ระบบหลังบ้านเว็บขายของควรมีอะไรบ้าง?

Business
2 mins read
2 mins read

Published

30 April, 2025

Language

Thai

Written by

Share

ระบบหลังบ้านเว็บขายของควรมีอะไรบ้าง?

เวลาเราพูดถึงเว็บไซต์ หลายคนมักนึกถึง “หน้าบ้าน” เช่น หน้าแรก หน้าสินค้า หรือหน้าติดต่อ แต่จริง ๆ แล้ว ระบบหลังบ้าน คือสิ่งที่ทำให้เว็บไซต์สามารถรองรับการเติบโตได้จริง

ระบบหลังบ้านคือส่วนที่จัดการข้อมูล เช่น ออเดอร์, ลูกค้า, สต๊อกสินค้า, รายงานยอดขาย และที่สำคัญคือ การเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ที่ธุรกิจต้องใช้งานทุกวัน เช่น CRM, ERP หรือช่องทางขายออนไลน์อื่น ๆ

ในบทความนี้ เราจะพาคุณดูว่าเว็บไซต์ที่ “พัฒนาเอง” มีข้อได้เปรียบมากแค่ไหนเมื่อพูดถึงระบบหลังบ้าน และทำไมหลายธุรกิจที่จริงจังกับออนไลน์ ถึงเลือกใช้เว็บแบบ Custom

 

เว็บไซต์สำเร็จรูป กับข้อจำกัดของระบบหลังบ้าน

เว็บไซต์สำเร็จรูป เช่น Shopify, Page365 หรือ Wix มักมีระบบหลังบ้านพื้นฐานให้ใช้งาน เช่น การดูออเดอร์ รายการสินค้า หรือฟอร์มลูกค้า

แต่เมื่อต้องการฟีเจอร์เฉพาะ เช่น

  • การแยกระดับพนักงาน (Staff Roles)

  • เชื่อมต่อกับระบบจัดส่งเฉพาะเจ้า

  • การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบ Realtime

  • การซิงค์ข้อมูลกับคลังสินค้า ERP

เว็บไซต์สำเร็จรูปจะเริ่ม ติดขีดจำกัด

ในหลายกรณี ต้องพึ่งพาปลั๊กอินเสริม ซึ่งบางตัวมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม หรือไม่มีฟีเจอร์ที่ต้องการจริง ๆ

 

เว็บพัฒนาเอง: เชื่อมต่อระบบได้อิสระ ปรับได้ตามธุรกิจ

เว็บไซต์ที่พัฒนาเองสามารถ ออกแบบระบบหลังบ้านให้ตรงกับกระบวนการทำงานจริงของธุรกิจ เช่น:

  • ดึงข้อมูลออเดอร์จากเว็บมารวมกับ Shopee, Lazada, LINE OA

  • ส่งข้อมูลลูกค้าใหม่ไปยังระบบ CRM โดยอัตโนมัติ

  • ตรวจสอบสถานะการชำระเงินผ่าน API กับ Payment Gateway

  • คำนวณสต๊อกสินค้าแบบเรียลไทม์ จากคลังกลางหรือระบบ ERP

  • สร้างรายงานยอดขายแยกตามแคมเปญ หรือช่องทางขาย

นอกจากนี้ยังสามารถ “ออกแบบหน้าจอหลังบ้าน” ให้ใช้งานง่ายกับทีมในองค์กร เช่น เจ้าหน้าที่จัดส่ง, ฝ่ายขาย, ฝ่ายบัญชี ฯลฯ ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการทำงานและลดความผิดพลาดได้อย่างมาก

 

กรณีศึกษา: ธุรกิจที่รวมออเดอร์จาก Shopee, Facebook, LINE เข้าระบบเดียว

ธุรกิจขายของแบรนด์หนึ่งมีช่องทางขายหลักคือ:

  • เว็บไซต์หลัก

  • Shopee

  • Facebook Inbox

  • LINE OA

ในช่วงแรกทีมงานต้องเปิดทุกช่องทางวันละหลายรอบเพื่อรวมออเดอร์ลง Excel แล้วส่งให้ทีมแพ็กของ

หลังจากเปลี่ยนมาใช้เว็บแบบพัฒนาเอง ทีมได้นำข้อมูลจากทุกช่องทางมาเชื่อมเข้าสู่ระบบหลังบ้านเดียว

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • ลดเวลาทำงานหลังบ้านจาก 4 ชั่วโมงต่อวัน เหลือไม่ถึง 1 ชั่วโมง

  • ตรวจสอบสถานะการจ่ายเงินและเตรียมจัดส่งแบบเรียลไทม์

  • ข้อมูลลูกค้าถูกเก็บเข้า CRM ทันที พร้อมสำหรับการตลาดในรอบถัดไป

 

ระบบหลังบ้านที่ดี = ลดต้นทุน + เพิ่มประสิทธิภาพ

สำหรับธุรกิจที่ต้องทำงานกับข้อมูลจำนวนมาก การมีระบบหลังบ้านที่ดีไม่ใช่แค่เรื่อง “ความสะดวก” แต่คือการ “ประหยัดต้นทุน” และ “เพิ่มความเร็วในการทำงาน”

เพราะเมื่อระบบจัดการดี:

  • ไม่ต้องใช้คนเยอะ

  • ลดข้อผิดพลาด

  • ติดตามสถานะงานได้ตลอดเวลา

  • พร้อมขยายธุรกิจต่อในอนาคต

สรุป

หากคุณกำลังเริ่มต้นธุรกิจ เว็บไซต์สำเร็จรูปอาจตอบโจทย์ในช่วงเริ่มต้นได้ดี เพราะใช้งานง่าย ไม่ต้องลงทุนเยอะ แต่เมื่อธุรกิจโตขึ้น ต้องการระบบที่ “พูดคุยกับระบบอื่นได้” และ “รองรับทีมงานหลายฝ่าย” เว็บไซต์พัฒนาเองจะให้คุณควบคุมทุกอย่างได้เต็มที่ระบบหลังบ้านจึงไม่ใช่แค่ส่วนประกอบ แต่คือหัวใจของการเติบโตในโลกดิจิทัล

Written by
Fayelyn Nantasuda Kuntieng
Fayelyn Nantasuda Kuntieng

Share

Keep me posted
to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

More than 120,000 people/day  visit to read our blogs

Related articles

Explore all

Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง
21 Sep, 2025

by

How Senna Labs helped S&P Food transform their online e-commerce business
How Senna Labs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital
21 Sep, 2025

by

การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need
21 Sep, 2025

by

Contact Senna Labs at :

hello@sennalabs.com28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599
© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved. | Privacy policy