เลือกแคมเปญใน Google Ads ยังไงให้ปัง
ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า การทำโฆษณาและการตลาดออนไลน์ในปัจจุบันนั้นสำคัญมากในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำโฆษณาผ่าน Google Ads ซึ่งเป็น Tools ในการทำโฆษณาของ Google ที่เป็น search engine ที่มีจำนวนผู้ใช้หลักล้านในแต่ละวัน ทำให้เจ้าของธุรกิจหลายคนเริ่มสนใจและหันมาสู่การทำการตลาดใน Google Ads ด้วยผลลัพธ์ที่เร็วกว่าการทำ SEO ซึ่งต้องใช้เวลาการทำนานถึงจะเห็นผลที่ชัดเจน
แต่การที่จะได้ผลลัพธ์รวดเร็ว ตรงกับกลุ่มเป้าหมายนั้นก็ต้องแลกมาด้วยต้นทุนในการดำเนินการที่มากกว่าเช่นกัน บทความนี้จะมาอธิบายให้เห็นถึงแคมเปญต่าง ๆ ใน Adwords ที่เจ้าของธุรกิจสามารถเลือกใช้ให้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้และประหยัดงบมากที่สุด
ลองมาดู 7 แคมเปญหลักที่สามารถทำได้ใน Google Adwords
1.Search ads Campaign
รูปแบบการโฆษณาของ Google Search คือ การทำให้เว็บไซต์ของเราขึ้นอยู่ในอันดับแรก ๆ เวลาที่ลูกค้าค้นหา keyword ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการ ดังนั้น การเลือกซื้อ Keyword ที่ใกล้เคียงกับสินค้าหรือบริการของเรา จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการมากขึ้น
2.Display Network Campaign
Display network เปรียบเสมือนพื้นที่เช่าให้เราโฆษณาบนเว็บไซต์อื่น ๆ ได้ โดยที่โฆษณาส่วนมากจะไปขึ้นที่เว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชัน ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา หรืออาจะเป็นสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ การทำโฆษณาประเภทนี้จะช่วยสร้าง awareness วงกว้างในกลุ่มเป้าหมายได้ และยิ่งการทำสื่อให้มีความน่าสนใจ ก็จะเพิ่มโอกาสดึงดูดให้ลูกค้าเห็นแบนเนอร์ของเรามากขึ้น
(Image: digitalrestaurateur)
3.Shopping ads Campaign
Shopping Ads เป็นแคมเปญรูปแบบใหม่ที่เพิ่งมีมาไม่นาน เหมาะสำหรับร้านค้าปลีกที่ต้องการเพิ่ม traffic เข้าสู่เว็บไซต์ของตนเอง โฆษณาประเภทนี้จะช่วยแสดงผลข้อมูลในรูปแบบการโชว์เคสสินค้า ชื่อร้านค้า พร้อมราคา ในด้านบนสุดของการ search ดังนั้น จึงช่วยในการเพิ่มยอดขายในช่องทางออนไลน์ เมื่อลูกค้ากดที่รูปสินค้าก็จะเข้าไปที่หน้าเว็บของสินค้านั้น ๆ โดยตรง พร้อมให้กดสั่งซื้อได้ทันที ซึ่งการทำโฆษณารูปแบบนี้ส่งผลให้เกิดอัตราการคลิกที่มากกว่าแคมเปญแบบอื่น ๆ อีกด้วย
(Image: stepstraining.co)
4.Video campaign
ฟังจากชื่อก็น่าจะพอเดาได้อยู่แล้วว่าแคมเปญนี้ เป็นรูปแบบการโฆษณาด้วยวิดีโอที่ถูกออกแบบมาให้ตอบจุดประสงค์ในการเพิ่ม reach, awareness, engagement และ conversions ผ่านทาง Youtube หรือ ช่องทางอื่น ๆ ของ Google Display Network วิดีโอในที่นี้มีหลากหลายรูปแบบ เช่น Skippable /Non-skippable Ads, Bumper และอื่น ๆ ที่เรามักจะเห็นผ่านตาทุกครั้งเวลาดูคลิปบน Youtube
(Image: ppc-outsourcing)
5.Universal app Campaign
แคมเปญรูปแบบนี้เหมาะกับการโปรโมตแอปพลิเคชันเพื่อให้เกิดการดาวน์โหลดขึ้นในกลุ่มเป้าหมาย โดยจะทำการโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น Search, Google Play, YouTube, Google Display Network หรือแม้แต่ในแอปพลิเคชันอื่น ๆ อีกด้วย
(Image: goowords.com.br)
6.Local campaigns
แคมเปญประเภทนี้จะช่วยส่งเสริมธุรกิจโดยการโปรโมต location ของที่ตั้งธุรกิจผ่านหลายช่องทาง เพื่อเป็นการดึง traffic เข้าไปที่ตั้งร้านค้าของคุณ ซึ่งชุดโฆษณาที่เราสร้างไว้จะถูกปรับ (optimize) ให้ไปปรากฎบน Search, Display, Google Maps, และ YouTube ตามความเหมาะสมนั่นเอง นอกจากนั้น ก่อนที่จะทำ local campaign ได้ คุณจะต้องเข้าไปเพิ่มส่วนที่เป็น location extensions หรือ affiliate location extensions ในบัญชีของคุณ หรือทำการเชื่อมต่อ Google My Business กับบัญชี Adwords ก็ได้เช่นเดียวกัน
(Image: overtopmedia.com)
7.null Campaigns
null Campaign เป็นแคมเปญที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและผู้เริ่มต้นทำ Google Ads เพราะเป็นการรันโฆษณาโดยที่ระบบของ Google จะทำการ Automate ให้กับแคมเปญของเรา ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายโดยอัตโนมัติตามประเภทธุรกิจของคุณ การอัปเดต keyword ตลอดเวลา ดังนั้น แคมเปญประเภทนี้จึงสามารถสร้างได้ในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาในการดูแลและ optimize น้อยกว่าแคมเปญประเภทอื่น ๆ แต่ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะยังไม่ถูกต้องแม่นยำเท่าที่ควร
อ่านจบมาถึงตรงนี้แล้ว หวังว่าบทความนี้จะทำให้เจ้าของธุรกิจมีความเข้าใจเกี่ยวกับการทำโฆษณาผ่าน Google Ads มากขึ้นและให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจออนไลน์ในยุคดิจิทัลนี้