23Jun, 2021
Language blog :
Thai
Share blog : 
23 June, 2021
Thai

9 ประเภท Target Audience บน Google Ads

By

3 mins read
9 ประเภท Target Audience บน Google Ads

ทุกวันนี้ ทั่วโลกได้ใช้ Google เป็นโปรแกรมค้นหา (Search Engine) หลัก ด้วยจำนวนการค้นหาที่สูงถึง 3.5 พันล้านการค้นหาต่อวัน และกูเกิลยังมีพันธมิตรเป็นเว็บไซต์อื่น ๆ อีกกว่า 2 ล้านเว็บไซต์ จึงทำให้กูเกิลมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในโลกอินเทอร์เน็ต และเมื่อธุรกิจใด ๆ ต้องการที่จะทำการตลาดออนไลน์ ย่อมนึกถึงการทำโฆษณาบน Google Ads เป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งสิ่งสำคัญในการทำโฆษณา Google Ads เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพก็คือ การกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้เหมาะสม ตรงกับเป้าหมายและแคมเปญโฆษณาที่วางไว้ ถ้าหากเราทำแคมเปญมอบส่วนลดพิเศษเพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ แต่ตั้งกลุ่มเป้าหมายเป็นบุคคลทั่วไปที่ไม่เคยเข้าเว็บไซต์เรามาก่อน ก็จะทำให้ไม่ได้รับผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

ดังนั้น หากเราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และนำมาปรับใช้กับการตั้งแคมเปญโฆษณาก็จะส่งเสริมให้การทำโฆษณานั้น ๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในบทความนี้จะพาทุกคนมารู้จักกลุ่มเป้าหมาย หรือ Target Audience 9 ประเภทบน Google Ads กันค่ะ

1. Detailed Demographic

ประเภทของโฆษณา: Search, Display, Video

Detailed Demographic คือ กลุ่มเป้าหมายที่เราสามารถกำหนดข้อมูลประชากรอย่างละเอียดมากขึ้น ซึ่งปกติเราสามารถกำหนดอายุ เพศ สถานะความเป็นผู้ปกครอง และระดับรายได้ ในส่วนของ ‘Demographic’ แต่สำหรับกลุ่มเป้าหมาย Detailed Demographic เราสามารถกำหนดรายละเอียดเชิงลึกได้ใน ‘Audiences’ ได้แก่ สถานะความเป็นผู้ปกครองโดยแบ่งตามช่วงอายุของบุตร (Parental Status) สถานะการสมรส (Marital Status) สถานะการเป็นเจ้าของบ้าน (Homeownership Status) สถานะการทำงาน (Employment) รวมไปถึงขนาดของบริษัทและอุตสาหกรรม และระดับการศึกษา (Education)

Detailed Demographic

2. Affinity Audiences

ประเภทของโฆษณา: Search, Display, Video

Affinity Audience คือ กลุ่มเป้าหมายที่เราสามารถกำหนดตามความสนใจ ความชอบ ไลฟ์สไตล์ และลักษณะนิสัยได้ อย่างเช่น ไลฟ์สไตล์และงานอดิเรกเป็นคนรักสัตว์ และยังสามารถเลือกอย่างละเอียดได้อีกว่าเป็นคนรักแมว เป็นต้น ซึ่งการกำหนดความชอบของกลุ่มเป้าหมายที่น่าจะสนใจในสินค้าหรือบริการของเราได้ ก็จะทำให้การทำโฆษณามีโอกาสที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีและช่วยประหยัดในการลงโฆษณาาไปยังผู้รับชมที่ไม่ได้สนใจในสินค้าหรือบริการของเรา

Affinity Audiences

3. In-market Audiences

ประเภทของโฆษณา: Search, Display, Video

In-market Audience คือ กลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อสินค้าหรือบริการ โดยกำลังอยู่ในช่วงค้นหาข้อมูล เพื่อศึกษาและพิจารณาเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ถ้าหากเราลงโฆษณาที่เหมาะสม สามารถดึงความสนใจของกลุ่มเป้าหมายนี้ได้ ย่อมมีโอกาสที่จะกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายมาซื้อสินค้าหรือบริการของเรา ตัวอย่างเช่น กลุ่มเป้าหมายที่กำลังเลือกซื้อเครื่องใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

In-market Audiences

4. Life events

ประเภทของโฆษณา: Display

Life events คือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายโดยใช้เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น อย่างเช่น เรียนจบ ย้ายงาน ย้ายบ้าน แต่งงาน เปิดธุรกิจใหม่ เป็นต้น ซึ่งบางสินค้าและบริการก็เหมาะกับบางกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น ซื้อเฟอร์นิเจอร์เมื่อย้ายบ้านใหม่ เป็นต้น ซึ่งการกำหนด Life events จะอยู่ในส่วนเดียวกับ In-market Audiences

Life events

5. Remarketing

ประเภทของโฆษณา: Search, Display, Video

Remarketing คือ กลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้ามาที่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเรา เราสามารถยิงโฆษณาไปที่กลุ่มเป้าหมายนี้ได้ เมื่อกลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณาดังกล่าว ก็จะสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ของเราและมีโอกาสที่จะตัดสินใจกลับมาซื้อสินค้าหรือบริการของเราได้

Remarketing

6. Customer Match

ประเภทของโฆษณา: Search, Display, Video

Customer Match คือ กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดโดยใช้ข้อมูลลูกค้า ทางกูเกิลจะยิงโฆษณาไปที่ลูกค้ารายนั้น ๆ โดยตรง ซึ่งโฆษณาของเราจะไปปรากฎตามเว็บไซต์ที่ลูกค้าใช้งาน ซึ่งข้อมูลที่ควรมีเพื่อนำไปทำรายชื่อลูกค้า ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล แคมเปญที่เหมาะสมคือการโฆษณาโปรโมชันเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่เคยลงทะเบียนไว้ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้น หรือแคมเปญโปรโมตเพื่อขายสินค้าหรือบริการตัวใหม่ (Upsell) กับลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าหรือบริการกับเราไปแล้ว เป็นต้น

Customer Match

7. Similar Audiences

ประเภทของโฆษณา: Search, Display, Video

Similar Audiences คือ กลุ่มเป้าหมายที่กูเกิลใช้ Machine Learning ในการเปรียบเทียบและค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ใกล้เคียงกับกลุ่มเป้าหมายใน Remarketing และยิงโฆษณาไปที่ Similar Audiences โดยยกเว้นกลุ่ม Remarketing ให้โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามระบบจำเป็นจะต้องมี Remarketing อย่างน้อย 1,000 ราย เพื่อที่จะเรียนรู้และค้นหากลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงได้อย่างแม่นยำ

Similar Audiences

8. Custom Audiences

ประเภทของโฆษณา: Display, Video

Custom Audiences คือ กลุ่มเป้าหมายที่เรากำหนดโดยระบุคีย์เวิร์ดหรือความสนใจที่กลุ่มเป้าหมายเคยค้นหา URL ของเว็บไซต์ที่กลุ่มเป้าหมายเคยเข้าชม แอปฯ ที่กลุ่มเป้าหมายเคยใช้งาน และสถานที่ที่กลุ่มเป้าหมายเคยไป เพื่อให้โฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่เราต้องการได้อย่างเจาะจงมากยิ่งขึ้น

Custom Audiences

9. Custom Intent Audiences: auto-created (Display)

ประเภทของโฆษณา: Display

Custom Intent Audiences: auto-created (Display) คือ กลุ่มเป้าหมายที่กูเกิลสร้างให้โดยอัตโนมัติ โดยดูจากคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของเรา ปัจจุบันรองรับเพียงภาษาอังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น สเปน รัสเซีย โปรตุเกส ฝรั่งเศส และอิตาลี

Custom Intent Audiences: auto-created (Display)

จากกลุ่มเป้าหมายทั้ง 9 ประเภทที่ได้กล่าวไป หากเราเลือกประเภทและกำหนดกลุ่มเป้าหมายของโฆษณาได้อย่างเหมาะสม ตรงกับจุดประสงค์ของสิ่งแคมเปญต้องการจะสื่อ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญโฆษณาที่เราลงได้มากยิ่งขึ้น ถ้าหากคุณเป็นมือใหม่อยากลองทำโฆษณาบน Google Ads สามารถอ่านบทความ เลือกแคมเปญใน Google Ads ยังไงให้ปัง เพิ่มเติมเกี่ยวประเภทของ Google Ads ได้

 


อ้างอิง

Google Ads Audience and Demographics Targeting Knowhow โดย Abhi Chandrasheker
Google Ads Audiences: 8 Audiences to Target with Google Ads โดย Macy Strom
About Google Targeting โดย Google Ads Help
Google’s new custom intent audiences and you โดย Allen Finn

Written by
Senna Labs
Senna Labs

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

26
July, 2024
Remarketing คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ
26 July, 2024
Remarketing คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ
เคยไหม? ที่เข้าไปดูสินค้าในหน้าเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่งแต่ยังไม่ได้ซื้อ แล้วหลังจากนั้นโฆษณาของสินค้าตัวนั้นจากเว็บไซต์ที่เราเคยเข้าไปดูก็ตามมาขึ้นอยู่ในทุก ๆ ที่ที่เราไป ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ติดแบนเนอร์โฆษณาของ Google เหมือนมาเป็นเครื่องช่วยเตือนให้เรากลับไปซื้อสินค้าชิ้นนั้น ซึ่งวิธีการนี้ เราเรียกว่า การทำ remarketing Remarketing คือการทำโฆษณาเพื่อติดตามลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้ามาในเว็บไซต์หรือใช้แอปพลิเคชันของเรานั่นเอง เจ้าของธุรกิจจึงควรมองว่าลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สำคัญถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำการซื้อสินค้าในขณะนั้น แต่อาจจะมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะกลับมาเมื่อถูกกระตุ้นด้วยโฆษณา ปกติแล้วการทำ remarketing โดยใช้อีเมล์ เป็นช่องทางที่ใช้กันแพร่หลาย โดยที่ทางบริษัทจะเก็บฐานข้อมูลของผู้ชมที่เคยเข้ามาพร้อมส่งอีเมล์ที่มีจุดประสงค์ในการขายกลับไปหากลุ่มลูกค้านั้น ๆ แต่ในปัจจุบัน การทำสื่อโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเช่น Facebook ads และ

By

5 mins read
Thai
26
July, 2024
How can data-driven marketing improve your business
26 July, 2024
How can data-driven marketing improve your business
Big data refers to a large pool of data sets that can be analyzed to reveal patterns, trends, and associations, especially human behavior and interactions. Nowadays, Big data is transforming

By

3 mins read
English
26
July, 2024
Market Research for app development
26 July, 2024
Market Research for app development
Market research has been universally proven to play significant roles in determining a business's success. It is also the same case for website and mobile application development. Solid marketing research

By

3 mins read
English

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.