Internal Link กับเว็บไซต์หลายภาษา ต้องเชื่อมยังไงให้ไม่พลาด

เมื่อเว็บไซต์ของคุณมีหลายภาษา การทำ Internal Linking ที่ดีระหว่างภาษาต่าง ๆ กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน (UX) และส่งเสริม SEO ให้แข็งแกร่งขึ้น การเชื่อมโยงลิงก์จากหน้า TH → EN → JP หรือจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่ง จะต้องทำอย่างระมัดระวังเพื่อให้ผู้ใช้และ Google เข้าใจว่าแต่ละหน้าเป็นเวอร์ชันของกันและกัน
ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เทคนิคการทำ Internal Linking สำหรับเว็บไซต์หลายภาษาอย่างถูกต้อง และกรณีตัวอย่างจากเว็บไซต์ที่ใช้การเชื่อมโยงระหว่างภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไม Internal Link สำคัญสำหรับเว็บไซต์หลายภาษา?
-
ช่วยให้ Google เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างหน้าภาษา:
-
เมื่อ Googlebot พบการใช้ hreflang ร่วมกับ Internal Link จะช่วยให้ Google เข้าใจว่าแต่ละหน้าภาษาเป็นเนื้อหาที่เหมือนกันในภาษาอื่น ๆ และสามารถแสดงผลได้ในประเทศหรือภูมิภาคที่เหมาะสม
-
-
เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้:
-
การเชื่อมโยงลิงก์ระหว่างภาษาทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนไปใช้ภาษาที่ต้องการได้ง่าย
-
-
ช่วย SEO:
-
การมี Internal Link เชื่อมโยงที่ถูกต้องช่วยให้แต่ละหน้าได้รับการจัดอันดับในผลการค้นหาของ Google ในแต่ละภูมิภาคได้
-
เทคนิคการทำ Internal Linking สำหรับเว็บไซต์หลายภาษา
1. ใช้แท็ก hreflang ให้ถูกต้อง
แท็ก hreflang ใช้บอก Google ว่าหน้านี้มีเวอร์ชันอื่นในภาษาอื่น ๆ เช่น
<link rel="alternate" href="https://example.com/th/" hreflang="th" />
การใช้ hreflang ควบคู่กับ Internal Link ช่วยให้ Google เข้าใจว่า "นี่คือหน้าภาษาไทย" และควรแสดงผลในผลการค้นหาภาษาไทย
2. วางลิงก์ภายในที่เกี่ยวข้องระหว่างภาษา
เมื่อเชื่อมโยงเนื้อหาภายในแต่ละภาษาควรระบุว่า "หน้าเดียวกันในภาษาต่าง ๆ" โดยไม่ให้สับสน
ตัวอย่าง:
-
บทความภาษาไทยเกี่ยวกับ “แนะนำที่พักในกรุงเทพ” ควรมีลิงก์ไปยังบทความภาษาอังกฤษ “Best Hotels in Bangkok”
-
ให้ลิงก์ระหว่างหน้าภาษาไทย → ภาษาอังกฤษ → ภาษาญี่ปุ่น (TH → EN → JP)
3. การใช้หมวดหมู่และแท็กให้สอดคล้องกันระหว่างภาษาต่าง ๆ
การใช้หมวดหมู่และแท็กที่เหมือนกันในทุกภาษา ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ได้ง่าย
ตัวอย่าง:
-
หมวดหมู่ “ที่พัก” ในภาษาไทย ควรมีการเชื่อมโยงไปยังหมวดหมู่เดียวกันในภาษาอังกฤษ และญี่ปุ่น
-
การใช้แท็กที่เหมือนกันในทุกภาษา ช่วยเพิ่มการค้นหาบทความที่เกี่ยวข้องกันในแต่ละภาษา
4. ควรมีลิงก์ไปยังหน้าแปลภาษาจากหน้าแรก
ถ้าผู้ใช้มาเยี่ยมเว็บไซต์จากหน้าแรก ลิงก์ไปยังหน้าภาษาต่าง ๆ ควรอยู่ในตำแหน่งที่ชัดเจน เช่น ที่ Header หรือ Footer เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนภาษาได้ทันที
กรณีตัวอย่าง: เว็บไซต์โรงแรมที่มี 3 ภาษา
เว็บไซต์ของโรงแรมที่มีบริการในหลายประเทศ ได้แก่ ภาษาไทย (TH), ภาษาอังกฤษ (EN), และภาษาญี่ปุ่น (JP) เคยมีปัญหาในการเชื่อมโยงเนื้อหาภาษาไทยไปยังภาษาอื่น ๆ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนไปอ่านภาษาอื่นได้อย่างสะดวก
สิ่งที่ทำ:
-
เพิ่มลิงก์ระหว่างหน้าแต่ละภาษา: ทุกหน้าภาษาในเว็บไซต์มีลิงก์ที่เชื่อมโยงไปยังเวอร์ชันภาษาอื่น ๆ ด้วยการใช้ hreflang และ Internal Link อย่างถูกต้อง
-
เชื่อมโยงบทความที่เกี่ยวข้อง: บทความที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เชื่อมลิงก์ไปยังบทความเดียวกันในภาษาอื่น ๆ
-
เพิ่มการเชื่อมโยงในหมวดหมู่: เช่น หมวดหมู่ “ที่พักในกรุงเทพ” ที่ใช้ลิงก์ไปยังหมวดเดียวกันในภาษาต่าง ๆ
ผลลัพธ์:
-
ผู้ใช้ที่เข้ามาจากภาษาหนึ่งสามารถเปลี่ยนไปอ่านภาษาอื่นได้สะดวก
-
เวลาที่ผู้ใช้ใช้บนเว็บไซต์ เพิ่มขึ้น 2 เท่า เพราะสามารถค้นหาข้อมูลที่ตรงกับความต้องการได้ง่ายขึ้น
-
SEO ดีขึ้น: เว็บไซต์เริ่มติดอันดับในผลการค้นหาภาษาอื่น ๆ ได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องเปิดหลายเว็บไซต์
สรุป
การใช้ Internal Link สำหรับเว็บไซต์หลายภาษาไม่ใช่แค่เรื่องการเชื่อมโยงหน้าเพจ แต่ยังเป็นการออกแบบ ประสบการณ์การใช้งาน (UX) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเดินทางไปยังเนื้อหาที่ต้องการได้สะดวก
การใช้ hreflang ร่วมกับการเชื่อมโยงลิงก์ภายในอย่างมีระเบียบจะช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์คุณได้ดีขึ้น ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับในแต่ละภาษาและภูมิภาคที่ต้องการ


Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates
Other articles for you



Let’s build digital products that are simply awesome !
We will get back to you within 24 hours!Go to contact us








