Sitemap ดี Product ก็สำเร็จไปกว่าครึ่ง!
หลายคนอาจคุ้นหูกับคำว่า Sitemap แต่รู้หรือไม่ว่า Sitemap ไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปพร้อมกันว่า Sitemap คืออะไรกันแน่ แล้วมีความสำคัญกับ Digital Product อย่างไร และ Sitemap ที่ดีมีลักษณะอย่างไร
Sitemap คืออะไร และมีกี่ประเภท?
Sitemap คือแผนผังหรือโครงของ Digital Product ของเรา ซึ่งช่วยให้เราเห็นภาพรวมโครงสร้างและลำดับชั้นของทั้ง Product เปรียบได้กับสารบัญของหนังสือ
Sitemap ที่พูดถึงกันในปัจจุบันสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่
-
Site Architecture Sitemap หรือ Visual Sitemap
-
User Navigation Sitemap หรือ HTML Sitemap
-
Search Engine Sitemap หรือ XML Sitemap
โดยในบทความเราจะเน้นไปที่ Visual Sitemap เป็นหลัก
Visual Sitemap สำคัญอย่างไร?
Visual Sitemap เปรียบได้กับกระดูกสันหลังของ Digital Product มีขึ้นเพื่อกำหนดทิศทางการออกแบบ User Experience และการวางโครงสร้างในการ Develop ดังนั้นจึงมักเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำในช่วงเริ่มต้นของการออกแบบ Visual Sitemap ที่ดีจะช่วยให้ขั้นตอนการทำ Wireframe และ Mockups ง่ายขึ้น เนื่องจากเราจะเห็นภาพรวมว่า Product ของเราจำเป็นต้องมีกี่หน้า มีลำดับชั้นอย่างไร และตอบโจทย์กับ Requirements ที่ได้รับมาครบถ้วนหรือไม่
Visual Sitemap ที่ดีช่วยให้ Product สำเร็จได้อย่างไร?
-
Navigational Clarity หรือความชัดเจนในการนำทาง
-
Sitemap ที่ดีจะแสดงโครงสร้างและลำดับชั้นของแต่ละหน้าให้ชัดเจน พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมโยงของแต่ละส่วน จึงทำให้เราสามารถมองหาข้อมูลหรือ Functionality ที่ต้องการได้โดยง่าย ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการทำงานได้
-
Efficient Planning หรือการวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพ
-
เนื่องจากเราสามารถเห็นโครงสร้างของ Product ได้อย่างชัดเจน เราจึงสามารถมอบหมายงานตาม Section, Page, หรือ Functionality ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมีส่วนช่วยให้การประเมินเวลาและงบประมาณได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
-
Enhanced Collaboration หรือการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
-
ทุกคนในทีมสามารถใช้ Sitemap เป็นเหมือนคู่มือในการทำงานได้ เนื่องจากความชัดเจนของ Sitemap ที่ดีจะช่วยให้ทุกฝ่ายเข้าใจโครงสร้างทั้งหมดตรงกัน ทำให้ง่ายต่อการออกแบบ พัฒนาและนำเสนอ
-
Scalability หรือการรองรับการขยายตัว
-
Sitemap ที่ดีจะออกแบบมาโดยคำนึงถึงการขยายตัวของ Product ในอนาคต ซึ่งมีส่วนช่วยให้การต่อยอด Product เป็นไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
-
User-Centric Design
-
Sitemap ที่ดีจะออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก ซึ่งมีส่วนช่วยให้ทีมเข้าใจธรรมชาติและความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้น ดังนั้น Product ที่ออกมาจึงมักจะใช้งานง่าย ผู้ใช้ไม่ต้องเรียนรู้และปรับตัวมาก ทำให้ผู้ใช้เกิดความพึงพอใจ
วิธีการทำ Visual Sitemap
-
ลิสต์ Primary Pages ซึ่งคือหัวข้อ หมวดหมู่ หรือ Section หลักที่สำคัญที่สุดของ Product ของเรา เป็นสิ่งที่เราอยากให้ผู้ใช้งานเห็นและเข้าถึงได้ทันที
-
จากนั้นลิสต์ Secondary Pages สำหรับหัวข้อ หมวดหมู่ หรือ section ที่มีความสำคัญ แต่น้อยกว่า Primary Pages ในส่วน Secondary ผู้ใช้งานจะไม่เห็นในหน้าแรกของเรา
-
นำลิสต์มาจัดวางในรูปแบบ Family-tree โดยนำ Secondary Pages มาอยู่ภายใต้ Primary Page ที่มีความสอดคล้องกัน
-
ในกรณีที่มี Requirements มาอย่างละเอียด สามารถนำ Feature ที่ต้องการมาจัดวางไว้ภายใต้หน้าที่ต้องการได้ ส่วนนี้จะทำให้ทีมทำงานต่อได้ง่ายขึ้น
-
ปรึกษาทีมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อวิเคราะห์ว่า Draft ของเรามีความครบถ้วนหรือไม่ มีหน้าไหนที่จำเป็นและไม่จำเป็นบ้าง เพื่อให้ Product ของเราออกมา Lean และ User-friendly ที่สุด
โดยขั้นตอนทั้งหมดนี้ สามารถทำผ่าน Online Tools ต่าง ๆ ที่มี Template ให้ เช่น Miro หรือจะเขียนแต่ละหน้าใส่ Sticky Notes เพื่อจัดเรียงก็ได้
เราได้รู้จัก Sitemap มากขึ้น พร้อมทั้งเห็นความสำคัญและประโยชน์จาก Sitemap ที่ดี ซึ่งช่วยให้เราประหยัดทั้งเงินและเวลาไปแล้ว หวังว่าข้อมูลและวิธีการที่เรานำมาเสนอในวันนี้จะช่วยให้ Digital Product ของทุกคนสำเร็จอย่างราบรื่นนะคะ