธ์:

  • ระบบถูกส่งมอบภายในกำหนดเวลา

  • งบประมาณไม่บานปลาย

  • ทีมงานขององค์กรได้รับการฝึกอบรมจนสามารถใช้งานระบบได้ทันที

 

เคล็ดลับสำคัญในการร่วมงานกับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์

1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่าโครงการนี้ต้องการบรรลุอะไร

  • ตัวอย่างเป้าหมาย:

    • เพิ่มความสะดวกในการจัดการข้อมูลลูกค้า

    • ลดขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อน

    • สร้างระบบที่รองรับผู้ใช้งาน 1,000 คนในปีแรก

เคล็ดลับ:

  • สร้างเอกสารที่สรุปความต้องการ (Requirement Document) และแชร์กับผู้พัฒนา

 

2. สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

การสื่อสารคือกุญแจสำคัญในการทำให้โครงการเดินหน้าได้อย่างราบรื่น

  • จัดการประชุมเป็นประจำเพื่อติดตามความคืบหน้า

  • ใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น Slack, Microsoft Teams หรือ Zoom

เคล็ดลับ:

  • ระบุผู้ประสานงานหลัก (Point of Contact) ทั้งจากฝั่งองค์กรและบริษัทผู้พัฒนา

 

3. ใช้ Agile หรือแบ่งงานเป็นขั้นตอนเล็ก ๆ

แทนที่จะพัฒนาโครงการทั้งหมดในครั้งเดียว ให้แบ่งงานออกเป็น Sprint หรือ Milestones

  • ประโยชน์:

    • เห็นผลลัพธ์บางส่วนได้เร็ว

    • สามารถปรับเปลี่ยนความต้องการได้ง่าย

เคล็ดลับ:

  • ใช้แนวทาง Agile เพื่อส่งมอบฟีเจอร์ทีละส่วนและปรับตามฟีดแบ็ก

 

4. ติดตามงานด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม

ใช้เครื่องมือบริหารโครงการเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและตรวจสอบความคืบหน้าได้ง่าย

  • เครื่องมือที่แนะนำ:

    • Jira: สำหรับการจัดการโครงการแบบ Agile

    • Trello: สำหรับการติดตามงานที่เข้าใจง่าย

    • Asana: สำหรับการประสานงานในทีม

เคล็ดลับ:

  • ตั้งสถานะงาน เช่น "กำลังดำเนินการ", "รอตรวจสอบ", "เสร็จสมบูรณ์" เพื่อให้ทุกคนทราบถึงความคืบหน้า

 

5. กำหนดงบประมาณและเวลาที่เหมาะสม

การตั้งงบประมาณและเวลาที่ชัดเจนช่วยป้องกันปัญหาการบานปลายของโครงการ

  • ขอใบเสนอราคาจากผู้พัฒนาหลายเจ้าเพื่อนำมาเปรียบเทียบ

  • ตกลงเรื่องค่าบริการเพิ่มเติม เช่น การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่

เคล็ดลับ:

  • เพิ่มงบประมาณสำรอง 10-15% สำหรับกรณีที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระหว่างการพัฒนา

 

6. ตรวจสอบงานอย่างสม่ำเสมอ

การปล่อยให้บริษัทพัฒนาทำงานโดยไม่มีการตรวจสอบอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ตรงกับความคาดหวัง

  • จัดการรีวิวงานในแต่ละ Milestone

  • ขอการสาธิตฟีเจอร์ที่พัฒนาสำเร็จ

เคล็ดลับ:

  • ใช้ระบบ Feedback Loop เพื่อปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง

 

7. ให้ความสำคัญกับการทดสอบระบบ

ก่อนการส่งมอบซอฟต์แวร์ ควรมีการทดสอบระบบอย่างละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่าทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา

  • ประเภทการทดสอบที่ควรทำ:

    • Functional Testing: ตรวจสอบฟังก์ชันการทำงาน

    • Security Testing: ตรวจสอบความปลอดภัย

    • User Acceptance Testing (UAT): ให้ผู้ใช้งานจริงทดสอบระบบ

 

8. วางแผนสำหรับการสนับสนุนหลังการส่งมอบ

การพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ได้จบที่การส่งมอบ แต่ต้องมีบริการหลังการขาย เช่น การแก้ไขบั๊กหรือการอัปเดต

  • ตกลงเงื่อนไขการสนับสนุน เช่น การตอบสนองปัญหาในกรณีฉุกเฉิน

เคล็ดลับ:

  • ขอแพ็กเกจบริการหลังการพัฒนาจากบริษัทผู้พัฒนา

 

ความสำเร็จในการทำงานร่วมกับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์

สิ่งที่ต้องทำ:

  • ระบุเป้าหมายให้ชัดเจน

  • สื่อสารอย่างเปิดเผยและต่อเนื่อง

  • ตรวจสอบความคืบหน้าและให้ฟีดแบ็กอย่างสม่ำเสมอ

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • ไม่กำหนดขอบเขตงานที่แน่นอน

  • ขาดการติดตามงานหรือการตรวจสอบ

  • ไม่วางแผนสำหรับการเปลี่ยนแปลงระหว่างโครงการ

 

สรุป:

การร่วมงานกับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ใช่แค่การว่าจ้างให้ทำงาน แต่เป็นการสร้างความร่วมมือที่ต้องอาศัยการวางแผน การสื่อสาร และการตรวจสอบที่ดี ตัวอย่างจากองค์กรขนาดใหญ่ที่สามารถส่งมอบโครงการตามกำหนดเวลาและงบประมาณ แสดงให้เห็นว่า การปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ

 

Written by
Opal Piyaporn Kijtikhun
Opal Piyaporn Kijtikhun

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

07
July, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
7 July, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
07
July, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
7 July, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
Letter Opener เป็น gem ของ ที่ใช้แสดงรูปแบบของอีเมลที่เราต้องการจะส่ง ก่อนที่จะส่งจริง เพื่อให้ง่ายและไวต่อการทดสอบ Let's Get started... Installation เพิ่ม Gem ใน Gemfile จากนั้นรัน `bundle install` # Gemfile group :development do gem "letter_opener" gem "letter_opener_web", "~> 1.0" end กำหนดการส่งอีเมลโดยใช้ letter_opener (กรณี Production จะใช้เป็น :smtp) # config/environments/development.rb config.action_mailer.delivery_method

By

3 mins read
Thai
07
July, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
7 July, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.