heart balloonkissheart balloon mobilekiss mobile
09Jan, 2025
Language blog :
Thai
Share blog : 
09 January, 2025
Thai

AI กับ Chatbot: ความแตกต่างและการนำไปใช้ในธุรกิจ

By

3 mins read
AI กับ Chatbot: ความแตกต่างและการนำไปใช้ในธุรกิจ

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจทุกประเภท AI (Artificial Intelligence) และ Chatbot ได้กลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า แต่หลายคนอาจสงสัยว่า AI และ Chatbot ต่างกันอย่างไร และควรใช้งานในรูปแบบไหนให้เหมาะสมที่สุด บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างระหว่าง AI และ Chatbot พร้อมตัวอย่างการใช้งานที่หลากหลายในธุรกิจ รวมถึงกรณีศึกษาจากธนาคารชั้นนำที่ใช้ทั้งสองเทคโนโลยีนี้เพื่อปรับปรุงการบริการลูกค้า

AI กับ Chatbot: แตกต่างแต่ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว

AI คืออะไร?

AI หรือปัญญาประดิษฐ์ เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้ วิเคราะห์ และตัดสินใจได้โดยอัตโนมัติ AI มักถูกใช้ในงานที่ซับซ้อน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ การคาดการณ์แนวโน้มตลาด และการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ต้องการความฉลาดและความยืดหยุ่นสูง

  • ตัวอย่างการใช้งาน AI:

    • ระบบแนะนำสินค้าในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (เช่น Amazon หรือ Shopee)

    • การคาดการณ์ยอดขายและความต้องการสินค้า

    • การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นที่เหมาะสม

Chatbot คืออะไร?

Chatbot เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อสนทนากับมนุษย์ผ่านข้อความหรือเสียง โดยใช้คำสั่งที่ตั้งไว้ล่วงหน้าหรือการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP: Natural Language Processing) Chatbot มีหน้าที่หลักคือการตอบคำถามหรือช่วยเหลือผู้ใช้ในเรื่องที่ไม่ซับซ้อน

  • ตัวอย่างการใช้งาน Chatbot:

    • ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลสินค้าในเว็บไซต์

    • ช่วยจองบริการ เช่น ตั๋วหนังหรือโต๊ะอาหาร

    • ช่วยเหลือผู้ใช้ในการแก้ปัญหาเบื้องต้น เช่น รีเซ็ตรหัสผ่าน

 

การนำ AI และ Chatbot ไปใช้ในธุรกิจ

AI และ Chatbot สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว โดย AI ช่วยเพิ่มศักยภาพให้ Chatbot ฉลาดขึ้น เช่น การเข้าใจบริบทของการสนทนา การเรียนรู้จากคำถามที่พบบ่อย และการเสนอคำตอบที่เหมาะสมที่สุด นี่คือตัวอย่างการนำไปใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม:

1. การเงินและการธนาคาร

  • AI: ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการใช้จ่ายของลูกค้าเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม เช่น สินเชื่อหรือบัตรเครดิต

  • Chatbot: ช่วยตอบคำถามทั่วไป เช่น อัตราดอกเบี้ย เวลาทำการ หรือวิธีการเปิดบัญชี

  • กรณีศึกษา: ธนาคารชั้นนำแห่งหนึ่งใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมของลูกค้าเพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่อาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง และใช้ Chatbot สำหรับตอบคำถามเกี่ยวกับบริการธนาคารออนไลน์ ลดเวลาการรอของลูกค้าในช่องทางคอลเซ็นเตอร์

2. อีคอมเมิร์ซ

  • AI: วิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้าแนะนำและโปรโมชั่นที่ตรงใจ

  • Chatbot: ตอบคำถามเกี่ยวกับสถานะการจัดส่ง หรือช่วยแนะนำวิธีการคืนสินค้า

  • ตัวอย่าง: เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ใช้ Chatbot ที่ได้รับการปรับปรุงด้วย AI เพื่อแนะนำสินค้าที่คล้ายกับสิ่งที่ลูกค้าเคยค้นหา

3. การท่องเที่ยวและการโรงแรม

  • AI: คาดการณ์ความต้องการของนักท่องเที่ยว เช่น ฤดูกาลที่นิยมเดินทางหรือปลายทางที่กำลังเป็นเทรนด์

  • Chatbot: ช่วยลูกค้าจองโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว

  • ตัวอย่าง: สายการบินชั้นนำใช้ Chatbot เพื่อช่วยลูกค้าตรวจสอบสถานะเที่ยวบินและแก้ปัญหาเกี่ยวกับบัตรโดยสาร

 

ข้อดีของการใช้งาน AI และ Chatbot

AI

  • ช่วยจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว

  • มีความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่ ๆ

  • เพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์และตัดสินใจ

Chatbot

  • ให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง

  • ลดภาระงานของทีมสนับสนุน

  • ใช้งานง่ายและตอบสนองทันที

 

เลือก AI หรือ Chatbot สำหรับธุรกิจของคุณ?

  • เลือก AI หากธุรกิจของคุณต้องการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและคาดการณ์แนวโน้ม

  • เลือก Chatbot หากคุณต้องการระบบที่สามารถตอบคำถามหรือช่วยเหลือเบื้องต้นได้ทันที

  • ใช้ร่วมกัน หากคุณต้องการโซลูชันที่ตอบโจทย์ทั้งการให้บริการลูกค้าและการจัดการข้อมูล

 

สรุป: AI และ Chatbot คือทีมเวิร์คที่ทรงพลัง

AI และ Chatbot มีความแตกต่างกันในด้านหน้าที่และความสามารถ แต่เมื่อทำงานร่วมกันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า กรณีศึกษาจากธนาคารชั้นนำแสดงให้เห็นว่าการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลและใช้ Chatbot ตอบคำถามทั่วไปสามารถลดเวลารอและเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเลือกใช้เทคโนโลยีทั้งสองอย่างขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจ และหากใช้งานอย่างเหมาะสม เทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการยกระดับธุรกิจให้ทันสมัยและประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล.

 

Written by
Opal Piyaporn Kijtikhun
Opal Piyaporn Kijtikhun

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

19
February, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
19 February, 2025
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
19
February, 2025
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
19 February, 2025
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital

By

4 mins read
English
19
February, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
19 February, 2025
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.