heart balloonkissheart balloon mobilekiss mobile
13Jan, 2025
Language blog :
Thai
Share blog : 
13 January, 2025
Thai

AI กับ Virtual Assistant: ตัวช่วยที่ใช่สำหรับงานบริการด้านสุขภาพ

By

2 mins read
AI กับ Virtual Assistant: ตัวช่วยที่ใช่สำหรับงานบริการด้านสุขภาพ

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วน อุตสาหกรรมสุขภาพก็ไม่เว้น AI (Artificial Intelligence) และ Virtual Assistant กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับประสบการณ์ของผู้ป่วย แต่คำถามสำคัญคือ เครื่องมือใดเหมาะสมที่สุดสำหรับการสนับสนุนลูกค้าในด้านสุขภาพ?

บทความนี้จะอธิบายถึงความสามารถของ AI และ Virtual Assistant ในการช่วยงานด้านสุขภาพ เช่น การนัดหมายและการตอบคำถาม พร้อมกรณีศึกษาจากคลินิกสุขภาพที่ใช้ทั้งสองเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงการให้บริการลูกค้า

AI และ Virtual Assistant: ความเหมือนและความแตกต่างในงานสุขภาพ

Virtual Assistant: ผู้ช่วยโต้ตอบแบบเรียลไทม์

Virtual Assistant คือซอฟต์แวร์ที่ช่วยตอบคำถามและดำเนินงานที่ซ้ำซาก เช่น การให้ข้อมูลเบื้องต้น การจัดตารางนัดหมาย หรือการแนะนำบริการ ใช้งานง่ายและพร้อมให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง

จุดเด่นของ Virtual Assistant ในงานสุขภาพ:

  1. ตอบคำถามเบื้องต้น: เช่น เวลาทำการของคลินิก หรือประเภทของบริการที่มีให้

  2. การนัดหมายออนไลน์: ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเลือกวันและเวลาเข้ารับบริการได้สะดวก

  3. ลดภาระงานซ้ำซากของเจ้าหน้าที่: คำถามทั่วไปสามารถถูกจัดการโดย Virtual Assistant ได้ทั้งหมด

AI: นักวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะ

AI เป็นเทคโนโลยีที่ใช้การเรียนรู้และประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้ม การคาดการณ์ และการตัดสินใจที่ซับซ้อนในงานสุขภาพ

จุดเด่นของ AI ในงานสุขภาพ:

  1. การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย: AI สามารถประมวลผลประวัติการรักษาและข้อมูลทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

  2. การช่วยวินิจฉัยเบื้องต้น: ด้วยการประมวลผลจากข้อมูลอาการและการตรวจสอบผลตรวจ

  3. การปรับแต่งแผนการรักษา: ใช้ข้อมูลเฉพาะบุคคลเพื่อเสนอแผนการรักษาที่เหมาะสม

 

การประยุกต์ใช้ Virtual Assistant และ AI ในอุตสาหกรรมสุขภาพ

1. การตอบคำถามและการนัดหมาย

Virtual Assistant ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดเวลาที่ใช้ในการตอบคำถามทั่วไป เช่น เวลาทำการ ค่าใช้จ่าย หรือบริการที่มีในคลินิก ผู้ป่วยสามารถนัดหมายหรือขอเลื่อนนัดได้ผ่าน Virtual Assistant แบบอัตโนมัติ

  • ตัวอย่าง: หากผู้ป่วยต้องการนัดหมายการตรวจสุขภาพ สามารถพูดคุยกับ Virtual Assistant ผ่านแอปพลิเคชันของคลินิก และเลือกเวลาที่สะดวกได้ทันที

2. การวิเคราะห์ประวัติการรักษา

AI ถูกนำมาใช้ในงานที่ซับซ้อน เช่น การวิเคราะห์ประวัติการรักษาของผู้ป่วย เพื่อช่วยแพทย์วางแผนการรักษาที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • ตัวอย่าง: AI ช่วยแพทย์ระบุแนวโน้มของโรคในผู้ป่วยที่มีประวัติสุขภาพเฉพาะ เช่น การตรวจหาความเสี่ยงของโรคหัวใจหรือเบาหวาน

 

กรณีศึกษา: คลินิกสุขภาพกับการใช้ Virtual Assistant และ AI

คลินิกสุขภาพแห่งหนึ่งต้องการปรับปรุงการให้บริการลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการข้อมูลผู้ป่วย

ปัญหา:

  • ลูกค้าต้องรอนานในการโทรสอบถามข้อมูลทั่วไป เช่น บริการที่คลินิกมี

  • การจัดการประวัติการรักษาเป็นเรื่องที่ใช้เวลามากสำหรับทีมงาน

แนวทางแก้ไข:

  1. Virtual Assistant ตอบคำถามและนัดหมาย
    คลินิกติดตั้ง Virtual Assistant บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับเวลาทำการ ประเภทของบริการ และค่าใช้จ่าย ผู้ป่วยยังสามารถจองนัดหมายผ่านระบบนี้ได้ทันที

  2. AI วิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย
    คลินิกใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ประวัติการรักษาของผู้ป่วย ช่วยแพทย์เข้าใจประวัติสุขภาพในเชิงลึกและปรับแผนการรักษาให้เหมาะสม

ผลลัพธ์:

  • ลดเวลาในการตอบคำถาม: Virtual Assistant ช่วยตอบคำถามได้ทันที ลดความล่าช้าในการให้บริการ

  • เพิ่มความแม่นยำของการรักษา: AI ช่วยแพทย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้อย่างรวดเร็ว

  • สร้างความพึงพอใจให้ผู้ป่วย: ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการได้สะดวกขึ้น

 

Virtual Assistant หรือ AI: เลือกแบบไหนให้เหมาะกับงานสุขภาพ?

  • เลือก Virtual Assistant หาก:

    • ธุรกิจของคุณต้องการลดภาระงานซ้ำซาก เช่น การตอบคำถามทั่วไป

    • คุณต้องการโซลูชันที่ใช้งานได้ทันทีและรองรับการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

  • เลือก AI หาก:

    • คุณต้องการเครื่องมือที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนได้ เช่น ประวัติการรักษาของผู้ป่วย

    • คุณต้องการวางแผนการรักษาหรือการคาดการณ์แนวโน้มสุขภาพของผู้ป่วย

  • ใช้ร่วมกันหาก:

    • คุณต้องการระบบที่ครอบคลุม เช่น Virtual Assistant สำหรับตอบคำถามและการนัดหมาย และ AI สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพเชิงลึก

 

สรุป: การใช้ AI และ Virtual Assistant เพื่อสนับสนุนงานสุขภาพ

ทั้ง AI และ Virtual Assistant ต่างมีบทบาทที่สำคัญในการสนับสนุนงานด้านสุขภาพ Virtual Assistant ช่วยลดภาระงานที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ป่วย ขณะที่ AI ช่วยในงานวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและช่วยแพทย์ปรับปรุงแผนการรักษา

กรณีศึกษาจากคลินิกสุขภาพแสดงให้เห็นว่าการใช้ทั้งสองเทคโนโลยีร่วมกันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับประสบการณ์ของผู้ป่วยได้อย่างแท้จริง ในยุคที่การดูแลสุขภาพต้องแข่งขันด้วยคุณภาพและความรวดเร็ว การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสุขภาพก้าวนำในตลาด.

 

Written by
Opal Piyaporn Kijtikhun
Opal Piyaporn Kijtikhun

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

17
February, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
17 February, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
17
February, 2025
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
17 February, 2025
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital

By

4 mins read
English
17
February, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
17 February, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.