เจาะลึก CMS : เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ยุคใหม่ เลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์ธุรกิจ

Business
2 mins read
2 mins read

Published

4 July, 2024

Language

Thai

Written by

Share

เจาะลึก CMS : เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ยุคใหม่ เลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์ธุรกิจ

ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างและบริหารเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล แต่ CMS ก็มีหลายประเภทให้เลือกสรร เราจะมาเจาะลึกแต่ละประเภท เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ค่าใช้จ่าย และยกตัวอย่างการใช้งานจริงของบริษัทชั้นนำ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือก CMS ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้อย่างมั่นใจ

cms

ประเภทของ CMS: เลือกให้เหมาะกับความต้องการ

  1. Off-the-Shelf CMS (CMS สำเร็จรูป):

  • จุดเด่น : ใช้งานง่าย มีเทมเพลตและปลั๊กอินให้เลือกหลากหลาย ทำให้สร้างเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว ราคาไม่สูง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการประหยัดงบประมาณและเวลา

  • จุดด้อย : ปรับแต่งได้จำกัด ไม่เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนหรือต้องการฟังก์ชันเฉพาะทาง อาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพเมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมาก

  • ตัวอย่าง :

  • WordPress: ใช้งานง่าย ปรับแต่งได้หลากหลายด้วยปลั๊กอินและธีมจำนวนมาก เหมาะสำหรับบล็อก เว็บไซต์บริษัท หรือร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก

  • Wix: เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น มีเครื่องมือออกแบบที่ใช้งานง่าย และมีฟังก์ชันสำหรับอีคอมเมิร์ซในตัว

  • Shopify: เน้นการสร้างร้านค้าออนไลน์ มีฟีเจอร์ครบครันสำหรับการขายสินค้าออนไลน์ แต่ค่าธรรมเนียมอาจสูงเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น

  • ราคา : มีตั้งแต่ฟรี ไปจนถึงหลักพันบาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับฟีเจอร์และจำนวนผู้ใช้งาน

  1. Headless CMS (CMS แบบ Headless):

  • จุดเด่น : แยกส่วน Front-end (ส่วนแสดงผล) และ Back-end (ส่วนจัดการเนื้อหา) ออกจากกัน ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถนำเนื้อหาไปแสดงผลบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย (เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ) เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างประสบการณ์ Omnichannel ที่ราบรื่น

  • จุดด้อย : ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคในการเชื่อมต่อ Front-end และ Back-end

  • ตัวอย่าง :

  • Contentful: ใช้งานง่าย มี API ที่ครอบคลุม เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่มีประสบการณ์

  • Strapi: โอเพ่นซอร์ส ปรับแต่งได้สูง เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง

  • Sanity: มีเครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ เหมาะสำหรับทีมงานขนาดใหญ่

  • าคา : มีทั้งแบบ Freemium (ฟรีมีจำนวนจำกัด) และแบบ Subscription (จ่ายรายเดือน) ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งาน

  1. Custom CMS (CMS แบบกำหนดเอง):

  • จุดเด่น : ปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจได้อย่างลงตัว มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความต้องการเฉพาะทาง หรือต้องการควบคุมทุกองค์ประกอบของเว็บไซต์

  • จุดด้อย : ค่าใช้จ่ายสูง ต้องใช้เวลานานในการพัฒนา ต้องอาศัยทีมพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญ

  • ตัวอย่าง :

  • The New York Times: ใช้ Custom CMS เพื่อรองรับปริมาณผู้เข้าชมจำนวนมหาศาล และฟังก์ชันที่ซับซ้อน เช่น ระบบจัดการข่าวสารและวิดีโอ

  • Nike: สร้าง Custom CMS เพื่อมอบประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และสอดคล้องกับแบรนด์ของ Nike และรองรับการปรับแต่งแคมเปญการตลาดได้อย่างรวดเร็ว

  • IKEA: พัฒนา Custom CMS เพื่อรองรับการแสดงผลสินค้าจำนวนมาก การจัดการสต็อก และการปรับเปลี่ยนเนื้อหาตามภูมิภาคต่าง ๆ

  • Airbnb: ใช้ Custom CMS เพื่อจัดการข้อมูลที่พักอาศัยจำนวนมาก และระบบการจองที่ซับซ้อน พร้อมรองรับการปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

  • Netflix: สร้าง Custom CMS เพื่อจัดการเนื้อหาภาพยนตร์และซีรีส์จำนวนมหาศาล และรองรับการแนะนำเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้แต่ละคน

  • ราคา : ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของระบบและฟังก์ชันที่ต้องการ อาจมีค่าใช้จ่ายหลักแสนถึงหลักล้านบาท

เลือก CMS อย่างไรให้ตอบโจทย์ธุรกิจ?

การเลือก CMS ที่เหมาะสมต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน :

  • งบประมาณ : มีงบประมาณเท่าไหร่ในการสร้างและดูแลเว็บไซต์?

  • ความรู้ด้านเทคนิค : มีทีมพัฒนาเว็บไซต์ที่มีความเชี่ยวชาญหรือไม่? หากไม่มี อาจต้องพิจารณา CMS ที่ใช้งานง่าย

  • ความต้องการของเว็บไซต์ : เว็บไซต์ของคุณมีความซับซ้อนแค่ไหน? ต้องการฟังก์ชันอะไรบ้าง?

  • แผนการเติบโต : ในอนาคตเว็บไซต์ของคุณจะมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือไม่? ต้องการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ ๆ หรือไม่?

ไม่ว่าคุณจะเลือก CMS แบบไหน สิ่งสำคัญคือต้องเลือก CMS ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ และช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จได้

Written by
Ai Nitwaree
Ai Nitwaree

Share

Keep me posted
to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

More than 120,000 people/day  visit to read our blogs

Related articles

Explore all

Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง
16 Oct, 2025

by

How Senna Labs helped S&P Food transform their online e-commerce business
How Senna Labs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital
16 Oct, 2025

by

การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need
16 Oct, 2025

by

Contact Senna Labs at :

hello@sennalabs.com28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599
© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved. | Privacy policy