heart balloonkissheart balloon mobilekiss mobile
10Jan, 2025
Language blog :
Thai
Share blog : 
10 January, 2025
Thai

AI และ Chatbot: ยกระดับงาน HR ลดภาระซ้ำซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพองค์กร

By

3 mins read
AI และ Chatbot: ยกระดับงาน HR ลดภาระซ้ำซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพองค์กร

งานด้านทรัพยากรมนุษย์ (HR) เป็นหัวใจสำคัญขององค์กร แต่บ่อยครั้งที่ทีม HR ต้องเผชิญกับงานซ้ำซ้อน เช่น การตอบคำถามพนักงานเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ หรือการจัดการเอกสารที่ซับซ้อน เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และ Chatbot ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยลดภาระงานเหล่านี้ ทำให้ทีม HR สามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาบุคลากรและกลยุทธ์เชิงรุกได้มากขึ้น

บทความนี้จะอธิบายว่า AI และ Chatbot ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการจัดการงาน HR ได้อย่างไร พร้อมกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีเหล่านี้ในองค์กรขนาดใหญ่

 

Chatbot: ผู้ช่วย HR ที่พร้อมตอบคำถาม 24/7

Chatbot กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในงาน HR โดยเฉพาะในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมาก ทีม HR อาจไม่สามารถตอบคำถามทุกข้อได้อย่างทันท่วงที Chatbot ช่วยให้การสื่อสารระหว่างพนักงานและแผนก HR มีประสิทธิภาพมากขึ้น

บทบาทของ Chatbot ในงาน HR

  1. ตอบคำถามเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของพนักงาน
    Chatbot สามารถตอบคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ เช่น ประกันสุขภาพ วันลาพักร้อน หรือขั้นตอนการยื่นเอกสาร ทำให้พนักงานได้รับคำตอบที่รวดเร็วโดยไม่ต้องรอคำตอบจากเจ้าหน้าที่ HR
    กรณีศึกษา: บริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอุตสาหกรรมไอทีใช้ Chatbot เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของพนักงาน เช่น เงื่อนไขการเบิกค่ารักษาพยาบาล พนักงานสามารถสอบถามผ่านแอปพลิเคชันของบริษัทได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดย Chatbot ตอบคำถามได้กว่า 80% ของคำถามทั้งหมด ลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ HR ได้อย่างมีนัยสำคัญ

  2. การจัดการคำขอลาและเวลาทำงาน
    Chatbot สามารถช่วยพนักงานยื่นคำขอลา ตรวจสอบสถานะคำขอลา หรือดูยอดคงเหลือวันลาที่ใช้ได้อย่างง่ายดาย

  3. การสื่อสารภายในองค์กร
    Chatbot ช่วยส่งข้อมูลที่สำคัญ เช่น นโยบายใหม่ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร หรือการแจ้งเตือนเกี่ยวกับกิจกรรมสำคัญ

 

AI: ตัวช่วยในการคัดกรองและวิเคราะห์ข้อมูล HR

AI ได้เปลี่ยนแปลงกระบวนการคัดสรรและบริหารทรัพยากรบุคคลในหลายมิติ โดยเฉพาะในขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมาก เช่น การคัดกรองผู้สมัครงาน หรือการวิเคราะห์ข้อมูลพนักงานเพื่อวางแผนกลยุทธ์

บทบาทของ AI ในงาน HR

  1. การคัดกรองผู้สมัครงาน (Resume Screening)
    AI สามารถประมวลผลเรซูเม่ของผู้สมัครจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว โดยใช้ Machine Learning วิเคราะห์คุณสมบัติที่สอดคล้องกับตำแหน่งงาน เช่น ประสบการณ์ทำงาน ทักษะ หรือการศึกษา ทำให้ทีม HR ประหยัดเวลาในการคัดกรองเบื้องต้น
    กรณีศึกษา: บริษัทด้านการเงินรายใหญ่แห่งหนึ่งใช้ AI ในการคัดกรองผู้สมัครงานระดับต้น AI วิเคราะห์เรซูเม่กว่า 10,000 ฉบับในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และคัดกรองผู้สมัครที่เหมาะสมได้ถึง 85% โดยลดเวลาในการสรรหาบุคลากรลงกว่า 40%

  2. การวางแผนและจัดสรรทรัพยากร
    AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลพนักงาน เช่น ทักษะ ความสามารถ หรือผลการประเมินประจำปี เพื่อช่วยองค์กรวางแผนการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เช่น การจัดการฝึกอบรม การโยกย้ายตำแหน่ง หรือการสร้างเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพ

  3. การคาดการณ์การลาออก (Attrition Prediction)
    AI ใช้ข้อมูลทางสถิติเพื่อคาดการณ์ว่าพนักงานกลุ่มใดมีแนวโน้มที่จะลาออก ทำให้องค์กรสามารถดำเนินการแก้ไข เช่น การเพิ่มแรงจูงใจหรือการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน

 

การผสาน Chatbot และ AI ในงาน HR

เมื่อ Chatbot และ AI ทำงานร่วมกัน องค์กรจะได้รับประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ตัวอย่างเช่น:

  • Chatbot เก็บข้อมูลจากพนักงาน: พนักงานสามารถสอบถามหรือยื่นข้อมูลผ่าน Chatbot เช่น คำขอลา หรือความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงาน

  • AI วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนเชิงกลยุทธ์: AI นำข้อมูลที่ Chatbot รวบรวมมาวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจ เช่น การวางแผนพัฒนาบุคลากรหรือการแก้ปัญหาเฉพาะจุด

 

ประโยชน์ของ AI และ Chatbot ในงาน HR

  1. ลดภาระงานซ้ำซ้อน
    Chatbot ช่วยจัดการงานพื้นฐาน เช่น การตอบคำถามหรือการยื่นคำขอ ทำให้ทีม HR มีเวลาสำหรับงานที่ซับซ้อนขึ้น

  2. เพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ข้อมูล
    AI ช่วยให้การคัดกรองผู้สมัครและวางแผนทรัพยากรมนุษย์มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  3. เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้กับพนักงาน
    พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการต่างๆ ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

  4. สนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
    ข้อมูลที่วิเคราะห์โดย AI ช่วยให้ทีม HR วางแผนการพัฒนาบุคลากรหรือการจัดการองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ความท้าทายและข้อควรระวัง

  1. ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
    การจัดเก็บข้อมูลพนักงานผ่านระบบ AI และ Chatbot ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด

  2. ความถูกต้องของคำตอบ
    Chatbot ต้องสามารถตอบคำถามได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด

  3. ความไว้วางใจในเทคโนโลยี
    พนักงานบางคนอาจไม่ไว้วางใจระบบอัตโนมัติ และยังคงต้องการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ HR จริงในบางกรณี

 

บทสรุป

AI และ Chatbot ได้เข้ามาปฏิวัติการจัดการงาน HR ช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการสรรหาและบริหารทรัพยากรมนุษย์ กรณีศึกษาจากบริษัทขนาดใหญ่แสดงให้เห็นว่า การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้สามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้กับพนักงานและช่วยให้ทีม HR มีเวลามากขึ้นในการมุ่งเน้นเรื่องกลยุทธ์

ในอนาคต การพัฒนา AI และ Chatbot ในงาน HR จะยังคงเติบโตและเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถแข่งขันในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

 

Written by
Nun Nuntachat Youpanich
Nun Nuntachat Youpanich

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

19
February, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
19 February, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
19
February, 2025
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
19 February, 2025
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital

By

4 mins read
English
19
February, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
19 February, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.