3 โปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ดีที่สุดในปี 2025

ปัจจุบันการมีเว็บไซต์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจทุกประเภท โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ที่ต้องการเข้าถึงลูกค้าออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเว็บไซต์ อาจเป็นอุปสรรคสำหรับหลายธุรกิจ
เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ราคาประหยัด ที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถ สร้างเว็บไซต์เองได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านโค้ด หรือจ้างนักพัฒนาเว็บให้เสียค่าใช้จ่ายสูง
เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถ:
-
ออกแบบเว็บไซต์ได้เองโดยใช้ เทมเพลตสำเร็จรูป
-
เพิ่มสินค้าและบริการได้ง่ายผ่าน ระบบจัดการเนื้อหา (CMS)
-
เชื่อมต่อกับระบบชำระเงินและการขนส่งอัตโนมัติ
-
รองรับ SEO เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับใน Google
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จัก เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายและไม่แพง พร้อมกรณีศึกษาของร้านขายของแฮนด์เมดที่ใช้ Wix ในการสร้างร้านค้าออนไลน์ได้สำเร็จ
กรณีศึกษา: ร้านขายของแฮนด์เมดเปิดเว็บไซต์ขายสินค้าโดยไม่ต้องเขียนโค้ด
ปัญหาของร้านค้า
ร้านขายของแฮนด์เมดแห่งหนึ่งต้องการขยายธุรกิจจากการขายผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Instagram ไปสู่การขายผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง แต่พบว่าการจ้างนักพัฒนาเว็บต้องใช้เงินลงทุนสูง และต้องใช้เวลานานในการสร้าง
วิธีแก้ปัญหา
เจ้าของร้านตัดสินใจใช้ Wix ซึ่งเป็น เครื่องมือสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถ
-
เลือก เทมเพลตเว็บไซต์สำเร็จรูป ที่สวยงามและปรับแต่งได้ง่าย
-
อัปโหลดรูปสินค้าและตั้งค่าระบบการสั่งซื้อออนไลน์
-
ใช้ฟีเจอร์ SEO เพื่อช่วยให้ลูกค้าค้นหาเว็บไซต์เจอใน Google
ผลลัพธ์ที่ได้
-
เว็บไซต์ถูกสร้างขึ้นใน ไม่ถึง 1 สัปดาห์
-
ยอดขายจากช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 50% ภายใน 3 เดือน
-
ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างนักพัฒนาเว็บกว่า 50,000 บาท
เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ยอดนิยมที่ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง
1. Wix (เหมาะสำหรับมือใหม่ สร้างเว็บไซต์ได้ง่าย)
-
ราคา: ฟรีสำหรับแผนพื้นฐาน / แพ็กเกจพรีเมียมเริ่มต้นที่ $14/เดือน
-
จุดเด่น:
-
มี เทมเพลตสำเร็จรูป ให้เลือกมากมาย
-
รองรับ E-commerce และระบบจองออนไลน์
-
มี AI ช่วยออกแบบเว็บไซต์ ให้อัตโนมัติ
เหมาะกับ: ร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก, ธุรกิจที่ต้องการเว็บไซต์เร็วและใช้งานง่าย
2. Shopify (เหมาะสำหรับร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะ)
-
ราคา: แผนเริ่มต้นที่ $29/เดือน
-
จุดเด่น:
-
รองรับการขายสินค้า หลายช่องทาง (Facebook, Instagram, Shopee)
-
มีระบบ การจัดการสต็อกสินค้า และ ชำระเงินออนไลน์
-
มีปลั๊กอินช่วยเพิ่มฟีเจอร์ร้านค้า เช่น ระบบส่งเสริมการขาย
เหมาะกับ: ธุรกิจที่ต้องการโฟกัสการขายสินค้าออนไลน์โดยเฉพาะ
3. WordPress + WooCommerce (เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่น)
-
ราคา: ค่าบริการโฮสติ้งเริ่มต้นที่ $5-10/เดือน (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ)
-
จุดเด่น:
-
ปรับแต่งได้สูง และรองรับปลั๊กอินจำนวนมาก
-
เชื่อมต่อกับระบบชำระเงิน PayPal, Stripe และธนาคารในไทย
-
มีธีมและปลั๊กอินฟรีให้เลือกมากมาย
เหมาะกับ: ธุรกิจที่ต้องการ ความยืดหยุ่น และต้องการเว็บไซต์ที่ขยายฟีเจอร์ได้ในอนาคต
วิธีเลือกเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
-
กำหนดวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์
-
หากต้องการ ร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจร → Shopify อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
-
หากต้องการ เว็บไซต์สำหรับแสดงผลงานหรือบริการ → Wix ใช้งานง่ายกว่า
-
หากต้องการ เว็บไซต์ที่ปรับแต่งได้เยอะ → WordPress + WooCommerce ตอบโจทย์
-
พิจารณางบประมาณ
-
Wix มีแผนฟรีสำหรับเว็บไซต์ทั่วไป แต่ต้องใช้แผนเสียเงินหากต้องการใช้ E-commerce
-
Shopify มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ $29/เดือน แต่รองรับการขายสินค้าหลายช่องทาง
-
WordPress + WooCommerce มีต้นทุนต่ำสุด แต่อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้
-
เช็คว่าระบบรองรับการชำระเงินออนไลน์หรือไม่
-
Shopify มีระบบชำระเงินในตัว
-
Wix และ WordPress ต้องใช้การเชื่อมต่อกับ PayPal, Stripe หรือธนาคารไทย
-
ทดลองใช้งานก่อนตัดสินใจ
-
Wix และ Shopify มี ทดลองใช้ฟรี
-
WordPress ต้องติดตั้งเอง แต่อาจใช้โฮสติ้งฟรีสำหรับการทดสอบ
ข้อดีของการใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์แทนการจ้างนักพัฒนา
-
ประหยัดต้นทุน – ไม่ต้องเสียเงินหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท
-
สร้างเว็บไซต์ได้รวดเร็ว – ไม่ต้องรอเป็นเดือน ๆ เพื่อให้เว็บเสร็จ
-
แก้ไขเองได้ง่าย – ไม่ต้องพึ่งนักพัฒนาเว็บในการอัปเดตเนื้อหา
-
รองรับ SEO และโฆษณาออนไลน์ – ทำให้เว็บของคุณติดอันดับ Google และดึงดูดลูกค้า
สรุป
เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจ SME สามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ ได้ง่ายและคุ้มค่า โดยไม่ต้องมีพื้นฐานด้านโค้ด จากกรณีศึกษาร้านขายของแฮนด์เมด การใช้ Wix ช่วยให้พวกเขาเปิดร้านออนไลน์ได้รวดเร็วและเพิ่มยอดขายได้จริง
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาวิธีสร้างเว็บไซต์แบบง่าย ๆ และราคาประหยัด Wix, Shopify และ WordPress + WooCommerce คือ 3 ทางเลือกที่ช่วยให้คุณเปิดร้านออนไลน์ได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ
การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน


Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates
Other articles for you



Let’s build digital products that are simply awesome !
We will get back to you within 24 hours!Go to contact us








