19Feb, 2025
Language blog :
Thai
Share blog : 
19 February, 2025
Thai

ระบบ ERP สำหรับร้านค้า SME คุ้มหรือไม่

By

2 mins read
ระบบ ERP สำหรับร้านค้า SME คุ้มหรือไม่

ระบบ ERP คืออะไร และทำไมธุรกิจ SME ต้องใช้

ในยุคที่ธุรกิจต้องแข่งขันกับความเร็วและความแม่นยำ การจัดการข้อมูลที่เป็นระบบ คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง ERP (Enterprise Resource Planning) เป็นระบบที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรวมการทำงานของแผนกต่างๆ เข้าไว้ในระบบเดียว เช่น

  • การจัดการสต๊อกสินค้า

  • การขายและคำสั่งซื้อ

  • การบัญชีและการเงิน

  • การจัดการซัพพลายเชนและโลจิสติกส์

  • การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)

ERP ไม่ใช่แค่ระบบสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ แต่ธุรกิจ SME โดยเฉพาะร้านค้าปลีกหรือร้านค้าที่ต้องบริหารสต๊อกสินค้าและการจัดส่งหลายช่องทาง สามารถใช้ ERP เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ERP มีประโยชน์ต่อธุรกิจ SME อย่างไร

การใช้ระบบ ERP สามารถช่วยให้ร้านค้าขนาดเล็กและกลางดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านต่อไปนี้

1. บริหารสต๊อกสินค้าได้แม่นยำขึ้น

  • เชื่อมโยงข้อมูลสินค้าจากทุกช่องทางขาย เช่น ร้านค้าออนไลน์ Shopee, Lazada, Facebook, และหน้าร้านจริง

  • ป้องกันปัญหาสินค้าหมดสต๊อกโดยไม่รู้ตัว หรือสินค้าคงค้างที่ขายไม่ออก

  • ลดความผิดพลาดในการนับสต๊อกและช่วยให้สามารถวางแผนเติมสินค้าได้ดีขึ้น

2. บริหารคำสั่งซื้อและการจัดส่งอย่างเป็นระบบ

  • รวมข้อมูลคำสั่งซื้อจากทุกแพลตฟอร์มเข้าไว้ที่เดียว

  • เชื่อมต่อกับระบบขนส่ง เช่น Kerry, Flash Express, J&T หรือไปรษณีย์ไทย ทำให้สามารถออกใบปะหน้าและติดตามสถานะจัดส่งได้แบบเรียลไทม์

3. ลดความผิดพลาดด้านบัญชีและการเงิน

  • อัตโนมัติการบันทึกยอดขาย ค่าใช้จ่าย และต้นทุนสินค้า

  • เชื่อมโยงกับระบบภาษีและใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้การทำบัญชีง่ายขึ้น

  • ลดโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลด้วยมือ

4. วิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น

  • ERP สามารถดึง รายงานยอดขาย ยอดคงเหลือของสินค้า ต้นทุนกำไร และแนวโน้มพฤติกรรมลูกค้า ออกมาแบบอัตโนมัติ

  • ช่วยให้เจ้าของร้านสามารถตัดสินใจเรื่องการตลาด การตั้งราคาสินค้า และการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

กรณีศึกษา: ร้านเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ ERP เพื่อจัดการสต๊อกและการจัดส่ง

ร้าน "FurniSmart" เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ขนาดกลางที่จำหน่ายสินค้าผ่านหลายช่องทาง ได้แก่ ร้านหน้าร้าน เว็บไซต์ และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (Shopee, Lazada, Facebook Marketplace)

ก่อนที่จะใช้ระบบ ERP ร้านต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่าง เช่น

  • สต๊อกสินค้าไม่ตรงกัน สินค้าบางรายการหมดสต๊อกแล้ว แต่ยังโชว์ว่ามีในระบบ

  • คำสั่งซื้อจากหลายแพลตฟอร์มต้องจัดการแยกกัน ทำให้มีความล่าช้าในการจัดส่ง

  • การจัดการบัญชีและเอกสารยุ่งยาก ต้องป้อนข้อมูลด้วยมือหลายครั้ง

  • ไม่มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับยอดขายและต้นทุนที่แท้จริง

แนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ระบบ ERP

FurniSmart ตัดสินใจติดตั้งระบบ ERP ที่สามารถเชื่อมต่อกับ ช่องทางขาย, ระบบสต๊อก, ระบบบัญชี และโลจิสติกส์ ได้ในที่เดียว

การปรับใช้ ERP ในธุรกิจร้านเฟอร์นิเจอร์

  1. ซิงค์ข้อมูลสินค้าจากทุกช่องทางขาย – เมื่อลูกค้าสั่งซื้อจาก Shopee หรือ Lazada ระบบจะอัปเดตสต๊อกโดยอัตโนมัติ

  2. รวมคำสั่งซื้อจากทุกแพลตฟอร์มไว้ในที่เดียว – ลดเวลาการประมวลผลออเดอร์และลดข้อผิดพลาด

  3. ออกใบปะหน้าการจัดส่งอัตโนมัติ – ระบบเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการขนส่ง ทำให้การจัดส่งรวดเร็วขึ้น

  4. บันทึกข้อมูลบัญชีอัตโนมัติ – ลดข้อผิดพลาดและช่วยให้การคำนวณภาษีเป็นไปอย่างแม่นยำ

  5. วิเคราะห์ข้อมูลยอดขายและแนวโน้มตลาด – ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์การขายได้แบบเรียลไทม์

 

ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากใช้ ERP

หลังจากใช้งาน ERP ไปได้ 6 เดือน FurniSmart พบว่า

  • ยอดขายเพิ่มขึ้น 25% เพราะการบริหารคำสั่งซื้อมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • ลดข้อผิดพลาดในการจัดส่ง 50% สินค้าส่งถึงมือลูกค้าถูกต้องมากขึ้น

  • ลดเวลาการบริหารสต๊อกลง 40% เพราะไม่ต้องอัปเดตข้อมูลด้วยมือ

  • ประหยัดต้นทุนด้านบัญชีและการจัดการเอกสาร เนื่องจากระบบสามารถออกใบเสร็จและทำบัญชีอัตโนมัติ

 

ERP เหมาะกับธุรกิจ SME หรือไม่?

แม้ว่า ERP จะมีประโยชน์มากมาย แต่การตัดสินใจนำ ERP มาใช้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง

ERP คุ้มค่าหรือไม่สำหรับ SME?

✅ เหมาะกับธุรกิจที่มีการขายหลายช่องทางและต้องบริหารสต๊อก
✅ ช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการธุรกิจ
✅ มีประโยชน์สำหรับร้านค้าที่ต้องการขยายตัวและเติบโตอย่างมีระบบ
❌ อาจไม่จำเป็นสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ขายผ่านช่องทางเดียวและมีสินค้าไม่มาก
❌ ต้องมีการลงทุนค่าใช้จ่ายทั้งค่าซอฟต์แวร์และการติดตั้ง

ERP จะคุ้มค่าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจ ความซับซ้อนในการบริหารงาน และเป้าหมายการเติบโตของร้าน

 

สรุป: SME ควรใช้ ERP หรือไม่?

หากธุรกิจของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับ สต๊อกสินค้า การจัดการออเดอร์ การทำบัญชี และการบริหารงานที่ยุ่งยาก ERP อาจเป็นโซลูชันที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้ราบรื่นและเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Written by
Mic Noppawit Chavanadul
Mic Noppawit Chavanadul

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

01
April, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
1 April, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
01
April, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
1 April, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
Letter Opener เป็น gem ของ ที่ใช้แสดงรูปแบบของอีเมลที่เราต้องการจะส่ง ก่อนที่จะส่งจริง เพื่อให้ง่ายและไวต่อการทดสอบ Let's Get started... Installation เพิ่ม Gem ใน Gemfile จากนั้นรัน `bundle install` # Gemfile group :development do gem "letter_opener" gem "letter_opener_web", "~> 1.0" end กำหนดการส่งอีเมลโดยใช้ letter_opener (กรณี Production จะใช้เป็น :smtp) # config/environments/development.rb config.action_mailer.delivery_method

By

3 mins read
Thai
01
April, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
1 April, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.