08Apr, 2025
Language blog :
Thai
Share blog : 
08 April, 2025
Thai

Product Categories: การจัดหมวดหมู่สินค้าเพื่อการค้นหาที่ง่ายและสะดวกขึ้น

By

2 mins read
Product Categories: การจัดหมวดหมู่สินค้าเพื่อการค้นหาที่ง่ายและสะดวกขึ้น

Product Categories หรือ การจัดหมวดหมู่สินค้า เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาและเลือกซื้อสินค้าหรือบริการได้ง่ายขึ้น โดยการจัดเรียงสินค้าออกเป็นกลุ่มตามลักษณะหรือประเภทของสินค้า

ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่ใช้ Product Categories

Shopee & Lazada – มีหมวดหมู่สินค้าหลัก เช่น แฟชั่น, เครื่องใช้ไฟฟ้า, สุขภาพและความงาม
Amazon & eBay – แบ่งสินค้าออกเป็นหมวดหมู่ย่อย เช่น โทรศัพท์มือถือ > อุปกรณ์เสริม > เคสโทรศัพท์
Netflix & Spotify – ใช้หมวดหมู่เพื่อจัดกลุ่มคอนเทนต์ เช่น ภาพยนตร์แอ็กชัน, เพลย์ลิสต์เพลงป๊อป

ในบทความนี้ เราจะอธิบายความสำคัญของ Product Categories พร้อมตัวอย่างจากแพลตฟอร์มชื่อดัง เพื่อให้เข้าใจว่าการจัดหมวดหมู่สินค้ามีผลต่อประสบการณ์ผู้ใช้อย่างไร

Sitting on sofa of woman in vr to meta with lipstick or perfume hallucination

 

Product Categories คืออะไร?

Product Categories คือ การจัดเรียงสินค้าออกเป็นหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาสินค้าได้เร็วขึ้น หมวดหมู่อาจแบ่งตามลักษณะของสินค้า เช่น ประเภทสินค้า, แบรนด์, ราคา, หรือการใช้งาน

 

ตัวอย่างการใช้งานจริง:

Shopee & Lazada: มีหมวดหมู่ “มือถือ & แท็บเล็ต” และหมวดย่อย “iPhone”, “Samsung”, “เคสโทรศัพท์”

How Shopee's Design Team Influences Product and Brand Design in Southeast  Asia | by Shopee Design | Shopee Design | Medium

Netflix & Disney+: ใช้หมวดหมู่เพื่อแนะนำหนัง เช่น “แอ็กชัน”, “โรแมนติก”, “สารคดี”

Netflix UI/UX Evolution - Seemingly Simple — Amrit Pal Singh | Visual  Artist | NFTs | Toy Faces | Toy Maker | 3D illustration

Spotify & Apple Music: ใช้หมวดหมู่เพลง เช่น “เพลงฮิต 2024”, “เพลงออกกำลังกาย”, “เพลงชิว ๆ”

Spotify brings new design for desktop app, web player and synced lyrics for  Indian users - Technology News | The Financial Express

 

ประเภทของการจัดหมวดหมู่สินค้า

1. Hierarchical Categories (หมวดหมู่แบบลำดับชั้น)

การจัดหมวดหมู่แบบ หมวดหลัก > หมวดย่อย

ตัวอย่าง:

Shopee & Lazada
• หมวดหลัก: เครื่องใช้ไฟฟ้า
• หมวดย่อย: โทรศัพท์มือถือ, แล็ปท็อป, เครื่องเสียง, กล้องถ่ายรูป

Amazon & eBay
• หมวดหลัก: เสื้อผ้า & เครื่องแต่งกาย
หมวดย่อย: เสื้อยืด, กางเกงยีนส์, รองเท้าผ้าใบ

 

2. Tag-Based Categories (หมวดหมู่ตามแท็กหรือคีย์เวิร์ด)

ใช้แท็ก (Tags) เพื่อจัดกลุ่มสินค้าตามคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่าง:

Netflix & Disney+
• ใช้แท็ก “หนังแนวผจญภัย”, “หนังที่ได้รับรางวัล”, “หนังสำหรับครอบครัว”

Disney+ UX Redesign — Tim Joo

Spotify & YouTube Music
• เพลย์ลิสต์แท็ก “เพลงฮิต 2024”, “เพลงฝนตก”, “เพลงอินดี้”

YouTube Music users can now build custom radio stations - Tubefilter

3. Seasonal & Trending Categories (หมวดหมู่ตามเทศกาลและแนวโน้มตลาด)

หมวดหมู่ที่เปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา เทรนด์ หรือเทศกาล

ตัวอย่าง:

Shopee & Lazada
• หมวดหมู่ “สินค้าโปรโมชัน 11.11”, “ของขวัญปีใหม่”, “Back to School”

Netflix & Disney+
• หมวดหมู่ “หนังฮาโลวีน”, “หนังคริสต์มาส”, “ซีรีส์ที่คนดูมากที่สุดตอนนี้”

2021 Netflix Christmas Movie Binge | The Scribbling Geek

ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่ใช้ Product Categories

1. Shopee & Lazada – แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์

หมวดหมู่หลัก:

    • มือถือ & อุปกรณ์เสริม
    • เสื้อผ้าแฟชั่น
    • ของใช้ในบ้าน

หมวดย่อย:

    • เสื้อยืด, กางเกงยีนส์, กระเป๋าแฟชั่น

ทำไมสำคัญ?

• ช่วยให้ผู้ซื้อหา หมวดหมู่ที่ต้องการได้เร็วขึ้น
• แนะนำสินค้าเพิ่มเติมในหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

 

2. Netflix & Disney+ – แพลตฟอร์มสตรีมมิง

หมวดหมู่หลัก:

    • หนังแอ็กชัน, หนังตลก, หนังรักโรแมนติก
      ซีรีส์เกาหลี, ซีรีส์อเมริกัน

หมวดย่อย:

    • หนังที่ได้รับรางวัล, หนังสำหรับครอบครัว

ทำไมสำคัญ?

• แนะนำคอนเทนต์ที่ตรงกับรสนิยมของผู้ใช้
• เพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้ ค้นพบเนื้อหาใหม่ ๆ

 

3. Spotify & Apple Music – แพลตฟอร์มเพลง

หมวดหมู่หลัก:

    • เพลงป๊อป, เพลงร็อค, เพลงฮิปฮอป
      เพลงคลาสสิค

หมวดย่อย:

    • เพลงออกกำลังกาย, เพลงทำงาน, เพลงดนตรีบรรเลง

ทำไมสำคัญ?

ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาเพลงตามอารมณ์หรือกิจกรรม

 

ข้อดีของการมี Product Categories ที่ดี

  1. ช่วยให้การค้นหาสินค้าง่ายขึ้น
    • ลดเวลาค้นหา ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสินค้าได้โดยตรง

  2. เพิ่มโอกาสในการขาย
    • ระบบสามารถแนะนำสินค้าในหมวดหมู่เดียวกันเพื่อเพิ่มยอดขาย

  3. ปรับแต่งประสบการณ์ให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละกลุ่ม
    • ผู้ใช้ที่สนใจสินค้าในหมวดหนึ่ง มักจะสนใจสินค้าที่เกี่ยวข้อง

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Product Categories

1. ทำไมบางแพลตฟอร์มถึงมีหมวดหมู่เยอะมาก?

คำตอบ:
เพราะต้องการให้ผู้ใช้ค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้น และช่วยให้แพลตฟอร์มแนะนำสินค้าได้แม่นยำ

2. สามารถจัดหมวดหมู่ตามพฤติกรรมผู้ใช้ได้หรือไม่?

คำตอบ:
ได้! หลายแพลตฟอร์มใช้ AI แนะนำหมวดหมู่ที่ตรงกับพฤติกรรม เช่น Netflix & Spotify

3. หมวดหมู่ควรมีจำนวนเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม?

คำตอบ:
ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า ถ้าหมวดหมู่มากเกินไป อาจทำให้ผู้ใช้สับสน ควรจัดให้ง่ายต่อการนำทาง

 

สรุป

Product Categories เป็นฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น โดยแบ่งหมวดหมู่ตามประเภทสินค้า, แท็ก, เทรนด์ หรือเทศกาล ตัวอย่างจาก Shopee, Lazada, Netflix, Spotify และ Apple Music แสดงให้เห็นว่าการจัดหมวดหมู่ที่ดีช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงสินค้าได้รวดเร็วขึ้น และทำให้แพลตฟอร์มสามารถแนะนำสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Written by
Opal Piyaporn Kijtikhun
Opal Piyaporn Kijtikhun

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

06
September, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
6 September, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
06
September, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
6 September, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
Letter Opener เป็น gem ของ ที่ใช้แสดงรูปแบบของอีเมลที่เราต้องการจะส่ง ก่อนที่จะส่งจริง เพื่อให้ง่ายและไวต่อการทดสอบ Let's Get started... Installation เพิ่ม Gem ใน Gemfile จากนั้นรัน `bundle install` # Gemfile group :development do gem "letter_opener" gem "letter_opener_web", "~> 1.0" end กำหนดการส่งอีเมลโดยใช้ letter_opener (กรณี Production จะใช้เป็น :smtp) # config/environments/development.rb config.action_mailer.delivery_method

By

3 mins read
Thai
06
September, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
6 September, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.