13Jan, 2025
Language blog :
Thai
Share blog : 
13 January, 2025
Thai

เปรียบเทียบ AI และ Virtual Assistant: ใช้งานอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด?

By

3 mins read
เปรียบเทียบ AI และ Virtual Assistant: ใช้งานอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด?

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในทุกแง่มุมของธุรกิจ AI (Artificial Intelligence) และ Virtual Assistant ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมสูง แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ AI และ Virtual Assistant ต่างกันอย่างไร และแต่ละตัวเหมาะสมกับการใช้งานแบบไหน?

AI คืออะไร?

AI หรือปัญญาประดิษฐ์ เป็นเทคโนโลยีที่สามารถเลียนแบบการคิด การตัดสินใจ และการเรียนรู้ของมนุษย์ AI สามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ วิเคราะห์แนวโน้ม และคาดการณ์ผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่แน่นอน

ตัวอย่างการใช้งาน AI ในธุรกิจ:

  • การวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค: AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อและพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อเสนอสินค้าและโปรโมชั่นที่ตรงใจ

  • การตรวจจับการฉ้อโกง: ธนาคารใช้ AI วิเคราะห์ธุรกรรมเพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติ

  • การคาดการณ์ยอดขาย: ธุรกิจค้าปลีกใช้ AI คาดการณ์ความต้องการสินค้าตามฤดูกาล

Virtual Assistant คืออะไร?

Virtual Assistant เป็นซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อสนทนากับมนุษย์และให้ความช่วยเหลือในงานเฉพาะด้าน เช่น การตอบคำถาม การจองบริการ หรือการช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้น Virtual Assistant สามารถทำงานได้ทั้งผ่านข้อความ (Chatbot) และเสียง (Voice Assistant)

ตัวอย่างการใช้งาน Virtual Assistant ในธุรกิจ:

  • การสนับสนุนลูกค้า: Virtual Assistant ช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้แบบเรียลไทม์

  • การจองบริการ: ร้านอาหารหรือโรงแรมใช้ Virtual Assistant ช่วยจองโต๊ะหรือห้องพัก

  • การจัดการงานในองค์กร: Virtual Assistant ใช้ช่วยจัดการตารางงานและส่งเตือนความจำให้พนักงาน

ความเหมือนของ AI และ Virtual Assistant

  1. อัตโนมัติ: ทั้ง AI และ Virtual Assistant ทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อลดภาระงานของมนุษย์

  2. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: ช่วยธุรกิจทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  3. ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล: ทั้งคู่ใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์และการตอบสนอง

ความต่างของ AI และ Virtual Assistant

AI

Virtual Assistant

ใช้สำหรับงานที่ซับซ้อน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การคาดการณ์ หรือการเรียนรู้เชิงลึก

เน้นการโต้ตอบและช่วยเหลือในงานที่ไม่ซับซ้อน

ทำงานอยู่เบื้องหลัง เช่น วิเคราะห์แนวโน้มของตลาด

เป็นหน้าตาของธุรกิจที่โต้ตอบกับลูกค้าโดยตรง

ต้องการข้อมูลจำนวนมากเพื่อการประมวลผลและการเรียนรู้

สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ด้วยคำสั่งหรือข้อมูลที่ตั้งไว้ล่วงหน้า

 

กรณีศึกษา: การใช้ AI และ Virtual Assistant ในธุรกิจค้าปลีก

ธุรกิจ: ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ต้องการเพิ่มยอดขายและปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า

ปัญหา:

  1. พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้ยากต่อการคาดการณ์ความต้องการสินค้า

  2. ลูกค้าต้องการคำตอบเกี่ยวกับสินค้าและบริการทันที แต่ทีมสนับสนุนลูกค้ามีจำนวนจำกัด

แนวทางแก้ไข:

  • AI สำหรับการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค:

    • AI ถูกนำมาใช้วิเคราะห์ข้อมูลการซื้อและพฤติกรรมของลูกค้า เช่น ประเภทสินค้าและช่วงเวลาที่นิยมซื้อ

    • ระบบสามารถคาดการณ์ความต้องการสินค้าและจัดโปรโมชั่นให้ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภคได้แบบเฉพาะบุคคล

  • Virtual Assistant สำหรับการสนับสนุนลูกค้า:

    • Virtual Assistant ถูกติดตั้งในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับสถานะสินค้า โปรโมชั่น และวิธีการจัดส่ง

    • ลูกค้าสามารถพูดคุยกับ Virtual Assistant ได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง

ผลลัพธ์:

  1. ยอดขายเพิ่มขึ้น: การวิเคราะห์ของ AI ช่วยให้ร้านค้าเสนอสินค้าที่ลูกค้าต้องการได้ตรงจุด ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น

  2. ความพึงพอใจของลูกค้า: Virtual Assistant ลดเวลารอคอยในการรับคำตอบจากทีมสนับสนุนลูกค้า ทำให้ลูกค้าประทับใจในบริการที่รวดเร็ว

  3. ประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น: ทีมงานสามารถโฟกัสกับงานที่ซับซ้อนมากขึ้น เพราะงานซ้ำซากถูกจัดการโดย Virtual Assistant

ควรเลือก AI หรือ Virtual Assistant?

  • เลือก AI หาก:

    • คุณต้องการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และคาดการณ์แนวโน้ม

    • งานที่ต้องการเน้นความแม่นยำและซับซ้อน เช่น การจัดการโลจิสติกส์หรือการวิเคราะห์ตลาด

  • เลือก Virtual Assistant หาก:

    • คุณต้องการให้บริการลูกค้าแบบเรียลไทม์ เช่น การตอบคำถามหรือการช่วยเหลือทั่วไป

    • ธุรกิจของคุณต้องการโซลูชันที่สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องพัฒนาอย่างซับซ้อน

  • ใช้ร่วมกันหาก:

    • คุณต้องการระบบที่ครบวงจร เช่น AI สำหรับวิเคราะห์ข้อมูล และ Virtual Assistant สำหรับการสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง

สรุป:

AI และ Virtual Assistant ต่างมีบทบาทที่สำคัญในโลกธุรกิจ หากใช้งานอย่างเหมาะสม ทั้งสองเทคโนโลยีนี้สามารถช่วยธุรกิจปรับปรุงประสิทธิภาพ สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการเติบโต

ตัวอย่างจากธุรกิจค้าปลีกแสดงให้เห็นว่า การใช้ AI และ Virtual Assistant ร่วมกันช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิมให้กับลูกค้า และช่วยธุรกิจบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรใหญ่ เทคโนโลยีเหล่านี้คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล.

 

Written by
Opal Piyaporn Kijtikhun
Opal Piyaporn Kijtikhun

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

05
July, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
5 July, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
05
July, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
5 July, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
Letter Opener เป็น gem ของ ที่ใช้แสดงรูปแบบของอีเมลที่เราต้องการจะส่ง ก่อนที่จะส่งจริง เพื่อให้ง่ายและไวต่อการทดสอบ Let's Get started... Installation เพิ่ม Gem ใน Gemfile จากนั้นรัน `bundle install` # Gemfile group :development do gem "letter_opener" gem "letter_opener_web", "~> 1.0" end กำหนดการส่งอีเมลโดยใช้ letter_opener (กรณี Production จะใช้เป็น :smtp) # config/environments/development.rb config.action_mailer.delivery_method

By

3 mins read
Thai
05
July, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
5 July, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.