การพัฒนา AI สำหรับการตลาดและโฆษณา

2 mins read

Published

15 January, 2025

Language

Thai

Written by

Share

การพัฒนา AI สำหรับการตลาดและโฆษณา

ในยุคที่ข้อมูลเป็นทรัพยากรสำคัญ AI (Artificial Intelligence) ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักที่ช่วยให้ธุรกิจการตลาดและโฆษณาสามารถปรับตัวเข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา AI ช่วยให้แบรนด์สามารถวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้จำนวนมหาศาลและสร้างโฆษณาหรือข้อเสนอที่ตรงใจลูกค้าแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ การใช้ AI ในการตลาดไม่เพียงเพิ่มยอดขาย แต่ยังสร้างประสบการณ์ที่ดีและความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างแบรนด์และลูกค้า

บทความนี้จะสำรวจบทบาทของ AI ในการพัฒนาแคมเปญการตลาดและโฆษณา พร้อมกรณีศึกษาของแบรนด์เครื่องสำอางในเกาหลีที่ใช้ AI เพิ่มยอดขายได้ถึง 40%

AI กับการตลาดและโฆษณาเฉพาะบุคคล

หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของ AI คือการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalization) สำหรับผู้บริโภค ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดยุคใหม่

การทำงานของ AI ในการตลาดและโฆษณา:

  1. การเก็บข้อมูลผู้บริโภค
    AI รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ การค้นหาออนไลน์ การซื้อสินค้า และพฤติกรรมบนโซเชียลมีเดีย

  2. การวิเคราะห์พฤติกรรม
    AI วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าเพื่อทำความเข้าใจความต้องการ ความชอบ และรูปแบบการตัดสินใจซื้อ

  3. การสร้างข้อเสนอเฉพาะบุคคล
    ระบบ AI ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อสร้างข้อเสนอหรือโฆษณาที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละคน เช่น ข้อเสนอส่วนลดสำหรับสินค้าที่ลูกค้ากำลังพิจารณา

  4. การเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญแบบเรียลไทม์
    AI ช่วยปรับแต่งแคมเปญโฆษณาแบบเรียลไทม์ โดยพิจารณาจากข้อมูลผลตอบรับที่เกิดขึ้น เช่น การเพิ่มงบประมาณในกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะซื้อ

 

กรณีศึกษา: แบรนด์เครื่องสำอางในเกาหลีเพิ่มยอดขาย 40% ด้วย AI

แบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ใช้ AI ในการพัฒนาแคมเปญการตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลให้กับลูกค้า

กระบวนการที่ดำเนินการ:

  1. การรวบรวมข้อมูลผู้ใช้
    แบรนด์รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น การเลือกชมผลิตภัณฑ์และการรีวิวสินค้า

  2. การสร้างโปรไฟล์ลูกค้า
    AI วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างโปรไฟล์ลูกค้า เช่น ลูกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวหน้าหรือเครื่องสำอางสำหรับโอกาสพิเศษ

  3. การส่งข้อเสนอเฉพาะบุคคล
    ระบบส่งข้อเสนอส่วนลดหรือคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมผ่านทางอีเมลและโซเชียลมีเดีย

  4. การปรับแต่งโฆษณาแบบเรียลไทม์
    AI ช่วยปรับแต่งข้อความ รูปภาพ และเวลาในการแสดงโฆษณาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม

ผลลัพธ์:
ยอดขายของแบรนด์เพิ่มขึ้นกว่า 40% ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน โดยลูกค้ารายงานว่าพวกเขารู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจความต้องการของพวกเขา และได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้บริการ

 

ข้อดีของการใช้ AI ในการตลาดและโฆษณา

  1. การเข้าถึงผู้บริโภคตรงจุด
    AI ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างโฆษณาที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ

  2. การเพิ่มยอดขาย
    การนำเสนอสินค้าหรือข้อเสนอที่ตรงใจลูกค้าช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  3. การสร้างประสบการณ์ที่ดี
    ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ให้ความใส่ใจและเข้าใจในความต้องการของพวกเขา

  4. การลดต้นทุนการตลาด
    AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ ลดการใช้ทรัพยากรในช่องทางที่ไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์

  5. การปรับตัวตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์
    AI ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดตามข้อมูลผลตอบรับที่เกิดขึ้นทันที

 

ความท้าทายของการนำ AI มาใช้ในการตลาด

แม้ว่า AI จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ยังมีความท้าทายที่ต้องจัดการ:

  • ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
    การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคต้องดำเนินการอย่างปลอดภัยและโปร่งใส

  • การปรับตัวขององค์กร
    ธุรกิจต้องมีความเข้าใจในเทคโนโลยี AI และวิธีการนำมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด

  • ค่าใช้จ่ายในการพัฒนา
    การลงทุนในระบบ AI ต้องการงบประมาณและทรัพยากรที่เหมาะสม

  • การรักษาสมดุลระหว่างความอัตโนมัติและการสร้างความสัมพันธ์
    แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ธุรกิจยังต้องใส่ใจในการสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับลูกค้า

 

อนาคตของ AI ในการตลาดและโฆษณา

AI จะยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการตลาดในอนาคต โดยมีแนวโน้มที่น่าสนใจ ได้แก่:

  1. การใช้ AI เชิงสร้างสรรค์ (Creative AI)
    AI จะช่วยสร้างเนื้อหาโฆษณา เช่น วิดีโอ หรือกราฟิก ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายโดยอัตโนมัติ

  2. การตลาดแบบคาดการณ์ล่วงหน้า (Predictive Marketing)
    AI จะสามารถคาดการณ์แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต และช่วยวางแผนกลยุทธ์การตลาดได้ล่วงหน้า

  3. การเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า (Customer Engagement)
    AI จะช่วยสร้างประสบการณ์การโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติ เช่น การใช้ Chatbot หรือระบบตอบสนองอัตโนมัติที่เข้าใจผู้ใช้งานมากขึ้น

  4. การบูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Integration)
    AI จะผสานข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดียและพฤติกรรมการค้นหา เพื่อสร้างมุมมองที่ครบถ้วนเกี่ยวกับผู้บริโภค

บทสรุป


AI ช่วยยกระดับการตลาดและโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค กรณีศึกษาจากแบรนด์เครื่องสำอางในเกาหลีแสดงให้เห็นว่า AI ช่วยเพิ่มยอดขายได้ถึง 40% ในอนาคต AI จะยังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้างแคมเปญการตลาดที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น และช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างแบรนด์และลูกค้า

Written by
Fayelyn Nantasuda Kuntieng
Fayelyn Nantasuda Kuntieng

Share

Keep me posted
to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

More than 120,000 people/day  visit to read our blogs

Related articles

Explore all

Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง
18 Nov, 2025

by

How Senna Labs helped S&P Food transform their online e-commerce business
How Senna Labs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital
18 Nov, 2025

by

การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need
18 Nov, 2025

by

Contact Senna Labs at :

hello@sennalabs.com28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599
© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved. | Privacy policy