hand lthand lt
08Apr, 2025
Language blog :
Thai
Share blog : 
08 April, 2025
Thai

10 เทคนิคทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับ Google

By

2 mins read
10 เทคนิคทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับ Google

ทำไมการติดอันดับบน Google ถึงสำคัญ

ในยุคที่ทุกคนค้นหาข้อมูลผ่าน Google เว็บไซต์ที่ติดอันดับแรกๆ บนหน้าผลการค้นหา (SERP) จะได้รับ จำนวนคลิก (Click-Through Rate) และการเข้าชม (Traffic) ที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ ยอดขายและความน่าเชื่อถือของธุรกิจ

การทำให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google ต้องใช้ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งเป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ Google เข้าใจและให้คะแนนสูงขึ้น จึงแสดงผลอยู่ในอันดับที่ดีขึ้น

1. ค้นหาคีย์เวิร์ดที่ใช่ (Keyword Research)

คีย์เวิร์ด คือ คำหรือวลีที่ผู้ใช้พิมพ์ค้นหาใน Google หากเว็บไซต์ของคุณใช้คีย์เวิร์ดที่ตรงกับการค้นหา ก็จะมีโอกาสถูกแสดงผลในอันดับต้นๆ

วิธีเลือกคีย์เวิร์ดให้เหมาะกับเว็บไซต์

  • ใช้เครื่องมือช่วย เช่น Google Keyword Planner, Ahrefs, SEMrush

  • เลือก Long-Tail Keywords (เช่น “วิธีทำ SEO ให้ติดหน้าแรก Google”) เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง

  • วิเคราะห์ Search Intent หรือความตั้งใจของผู้ใช้ว่าค้นหาข้อมูลเพื่ออะไร

ตำแหน่งที่ควรใส่คีย์เวิร์ด

  • Title และ Meta Description (คำอธิบายที่แสดงในผลลัพธ์การค้นหา)

  • URL ของหน้าเว็บ (ควรกระชับและมีคีย์เวิร์ด)

  • หัวข้อและเนื้อหา (H1, H2, H3)

  • แท็ก Alt Text ในรูปภาพ

 

2. สร้างเนื้อหาคุณภาพ (Content Optimization)

เนื้อหาที่มีคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับสูงขึ้น Google ให้ความสำคัญกับ เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ตรงกับการค้นหา และมีความน่าเชื่อถือ

เทคนิคการสร้างเนื้อหาที่ดีสำหรับ SEO

  • ให้ข้อมูลเชิงลึก และตอบโจทย์สิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการ

  • ใช้คีย์เวิร์ดตามธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการใส่มากเกินไป

  • แบ่งเนื้อหาเป็นส่วนๆ ใช้หัวข้อย่อย (H2, H3) เพื่อให้อ่านง่าย

  • เพิ่มภาพ อินโฟกราฟิก หรือวิดีโอ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ

  • อัปเดตเนื้อหาเก่า ให้ทันสมัยและมีข้อมูลที่ถูกต้อง

 

3. ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ (Technical SEO)

Google ให้คะแนนเว็บไซต์ที่มี โครงสร้างดี โหลดเร็ว และใช้งานง่าย

วิธีปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะกับ SEO

  • ใช้ URL ที่สั้นและอ่านง่าย

  • เปิดใช้งาน SSL Certificate (HTTPS) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

  • สร้าง Sitemap และ Robots.txt เพื่อให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์

  • ใช้ Breadcrumbs Navigation เพื่อให้ผู้ใช้และ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บ

 

4. เพิ่มความเร็วเว็บไซต์ (Page Speed Optimization)

เว็บไซต์ที่โหลดช้าอาจทำให้ผู้ใช้ ออกจากเว็บก่อนอ่านเนื้อหา ซึ่งส่งผลเสียต่ออันดับ SEO

วิธีเพิ่มความเร็วเว็บไซต์

  • บีบอัดรูปภาพให้มีขนาดเล็กลงโดยใช้ TinyPNG หรือ ImageOptim

  • ใช้ Content Delivery Network (CDN) เพื่อลดระยะเวลาโหลด

  • เปิดใช้งาน Browser Caching ให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น

  • เลือก Hosting คุณภาพสูง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

 

5. ปรับให้เว็บไซต์รองรับมือถือ (Mobile-Friendly SEO)

Google ใช้หลัก Mobile-First Indexing ซึ่งหมายความว่า หากเว็บไซต์ของคุณไม่เหมาะกับมือถือ อันดับบน Google อาจลดลง

วิธีทำให้เว็บไซต์เป็นมิตรกับมือถือ

  • ใช้ Responsive Web Design เพื่อให้เว็บไซต์ปรับขนาดอัตโนมัติตามอุปกรณ์

  • ปรับขนาดตัวอักษรและปุ่มให้กดง่าย

  • ลดการใช้ Pop-ups ที่รบกวนการใช้งาน

  • ทดสอบเว็บไซต์บน Google Mobile-Friendly Test

 

6. ใช้ลิงก์ภายในและภายนอกให้ถูกต้อง (Internal & External Links)

ลิงก์เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ Google เข้าใจเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น

วิธีใช้ลิงก์อย่างมีประสิทธิภาพ

  • Internal Links – เชื่อมโยงไปยังเนื้อหาอื่นๆ ในเว็บไซต์

  • External Links – ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ

  • ใช้ Anchor Text ที่อธิบายเนื้อหาได้ชัดเจน

 

7. สร้าง Backlinks จากเว็บไซต์คุณภาพ (Off-Page SEO)

Backlinks คือ ลิงก์จากเว็บไซต์อื่นที่ชี้มายังเว็บไซต์ของคุณ Google มองว่าเว็บไซต์ที่มี Backlinks จำนวนมากจากแหล่งคุณภาพเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ

วิธีสร้าง Backlinks อย่างมีคุณภาพ

  • Guest Blogging – เขียนบทความลงเว็บไซต์อื่นและรับลิงก์กลับ

  • แชร์บทความบน Social Media เพื่อเพิ่มโอกาสได้รับลิงก์

  • ทำ Content Marketing ที่มีคุณค่าเพื่อให้เว็บไซต์อื่นนำไปอ้างอิง

 

8. ปรับแต่งเว็บไซต์ให้รองรับ Voice Search

การค้นหาด้วยเสียงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้รองรับ Voice Search จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ติดอันดับสูงขึ้น

วิธีปรับแต่ง SEO ให้เหมาะกับ Voice Search

  • ใช้ ประโยคที่เป็นภาษาพูด มากขึ้น

  • เลือก คีย์เวิร์ดแบบคำถาม เช่น "ทำ SEO ยังไงให้ติดหน้าแรก"

  • เพิ่ม FAQ Sections ในเว็บไซต์

 

9. ติดตามผลลัพธ์และปรับปรุง SEO อย่างต่อเนื่อง

SEO เป็นกระบวนการที่ต้องติดตามผลและปรับปรุงอยู่เสมอ

เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ SEO

  • Google Analytics – ดูพฤติกรรมผู้ใช้และแหล่งที่มาของทราฟฟิก

  • Google Search Console – ตรวจสอบอันดับ คีย์เวิร์ด และข้อผิดพลาดของเว็บไซต์

  • Ahrefs / SEMrush – วิเคราะห์ Backlinks และคู่แข่ง

 

10. อัปเดตเว็บไซต์ให้ทันสมัยตามอัลกอริทึมของ Google

Google ปรับอัลกอริทึมอยู่ตลอดเวลา ควรติดตามข่าวสารและอัปเดตเว็บไซต์ให้ทันสมัย

วิธีติดตามข่าวสาร SEO

  • อ่าน Google Search Central Blog

  • ติดตาม SEO Experts บน Twitter หรือ LinkedIn

  • ทดสอบและวิเคราะห์ผลลัพธ์ SEO อยู่เสมอ

 

สรุป:

การทำให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google ต้องใช้เทคนิคหลายด้านร่วมกัน ตั้งแต่ การเลือกคีย์เวิร์ด, สร้างเนื้อหาคุณภาพ, ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์, เพิ่มความเร็ว, รองรับมือถือ, ใช้ลิงก์ภายในและภายนอก, สร้าง Backlinks และติดตามผล SEO อย่างต่อเนื่อง

หากคุณทำ SEO อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ เว็บไซต์ของคุณจะมีโอกาสติดอันดับแรกบน Google ดึงดูดผู้เข้าชม และช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

 

Written by
Ae Tharatip Maneewan
Ae Tharatip Maneewan

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

21
April, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
21 April, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
21
April, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
21 April, 2025
Preview email ด้วย Letter Opener
Letter Opener เป็น gem ของ ที่ใช้แสดงรูปแบบของอีเมลที่เราต้องการจะส่ง ก่อนที่จะส่งจริง เพื่อให้ง่ายและไวต่อการทดสอบ Let's Get started... Installation เพิ่ม Gem ใน Gemfile จากนั้นรัน `bundle install` # Gemfile group :development do gem "letter_opener" gem "letter_opener_web", "~> 1.0" end กำหนดการส่งอีเมลโดยใช้ letter_opener (กรณี Production จะใช้เป็น :smtp) # config/environments/development.rb config.action_mailer.delivery_method

By

3 mins read
Thai
21
April, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
21 April, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.