2025 กับเทรน Machine Learning และ Web Application ที่ต้องรู้

2 mins read

Published

28 March, 2025

Language

Thai

Written by

Share

2025 กับเทรน Machine Learning และ Web Application ที่ต้องรู้

ในปี 2025 Machine Learning (ML) ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Web Application ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย หลายแพลตฟอร์มเริ่มนำ ML มาใช้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ เพิ่มความแม่นยำในการให้บริการ และทำให้การตัดสินใจทางธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจ นักพัฒนา หรือผู้ใช้งานทั่วไป Web Application ที่ขับเคลื่อนด้วย Machine Learning กำลังเปลี่ยนวิธีที่เราซื้อของ ค้นหาข้อมูล และโต้ตอบกับแพลตฟอร์มออนไลน์

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่า Machine Learning เปลี่ยนโฉม Web Application อย่างไรในปี 2025 และตัวอย่างการใช้งานจริงในธุรกิจไทย เช่น Shopee, Lazada และ JD Central

Machine Learning ใน Web Application คืออะไร?

Machine Learning (ML) เป็นแขนงหนึ่งของ Artificial Intelligence (AI) ที่ช่วยให้ระบบสามารถเรียนรู้จากข้อมูลและพัฒนาให้ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องมีการเขียนโค้ดใหม่ทุกครั้ง

สำหรับ Web Application ML สามารถช่วยให้ระบบมีความชาญฉลาดมากขึ้นในหลายด้าน เช่น

  • การแนะนำสินค้า (Recommendation System)

  • การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ (User Behavior Analytics)

  • การตอบกลับอัตโนมัติผ่านแชทบอท (AI Chatbot)

  • ระบบค้นหาอัจฉริยะ (Smart Search Engine)

  • การป้องกันการโกง (Fraud Detection)

ทำไม Web Application ต้องใช้ Machine Learning?

  1. ปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้ (Personalization) – เว็บไซต์สามารถนำเสนอเนื้อหาหรือสินค้าที่เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน

  2. เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน – ระบบอัตโนมัติช่วยลดต้นทุนและลดข้อผิดพลาด

  3. ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น – ML วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากเพื่อช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจแม่นยำขึ้น

  4. เพิ่มอัตราการมีส่วนร่วม (Engagement Rate) – การแนะนำสินค้าหรือเนื้อหาที่เหมาะสมช่วยเพิ่มการคลิกและยอดขาย

 

ตัวอย่างจริง: การใช้ Machine Learning ในธุรกิจไทย

1. ระบบแนะนำสินค้าอัจฉริยะ (Recommendation System)

หนึ่งในแอปพลิเคชันที่โดดเด่นที่สุดของ ML ใน Web Application คือ ระบบแนะนำสินค้า ซึ่งช่วยให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและแนะนำสินค้าที่ตรงใจ

ตัวอย่าง:

  • Shopee ใช้ ML วิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า เช่น ดูสินค้าประเภทไหน กดไลก์อะไร หรือเคยซื้อสินค้าอะไร แล้วแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องให้

  • Lazada ใช้อัลกอริธึม ML เพื่อคาดการณ์ว่าสินค้าไหนกำลังเป็นที่นิยม และส่งโปรโมชั่นเฉพาะบุคคล

  • JD Central ใช้ AI และ ML เพื่อให้ข้อเสนอส่วนลดที่ตรงกับความสนใจของลูกค้าแต่ละคน

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • ลูกค้าได้รับข้อเสนอที่ตรงกับความต้องการ

  • เพิ่มโอกาสในการขาย (Conversion Rate)

  • ลดอัตราการละทิ้งตะกร้าสินค้า

 

2. AI Chatbot ตอบกลับอัตโนมัติแบบเรียลไทม์

หลายธุรกิจในไทยเริ่มนำ AI Chatbot ที่ใช้ Machine Learning มาใช้ใน Web Application เพื่อลดภาระของฝ่ายบริการลูกค้า

ตัวอย่าง:

  • ธนาคาร SCB และ KBank ใช้แชทบอท AI ในเว็บและแอปเพื่อตอบคำถามทั่วไป เช่น สอบถามยอดเงิน การสมัครบัตรเครดิต หรือโปรโมชั่น

  • TrueMove H และ AIS ใช้ ML ในแชทบอทเพื่อตรวจสอบปัญหาการใช้งานเครือข่ายและแนะนำแพ็กเกจที่เหมาะสม

  • สายการบินไทยแอร์เอเชีย ใช้ AI Chatbot ให้ข้อมูลเที่ยวบิน เช็คอิน และแจ้งเตือนการเดินทาง

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • ลดเวลาในการตอบกลับลูกค้า

  • เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

  • ลดต้นทุนการจ้างพนักงานบริการ

 

3. ระบบค้นหาอัจฉริยะ (AI-Powered Search Engine)

ในอดีต การค้นหาบนเว็บไซต์อาจใช้การจับคู่คีย์เวิร์ดแบบธรรมดา แต่ในปี 2025 ระบบค้นหาที่ใช้ ML สามารถเข้าใจเจตนาของผู้ใช้ได้ดีขึ้น

ตัวอย่าง:

  • Wongnai ใช้ AI วิเคราะห์รีวิวอาหารและแนะนำร้านที่ตรงกับรสนิยมของผู้ใช้

  • Pantip ใช้ ML เพื่อจัดหมวดหมู่กระทู้และให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำขึ้น

  • LINE MAN ใช้ AI ปรับปรุงระบบค้นหาเมนูอาหารที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละคน

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • ค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น

  • ค้นหาผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น

  • ลดข้อผิดพลาดในการแสดงผลการค้นหา

 

อนาคตของ Machine Learning กับ Web Application ในไทย

ในปี 2025 และอนาคตต่อไป ML จะกลายเป็นมาตรฐานของ Web Application ทั่วโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการการปรับแต่งเนื้อหาและการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก

แนวโน้มสำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

  • AI และ ML จะกลายเป็นฟีเจอร์หลักของทุกแพลตฟอร์ม

  • ระบบแนะนำสินค้าและโฆษณาจะฉลาดขึ้นและแม่นยำขึ้น

  • แชทบอทจะพัฒนาจนแทบไม่ต่างจากการสนทนากับมนุษย์จริงๆ

  • ระบบป้องกันการโกงและความปลอดภัยจะถูกพัฒนาให้แม่นยำขึ้น

ธุรกิจไทยที่ต้องการอยู่รอดและแข่งขันได้จำเป็นต้อง ปรับตัวให้ทันเทรนด์นี้

 

สรุป

Machine Learning กำลังเปลี่ยนแปลง Web Application ในปี 2025 อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น ระบบแนะนำสินค้า, AI Chatbot, ระบบค้นหาอัจฉริยะ และการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้

Written by
Hussein Hussein Ali Azeez
Hussein Hussein Ali Azeez

Share

Keep me posted
to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

More than 120,000 people/day  visit to read our blogs

Related articles

Explore all

Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง
16 Sep, 2025

by

Preview email ด้วย Letter Opener
Preview email ด้วย Letter Opener
Letter Opener เป็น gem ของ ที่ใช้แสดงรูปแบบของอีเมลที่เราต้องการจะส่ง ก่อนที่จะส่งจริง เพื่อให้ง่ายและไวต่อการทดสอบ Let's Get started... Installation เพิ่ม Gem ใน Gemfile จากนั้นรัน `bundle install` # Gemfile group :development do gem "letter_opener" gem "letter_opener_web", "~> 1.0" end กำหนดการส่งอีเมลโดยใช้ letter_opener (กรณี Production จะใช้เป็น :smtp) # config/environments/development.rb config.action_mailer.delivery_method
16 Sep, 2025

by

การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need
16 Sep, 2025

by

Contact Senna Labs at :

hello@sennalabs.com28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599
© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved. | Privacy policy