เลือกทำ Mobile App หรือ Responsive Website ให้เหมาะกับธุรกิจคุณ
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของเรา การใช้โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเลตเป็นสิ่งที่แทบจะขาดไม่ได้ และกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในชีวิตของพวกเราไปแล้ว สิ่งแรกที่คนส่วนมากทำตอนตื่นเช้ามา คือการใช้โทรศัพท์ในการอัปเดตข่าวสาร ดูโซเชียลมีเดีย ใช้คุยสื่อสาร และรับข่าวสารระหว่างวัน ในขณะเดียวกันเจ้าของธุรกิจออนไลน์ก็จะต้องคำนึงถึงวิธีการเสพสื่อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การมีหน้าเว็บไซต์ที่เปิดได้ผ่านจอคอมพิวเตอร์อย่างเดียวอาจจะไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้ดีเท่าแต่ก่อน
การออกแบบเว็บไซต์ที่ดีจะต้องคำนึงถึงการใช้งานบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ให้เข้าถึงได้ง่ายและมีความสวยงาม ซึ่งเจ้าของธุรกิจบางท่านอาจจะยังสับสนว่าการย้ายเว็บไซต์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปที่อุปกรณ์อื่น ๆ วิธีไหนที่จะเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายและงบประมานที่ตั้งไว้มากที่สุด ดังนั้นในบทความนี้ เราจะมาเล่าถึงความแตกต่างระหว่าง Mobile App และ Responsive Website เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นว่า ตัวเลือกใดเหมาะสมกับธุรกิจคุณ
Mobile app (แอปบนมือถือ)
ซอฟต์แวร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อใช้ในอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือ แทบเล็ต เป็นต้น การจะเปิดใช้แอปพลิเคชันได้ จะต้องดาวน์โหลดและติดตั้งบนอุปกรณ์ก่อนและต้องมีการอัพเดตอย่างต่อเนื่องเพื่อการใช้งานที่ดีขึ้น นอกจากนั้น ในการทำแอปจะต้องคำนึงถึงระบบปฏิบัติการ (OS: Operating system) ของอุปกรณ์ของผู้ใช้ด้วย เช่น iOS, Android, Windows และอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงอย่างครอบคลุม
(Image: invisionapp.com)
ข้อดี
- หน้าจอสวยงามรองรับมือถือได้เป็นอย่างดี
- สร้าง Brand Awareness และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
- เข้าถึงเนื้อหาบางส่วนโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- สื่อสารกับผู้ใช้งานได้โดยตรงผ่าน push notifications
- เหมาะอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมเกมส์
ข้อเสีย
- ราคาสูงและต้องทำรองรับหลายระบบปฏิบัติการ
- ใช้เวลาในการผลิตนานกว่าเว็บไซต์
- ดึงดูดผู้ใช้งานให้ดาวน์โหลดได้ยาก
Responsive Website (เว็บไซต์ที่รองรับหน้าจอทุกชนิด)
เป็นการสร้างเว็บไซต์ให้แสดงผลได้กับหน้าจอทุกชนิดรวมถึงอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ไม่ได้มีรูปแบบที่ตายตัว เพราะจะเปลี่ยนขนาดหน้าจอโดยอัตโนมัติ และจะมีการปรับเปลี่ยนขนาดของตัวอักษรและรูปแบบการจัดวางให้เหมาะสม การทำเว็บไซต์รูปแบบนี้ จะต้องวางโครงสร้างมาให้ดีตั้งแต่ต้น และต้องคำนึงถึงหน้าตาของเว็บไซต์ที่สวยงามและเหมาะสมกับหน้าจอทุกแบบ ดังนั้นวิธีนี้จึงเหมาะกับการเริ่มทำเว็บไซต์จาก 0 แบบที่ไม่มีอะไรเลย เพราะต้นทุนจะถูกกว่าการดัดแปลงเว็บที่มีอยู่แล้ว และในกรณีที่มีเว็บไซต์อยู่แล้ว คุณสามารถแยกเว็บไซต์ออกมาใหม่อีกหนึ่งเวอร์ชัน เป็น Mobile website แทนได้เช่นกัน
ข้อดี
- ดึงดูดผู้ใช้งานได้ง่ายกว่าแอปพลิเคชัน ไม่ต้องดาวน์โหลดแอป
- ใช้เวลารวดเร็วในการทำมากกว่า
- ใช้ต้นทุนน้อยกว่า
- เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ง่าย เพราะแสดงผลได้หลายหน้าจอ
ข้อเสีย
- ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับความต้องการแบบเฉพาะเจาะจง
- ไม่เหมาะกับในกรณีที่มีเว็บไซต์อยู่ก่อนหน้าแล้วนำมาดัดแปลงให้เข้ากับแพลตฟอร์มอื่น
- การใช้ animation บนเว็บไซต์บางอย่างอาจถูกจำกัด
ท้ายที่สุดแล้ว ก่อนการเลือกทำเว็บไซต์ เราควรกำหนดจุดประสงค์ที่ชัดเจนว่าต้องการอะไร เหมาะกับธุรกิจของเราหรือไม่ ตอบความต้องการของลูกค้ากลุ่มใด เพื่อไม่ให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หวังว่าบทความนี้จะสร้างความเข้าใจให้ผู้อ่านทุกท่าน เพื่อนำไปปรับใช้กับแนวทางการดำเนินธุรกิจของตัวเอง
ติดตามอ่านบทความดี ๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Machine Learning, Startup, Design, Software Development และ Management ทาง Senna Labs Blog ได้ทุกวัน