hand lt
hand lt
hand lt
08Nov, 2024
Language blog :
English
Share blog : 
08 November, 2024
English

การออกแบบหน้า Landing Page แบบ Responsive สำหรับการตลาดออนไลน์

By

2 mins read
การออกแบบหน้า Landing Page แบบ Responsive สำหรับการตลาดออนไลน์

ในยุคที่การตลาดออนไลน์มีบทบาทสำคัญ การออกแบบหน้า Landing Page เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นหน้าที่ผู้ใช้จะมองเห็นและโต้ตอบเมื่อเข้าถึงแคมเปญการตลาดต่าง ๆ การมีหน้า Landing Page ที่มีการออกแบบให้ใช้งานง่ายและรองรับทุกขนาดหน้าจอ หรือที่เรียกว่า Responsive Design จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เช่น การสมัครสมาชิก การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม หรือการสั่งซื้อสินค้า ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบหน้า Landing Page แบบ Responsive เพื่อเพิ่ม Conversion Rate ในการตลาดออนไลน์ และเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้จากทุกอุปกรณ์

ความสำคัญของการออกแบบหน้า Landing Page แบบ Responsive

Landing Page ถือเป็นหน้าที่สำคัญในการแปลงผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นลูกค้าหรือผู้ใช้งานจริง การออกแบบหน้า Landing Page ให้รองรับการแสดงผลบนทุกขนาดหน้าจอเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลและทำกิจกรรมที่เราต้องการได้โดยสะดวก ไม่ว่าพวกเขาจะเข้าผ่านโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ นอกจากนี้การที่หน้า Landing Page มีการออกแบบแบบ Responsive ยังส่งผลดีต่อ SEO และการจัดอันดับบนเครื่องมือค้นหา ทำให้แคมเปญการตลาดของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เทคนิคการออกแบบหน้า Landing Page แบบ Responsive สำหรับการตลาดออนไลน์

เพื่อให้การออกแบบหน้า Landing Page มีประสิทธิภาพและใช้งานง่ายบนทุกหน้าจอ มีเทคนิคที่สามารถนำมาใช้ได้ดังนี้:

1. ใช้ Layout ที่ยืดหยุ่นและตอบสนองได้ดี

การใช้ CSS Grid หรือ Flexbox ในการออกแบบหน้า Landing Page จะช่วยให้โครงสร้างของหน้าสามารถปรับเปลี่ยนไปตามขนาดหน้าจอได้อย่างลงตัว ทำให้เนื้อหาดูเป็นระเบียบและเหมาะสมกับทุกขนาดหน้าจอ ไม่ว่าผู้ใช้จะเข้าผ่านมือถือหรือเดสก์ท็อป

ข้อดีของการใช้ CSS Grid และ Flexbox:

  • ทำให้หน้าเว็บดูเป็นระเบียบและสวยงามไม่ว่าจะเปิดบนอุปกรณ์ใด

  • ช่วยให้ผู้ใช้เห็นข้อมูลสำคัญได้ง่าย เช่น ส่วนหัวข้อ คำอธิบาย และปุ่มลงทะเบียน

2. การใช้ Media Queries เพื่อปรับการแสดงผลตามขนาดหน้าจอ

Media Queries ใน CSS เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การออกแบบเว็บไซต์สามารถปรับขนาดของฟอนต์ ปุ่ม และองค์ประกอบต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ในหน้าจอมือถือสามารถทำให้ฟอนต์ใหญ่ขึ้นและปุ่มลงทะเบียนมีขนาดใหญ่พอที่จะกดได้ง่าย

ตัวอย่างการใช้ Media Queries:

  • กำหนดให้ฟอนต์มีขนาดใหญ่ขึ้นในหน้าจอมือถือ เพื่อให้อ่านง่าย

  • ตั้งค่าให้ปุ่ม Call-to-Action (CTA) มีขนาดใหญ่ขึ้นและอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการกด

3. ใช้ภาพและวิดีโอที่เหมาะสมกับทุกหน้าจอ

การใช้ภาพและวิดีโอที่สวยงามและดึงดูดเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้หน้า Landing Page น่าสนใจ แต่ควรเลือกใช้ไฟล์ที่มีขนาดเล็กและปรับขนาดให้เหมาะสมกับหน้าจอเพื่อให้การโหลดหน้าเว็บทำได้รวดเร็ว การใช้ Responsive Images หรือการตั้งค่าให้ภาพมีขนาดที่เหมาะสมตามอุปกรณ์จะช่วยให้หน้า Landing Page ดูน่าสนใจและทำงานได้รวดเร็ว

เทคนิคการใช้ภาพและวิดีโอ:

  • ใช้รูปแบบไฟล์ WebP ซึ่งเป็นไฟล์ภาพที่ขนาดเล็กแต่มีคุณภาพสูง เหมาะสำหรับการแสดงผลบนเว็บ

  • เปิดใช้งาน Lazy Loading เพื่อให้ภาพและวิดีโอโหลดเฉพาะเมื่อผู้ใช้เลื่อนมาถึงตำแหน่งนั้น ช่วยให้การโหลดหน้าเว็บทำได้เร็วขึ้น

4. การจัดวาง Call-to-Action (CTA) ให้เด่นชัดและเข้าถึงง่าย

ปุ่ม CTA เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในหน้า Landing Page ซึ่งควรจัดวางให้อยู่ในตำแหน่งที่เด่นชัดและสะดวกต่อการกด โดยเฉพาะในหน้าจอมือถือ ควรให้ CTA มีขนาดใหญ่พอที่จะกดได้ง่ายและใช้ข้อความที่กระตุ้นให้ผู้ใช้รู้สึกอยากกด เช่น “ลงทะเบียนทันที” หรือ “รับสิทธิพิเศษตอนนี้”

วิธีการปรับแต่ง CTA:

  • ใช้สีที่ตัดกับพื้นหลังเพื่อให้ CTA ดูโดดเด่น

  • วางปุ่ม CTA ให้อยู่ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดและไม่ต้องเลื่อนหามาก

5. ลดขั้นตอนในการลงทะเบียนให้สั้นและง่ายที่สุด

เพื่อให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกยุ่งยากในการลงทะเบียน ควรออกแบบฟอร์มให้มีจำนวนช่องกรอกข้อมูลน้อยที่สุดและใช้ฟอร์มที่ใช้งานง่ายในหน้าจอมือถือ การลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้จะกรอกข้อมูลและกดส่งข้อมูลสำเร็จ

เทคนิคการออกแบบฟอร์มให้ใช้งานง่าย:

  • ใช้การเติมข้อมูลอัตโนมัติ (Auto-fill) เช่น การกรอกอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์

  • ลดจำนวนช่องข้อมูลที่ต้องกรอกให้น้อยที่สุด

  • วางฟอร์มให้อยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่ายโดยไม่ต้องเลื่อนมาก

กรณีศึกษา: หน้า Landing Page แบบ Responsive สำหรับการตลาดออนไลน์

บริษัทหนึ่งได้จัดแคมเปญการตลาดออนไลน์โดยใช้หน้า Landing Page แบบ Responsive เพื่อให้ผู้ใช้สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้จากทุกอุปกรณ์ ซึ่งก่อนการปรับปรุงหน้า Landing Page ทีมงานพบว่ามีผู้ใช้งานที่ต้องการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก แต่มีปัญหาในการใช้งานผ่านมือถือเนื่องจากขนาดปุ่มที่เล็กเกินไปและรูปภาพที่โหลดช้า จึงทำให้เกิดการปรับปรุงหน้า Landing Page ให้รองรับการใช้งานบนมือถือได้ดีขึ้น

การปรับปรุงที่ทำ

  1. การใช้ CSS Grid และ Flexbox: ทีมพัฒนาได้ใช้ CSS Grid และ Flexbox ในการจัดเรียงข้อมูล ทำให้เนื้อหาและปุ่มต่าง ๆ สามารถปรับขนาดและจัดเรียงตามขนาดหน้าจอได้อย่างเหมาะสม

  2. การใช้ Media Queries: ขนาดของฟอนต์และปุ่มลงทะเบียนถูกปรับให้ใหญ่ขึ้นสำหรับการแสดงผลบนมือถือ ผู้ใช้สามารถอ่านข้อมูลและกดปุ่มได้ง่ายโดยไม่ต้องขยายหน้าจอ

  3. ปรับขนาดภาพให้เหมาะสมกับหน้าจอมือถือ: ทีมพัฒนาได้บีบอัดขนาดภาพและใช้ Lazy Loading ทำให้ภาพที่ไม่จำเป็นยังไม่โหลดทันที ช่วยลดเวลาในการโหลดหน้าเว็บ

  4. ใช้ปุ่ม CTA ที่เด่นชัด: ปุ่ม “ลงทะเบียนทันที” ถูกวางในตำแหน่งที่เข้าถึงง่ายและใช้สีที่โดดเด่น ช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้กดปุ่มเพื่อทำการลงทะเบียน

  5. ลดขั้นตอนการลงทะเบียนให้สั้น: ฟอร์มลงทะเบียนถูกลดขั้นตอนให้มีเพียงข้อมูลสำคัญ ทำให้ผู้ใช้สามารถกรอกข้อมูลได้รวดเร็วและกดส่งข้อมูลได้อย่างไม่ยุ่งยาก

ผลลัพธ์ที่ได้

หลังจากปรับปรุงหน้า Landing Page ให้เป็น Responsive พบว่าจำนวนผู้ลงทะเบียนผ่านมือถือเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และมีการโหลดหน้าเว็บที่เร็วขึ้น ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องรอคอยนาน นอกจากนี้ อัตราการละทิ้งหน้าก็ลดลงเพราะผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวกจากทุกอุปกรณ์ ส่งผลให้แคมเปญการตลาดนี้มีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น

สรุป

การออกแบบหน้า Landing Page แบบ Responsive เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการตลาดออนไลน์ในยุคที่ผู้คนเข้าถึงข้อมูลผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ การใช้ CSS Grid และ Flexbox การปรับการแสดงผลด้วย Media Queries การใช้ภาพและวิดีโอที่เหมาะสม รวมถึงการจัดวาง CTA ที่เข้าถึงง่ายและลดขั้นตอนการลงทะเบียนให้สั้น จะช่วยให้หน้า Landing Page ใช้งานได้ง่ายบนทุกหน้าจอ เพิ่มโอกาสในการแปลงผู้ใช้ให้เป็นลูกค้าจริง และทำให้แคมเปญการตลาดของเราประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

 

Written by
Chu Chawit Supanichpol
Chu Chawit Supanichpol

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

13
December, 2024
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
13 December, 2024
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
13
December, 2024
Preview email ด้วย Letter Opener
13 December, 2024
Preview email ด้วย Letter Opener
Letter Opener เป็น gem ของ ที่ใช้แสดงรูปแบบของอีเมลที่เราต้องการจะส่ง ก่อนที่จะส่งจริง เพื่อให้ง่ายและไวต่อการทดสอบ Let's Get started... Installation เพิ่ม Gem ใน Gemfile จากนั้นรัน `bundle install` # Gemfile group :development do gem "letter_opener" gem "letter_opener_web", "~> 1.0" end กำหนดการส่งอีเมลโดยใช้ letter_opener (กรณี Production จะใช้เป็น :smtp) # config/environments/development.rb config.action_mailer.delivery_method

By

3 mins read
Thai
13
December, 2024
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
13 December, 2024
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.