การประเมิน UX/UI ในยุคดิจิทัล: การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งานเพื่อสร้างความสำเร็จในธุรกิจออนไลน์

Business
2 mins read
2 mins read

Published

4 October, 2024

Language

Thai

Written by

Share

การประเมิน UX/UI ในยุคดิจิทัล: การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งานเพื่อสร้างความสำเร็จในธุรกิจออนไลน์

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภค การออกแบบ UX/UI ที่มีประสิทธิภาพกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จของธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ต้องการให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลและใช้บริการได้อย่างง่ายดาย

การประเมิน UX/UI หรือการวิเคราะห์ประสบการณ์การใช้งาน (User Experience: UX) และการออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้งาน (User Interface: UI) จึงเป็นขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับองค์กรที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของแพลตฟอร์มดิจิทัล การปรับปรุง UX/UI ให้เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้ใช้ และสร้างโอกาสในการขยายฐานลูกค้าของธุรกิจ

บทความนี้จะอธิบายถึงความสำคัญของการประเมินและปรับปรุง UX/UI ในยุคดิจิทัล รวมถึงกระบวนการและขั้นตอนที่ใช้ในการวิเคราะห์ และกรณีศึกษาจากธุรกิจที่สามารถปรับปรุง UX/UI ได้สำเร็จ จนทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นและช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้อย่างมหาศาล

 

UX-UI

ความสำคัญของ UX/UI ในยุคดิจิทัล

UX/UI เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างความสำเร็จของแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ใช้ในปัจจุบัน UX เป็นการวางโครงสร้างและกระบวนการทำงานของแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ โดยมีจุดประสงค์ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่าย เข้าใจระบบได้อย่างรวดเร็ว และไม่รู้สึกสับสนเมื่อใช้บริการ ส่วน UI เป็นการออกแบบหน้าต่าง ๆ ของแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ เพื่อให้มีความสวยงาม สะดุดตา และสร้างความประทับใจแรกเมื่อผู้ใช้เริ่มใช้งาน

การออกแบบ UX/UI ที่ไม่ดีอาจส่งผลให้ผู้ใช้งานสับสน ไม่สามารถดำเนินการที่ต้องการได้อย่างสะดวก ส่งผลให้พวกเขายกเลิกการใช้งานหรือเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มอื่นที่มีความสะดวกมากกว่า ดังนั้น การปรับปรุง UX/UI ให้ดีจึงเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน และส่งเสริมให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ

 

ขั้นตอนในการประเมิน UX/UI

การประเมิน UX/UI เป็นกระบวนการที่ครอบคลุมหลายขั้นตอน ตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ ไปจนถึงการออกแบบและทดสอบระบบ การดำเนินการอย่างละเอียดและรอบคอบในทุกขั้นตอนจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง

  1. การวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้งาน (User Research)
    ขั้นตอนแรกในการประเมิน UX/UI คือการทำความเข้าใจผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการออกแบบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบสนองความต้องการ การวิเคราะห์นี้ประกอบด้วยการทำวิจัยและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้ เป้าหมายของการใช้งาน และปัญหาที่พบเมื่อใช้บริการ การสัมภาษณ์และการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ได้ข้อมูลเชิงลึก
    นอกจากนี้ การสร้าง Persona หรือการสร้างบุคลิกผู้ใช้งานจำลอง (User Persona) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ทีมออกแบบเข้าใจลักษณะของผู้ใช้เป้าหมาย ซึ่งจะนำไปสู่การออกแบบที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  2. การสร้างแผนผังการใช้งาน (User Journey Map)
    การสร้างแผนผังการใช้งานหรือการเดินทางของผู้ใช้ (User Journey) เป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้จะต้องผ่านกระบวนการใดบ้างในการบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ เช่น การสมัครสมาชิก การค้นหาข้อมูล หรือการสั่งซื้อสินค้า การวางแผนเส้นทางนี้จะช่วยให้เห็นภาพรวมของขั้นตอนต่าง ๆ ที่ผู้ใช้ต้องเผชิญ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการระบุปัญหาหรือขั้นตอนที่ซับซ้อนเกินไป
    การสร้างแผนผังนี้ยังช่วยให้ทีมงานมองเห็นจุดที่สามารถปรับปรุงได้ เช่น การลดขั้นตอนในการสั่งซื้อ การเพิ่มฟังก์ชันการค้นหาที่สะดวกขึ้น หรือการปรับปรุงหน้าตา UI ที่ช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกว่าใช้งานได้ง่ายและเป็นธรรมชาติ

  3. การออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน (Wireframe)
    เมื่อเข้าใจความต้องการของผู้ใช้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างโครงร่างของแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ ซึ่งในขั้นตอนนี้จะเป็นการวางโครงสร้างแบบพื้นฐาน (Wireframe) เพื่อกำหนดว่าข้อมูลแต่ละส่วนจะอยู่ในตำแหน่งใดในหน้าต่าง ๆ ของแอปพลิเคชัน การออกแบบโครงร่างนี้ช่วยให้ทีมงานเห็นภาพรวมของการจัดเรียงข้อมูล และสามารถทดสอบกับผู้ใช้งานเพื่อรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมก่อนเข้าสู่กระบวนการออกแบบ UI ที่ละเอียดขึ้น

  4. การออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (UI Design)
    เมื่อโครงร่างของแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ได้รับการอนุมัติ ขั้นตอนต่อไปคือการออกแบบ UI ซึ่งจะเน้นไปที่การเลือกใช้สี ฟอนต์ การจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ และการออกแบบภาพเคลื่อนไหว (Animations) เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีและน่าสนใจ การออกแบบ UI ที่ดีไม่เพียงแต่ทำให้แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ดูสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและส่งเสริมให้ผู้ใช้งานรู้สึกสบายใจเมื่อใช้บริการ

  5. การทดสอบการใช้งาน (Usability Testing)
    หลังจากการออกแบบ UX/UI เสร็จสิ้นแล้ว การทดสอบการใช้งานเป็นขั้นตอนสำคัญในการประเมินว่าแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้หรือไม่ การทดสอบนี้สามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น การทดสอบกับผู้ใช้งานจริง หรือการใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของผู้ใช้ (Heatmap) เพื่อดูว่าผู้ใช้สนใจคลิกหรือแตะที่ตำแหน่งใดบ้าง
    การเก็บข้อมูลจากการทดสอบนี้จะช่วยให้ทีมออกแบบมองเห็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการใช้งาน และสามารถปรับปรุงได้ทันที

กรณีศึกษาการปรับปรุง UX/UI: การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อความสะดวกในการใช้งาน

บริษัทหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจด้านดิจิทัลได้ร่วมมือกับทีมพัฒนาเพื่อตรวจสอบและประเมิน UX/UI ของแอปพลิเคชันในเครือ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ และเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลและบริการผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ

ปัญหาที่พบจากการประเมิน UX/UI เบื้องต้น

จากการประเมิน UX/UI ในเบื้องต้น พบว่ามีปัญหาหลายประการที่ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ เช่น

  • การนำทางที่ซับซ้อน: ผู้ใช้งานต้องใช้เวลานานในการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ เนื่องจากโครงสร้างของแอปพลิเคชันมีหลายขั้นตอน ทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิดและยกเลิกการใช้งานกลางคัน

  • การออกแบบ UI ที่ไม่สวยงามและไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์: การออกแบบหน้าตาแอปพลิเคชันไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของบริษัท ทำให้ผู้ใช้งานไม่รู้สึกถึงความเชื่อมั่นในการใช้บริการ

  • ความล่าช้าในการโหลดข้อมูล: แอปพลิเคชันมีความล่าช้าในการโหลดข้อมูล ทำให้ผู้ใช้งานต้องรอนานเกินไป ส่งผลให้พวกเขายกเลิกการใช้บริการและไม่กลับมาใช้แอปพลิเคชันอีก

การปรับปรุง UX/UI เพื่อแก้ไขปัญหา

หลังจากที่ได้ประเมินปัญหาทั้งหมด ทีมงานได้ดำเนินการแก้ไขและปรับปรุง UX/UI ในหลายด้าน เช่น

  1. การปรับปรุงการนำทางในแอปพลิเคชัน
    ทีมงานได้ทำการออกแบบโครงสร้างของแอปพลิเคชันใหม่ เพื่อลดขั้นตอนที่ซับซ้อนลง และทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ภายในไม่กี่คลิก การปรับปรุงนี้ช่วยลดเวลาที่ผู้ใช้ต้องใช้ในการค้นหาข้อมูล ทำให้พวกเขารู้สึกสะดวกและสบายใจมากขึ้น

  2. การออกแบบ UI ใหม่ให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์
    การปรับปรุง UI ได้รับการพัฒนาให้มีความสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของบริษัทมากขึ้น โดยใช้สี ฟอนต์ และรูปแบบกราฟิกที่เข้ากับแบรนด์ การออกแบบใหม่นี้ไม่เพียงแต่ทำให้แอปพลิเคชันดูสวยงามขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ในการใช้บริการ

  3. การเพิ่มประสิทธิภาพในการโหลดข้อมูล
    ทีมพัฒนาได้ทำการปรับปรุงโค้ดของแอปพลิเคชันและเพิ่มระบบการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดเวลาที่ใช้ในการโหลดข้อมูล การปรับปรุงนี้ช่วยลดความล่าช้าในการใช้งาน และทำให้ผู้ใช้รู้สึกพึงพอใจในการใช้งานแอปพลิเคชันมากขึ้น

 

ผลลัพธ์ที่ได้รับจากการปรับปรุง UX/UI

หลังจากการปรับปรุง UX/UI แอปพลิเคชันของบริษัทนี้สามารถเพิ่มยอดผู้ใช้งานได้อย่างมาก ผู้ใช้รู้สึกสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น และกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การออกแบบที่สวยงามและทันสมัยยังช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ให้สนใจใช้งานแอปพลิเคชันอีกด้วย

บทสรุป

การประเมินและปรับปรุง UX/UI เป็นกระบวนการที่สำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ผู้ใช้มีความคาดหวังสูงในการใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ การออกแบบ UX/UI ที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ แต่ยังช่วยเพิ่มยอดขายและความพึงพอใจให้กับธุรกิจอีกด้วย

กรณีศึกษาจากบริษัทที่สามารถปรับปรุง UX/UI ของแอปพลิเคชันได้สำเร็จ แสดงให้เห็นว่าการออกแบบที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง สามารถสร้างความแตกต่างและเพิ่มคุณค่าให้กับธุรกิจได้อย่างแท้จริง

 

Written by
Fah Narongchai Bunthong
Fah Narongchai Bunthong

Share

Keep me posted
to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

More than 120,000 people/day  visit to read our blogs

Related articles

Explore all

Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง
17 Oct, 2025

by

How Senna Labs helped S&P Food transform their online e-commerce business
How Senna Labs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital
17 Oct, 2025

by

การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need
17 Oct, 2025

by

Contact Senna Labs at :

hello@sennalabs.com28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599
© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved. | Privacy policy