Startup คืออะไร? ธุรกิจคุณอยู่ในประเภทไหน

เชื่อว่าในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของเรามากขึ้น คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักคำว่า Startup ผู้อ่านหลายท่านอาจจะได้เป็นผู้ใช้บริการ หรือแม้แต่อยากที่จะสร้าง Startup ของตนเอง ดังนั้นการที่เรารู้ว่า Startup มี่กี่ประเภท และใช้วิธีไหนในการจำแนกออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ ก็จะทำให้เราเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายหมายที่ต่างกัน เพื่อการวางแผน และกลยุทธ์ในการทำธุรกิจให้เหมาะสมกับประเภทนั้น ๆ
ในบทความนี้จะกล่าวถึงความหมายของ Startup รวมถึงการจำแนกประเภทออกเป็น 6 กลุ่ม โดยใช้หลักการแบ่งจาก Steve Blank บุคคลที่ขึ้นว่าเป็นบิดาแห่ง Startup
Startup คืออะไร?
Startup แปลตรงตัวเป็นภาษาไทยว่า เริ่มต้นขึ้น เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกธุรกิจขนาดเล็กที่เกิดขึ้นใหม่ Steve Blank บุคคลที่ได้ชื่อว่าบิดาแห่งวงการ Startup เคยให้นิยามไว้ว่า
“A startup is an organization formed to search for a repeatable and scalable business model”
แปลง่าย ๆ ว่าเป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเสาะหาโมเดลธุรกิจที่สามารถทำซ้ำได้และขยายตัวได้
(Image: medium.com)
(Image: medium.com)
ประเภทของ Startup
1. The Lifestyle Startup
ก็คือการทำธุรกิจตามไลฟ์สไตล์ งานอดิเรก สิ่งที่รัก และมี Passion ไปกับมัน นักธุรกิจประเภทนี้ต้องการทำธุรกิจที่สามารถเติมเต็มความชอบของตนเองได้ ยกตัวอย่าง เช่น นักดนตรี หรือบุคคลที่หลงใหลในเสียงเพลง เปิดโรงเรียนสอนดนตรีเพื่อที่ตนเองจะได้ทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชอบ เป็นต้น
2. Small Business Startup
ธุรกิจขนาดเล็ก เปรียบเสมือนธุรกิจในครัวเรือนที่ถูกบริหารจัดการโดยตัวของผู้ก่อตั้งเอง เพื่อเลี้ยงชีพคนในครอบครัว ธุรกิจประเภทนี้ไม่ได้ถูกออกแบบให้ขยายตัวได้ (Scalable) เราจึงไม่ค่อยเห็นธุรกิจขนาดเล็กนี้เติบโตจนขึ้นหน้าปกนิตยสาร หรือมีรายได้มากเป็นพันล้าน
ส่วนเงินทุนที่นำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ส่วนมากมาจากเงินเก็บ เงินกู้จากธนาคาร หรือแม้แต่เงินที่ยืมมาจากเครือญาติ นอกจากนั้นการจ้างงานส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่หรือคนในครอบครัว สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นธุรกิจครอบครัว (Family business) ได้อย่างชัดเจน
ร้านขายของชำ ร้านทำผม ธุรกิจให้คำปรึกษา บริษัทนำเที่ยว ช่างไม้ ช่างประปา เป็นตัวอย่างของธุรกิจประเภทนี้
3. Scalable Startup
ธุรกิจประเภทนี้คือสิ่งที่ผู้ประกอบการใน Silicon Valley และนักลงทุนใฝ่ฝันที่จะสร้างขึ้นมา พวกเขามองการณ์ไกลมากกว่าที่จะเป็นธุรกิจเล็ก ๆ เจ้าของธุรกิจต้องการสร้างบริษัทที่ทำเงินได้มหาศาล หรือสามารถเข้าไปอยู่ในตลาดหุ้น ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้
Scalable Startup ต้องอาศัยการลงทุนที่ค่อนข้างมีความเสี่ยงจาก Venture Capitalist หรือ VC ซึ่งเป็นกองทุนที่รวบรวมเงินลงทุนมาจากผู้ลงทุนอื่นที่สนใจร่วมทุนในธุรกิจนั้น ๆ นอกจากนั้นการจ้างงานจะเน้นไปที่การดึงตัวคนเก่งและฉลาดมารวมกันเพื่อให้เกิดการขยายตัวให้เร็วที่สุดจากเงินลงทุนที่ได้มา ซึ่ง Google, Skype, Facebook และ Twitter เป็นตัวอย่างของธุรกิจประเภทนี้
4. Buyable Startup
บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ เป็นตัวอย่างของ buyable startup บริษัทเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะถูกซื้อกิจการโดยบริษัทขนาดใหญ่ ด้วยต้นทุนที่ถูกลงในการผลิตและการเข้าถึงตลาดที่รวดเร็วกว่าสินค้าประเภทอื่น นักลงทุนที่เป็น angle investor ก็ไม่ต้องลงทุนมาก ทำให้การขายกิจการให้กับบริษัทขนาดใหญ่เป็นกลยุทธ์ในการทำกำไรให้ buyable startup
5. Large Company Startup
โดยปกติแล้วบริษัทขนาดใหญ่จะมี life cycle ที่ค่อนข้างชัดเจน ตั้งแต่การเริ่มต้นเข้าสู่ตลาด จนถึงช่วงออกจากตลาด และในปัจจุบันนั้น life cycle ของผลิตภัณฑ์ก็ยิ่งสั้นลงเรื่อย ๆ แล้วบริษัทควรจะทำอย่างไรเพื่อให้อยู่รอดตามความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค การเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ และการเพิ่มขึ้นของบริษัทคู่แข่ง?
คำตอบก็คือ เจ้าของธุรกิจจะต้องปรับตัวให้เร็วด้วยการสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจ (Disruptive Innovation) บางบริษัทถึงกับต้องผลิตสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดอื่น หรือแม้แต่เข้าซื้อบริษัทอื่น เช่น buyable startup เพื่อเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
6. Social Startup
นักธุรกิจเพื่อสังคมมีเป้าหมายที่แตกต่างจากธุรกิจประเภทอื่น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มี passion ที่อยากจะประสบความสำเร็จ เพียงแต่เป้าหมายของพวกเขาคือการทำให้สังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยที่ไม่สนใจส่วนแบ่งการตลาดหรือสร้างความมั่งคั่งให้ผู้ประกอบการณ์เอง เราจะสามารถพบ social startup ในรูปแบบขององค์กรที่แสวงหากำไร ไม่แสวงหากำไร หรือเป็นแบบผสมก็ได้
Startup แต่ละประเภทมี ecosystem ที่แตกต่างกันก็มีการบริหารจัดการที่ต่างกันออกไป ถึงแม้ว่าในปัจจุบันคนจะมองว่าภาพจำของบริษัทสตาร์ตอัปคือบริษัทที่เติบโตด้วยเทคโนโลยีล้ำ ๆ และ scale ออกไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีแนวทางในการดำเนินธุรกิจสตาร์ตอัปอีกหลายประเภทตามหลักของ Steve Blank เพื่อให้ผู้ที่ต้องการดำเนินธุรกิจนำไปปรับใช้เช่นกัน ดังนั้น หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเจ้าของกิจการทุกท่านไม่มากก็น้อย
สำหรับท่านใดที่มีไอเดียการทำ Startup หรือต้องการทำ MVP สามารถปรึกษา Senna Labs ได้ฟรีที่ >> contact us
อ้างอิง:
- Why Governments Don’t Get Startups by Steve Blank


Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates
Other articles for you



Let’s build digital products that are simply awesome !
We will get back to you within 24 hours!Go to contact us








