Metaverse โลกเสมือนคู่ขนาน เทคโนโลยีอนาคตเพียงเอื้อมมือ
Metaverse เป็นยุคของอินเทอร์เน็ตแบบ 3 มิติ ที่ไม่ใช่แค่สามารถค้นหาข้อมูล หรือดูเนื้อหาความเคลื่อนไหวผ่านหน้าจอ แต่จะเป็นการ ‘ท่องเข้าไปในโลกเสมือนจริง' ตามความต้องการของเรา โดยผสานโลกจริงให้เข้ากับโลกเสมือนจริงให้เปรียบเสมือนโลกอีกใบที่เดินคู่ขนานกับโลกความเป็นจริงไปด้วยกัน
เรามาเริ่มต้นทำความรู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า Metaverse โดยในอนาคตที่มีเทคโนโลยีหลากหลายที่พัฒนาขึ้นมาให้สามารถเข้าไปสู่ Metaverse ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี AR, VR หรือแม้แต่ Smartphone แว่นตากันแดดของเราเอง เป็นต้น
Metaverse (Credit: Campaignasia.com)
พูดมาตั้งนานหลายคนอาจตั้งคำถามว่า มันก็คือโลกปลอม ๆ อีกโลกหนึ่งที่สร้างขึ้นมาสำหรับคนที่ต้องการหนีจากโลกความเป็นจริง แต่โลกความเป็นจริงก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ จริงไหม? ไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหน
คำตอบ คือ ใช่และไม่ใช่ เพราะใน Metaverse จะเป็นโลกอีกใบหนึ่งที่เราสามารถเข้าไปใช้ชีวิตของเราและจินตนาการได้มากกว่าโลกเป็นจริงที่เราอยู่ คนพิการที่ร่างกายไปแข็งแรงพอเทียบเท่ากับคนธรรมดาในโลกแห่งความเป็นจริง ก็จะย้ายตัวเองไปใช้ชีวิตอยู่ใน Metaverse แบบไม่ต้องสงสัย แล้วสินทรัพย์ ไอเท็ม เงินตรา หรือ เหรียญ Crypto ต่าง ๆ เราสามารถใช้เป็นการแลกเปลี่ยนและจับจอง ซื้อของให้เป็นสินทรัพย์ของตัวเราเองได้ หรือย่อยคำง่าย ๆ คือการที่เรามีสินทรัพย์ใน Metaverse มันคือสินทรัพย์ของเราจริง ๆ ที่มูลค่าในตัวมันเอง แตกต่างจากการเล่นเกมอย่างสิ้นเชิง เพราะการเล่นเกมมีผู้สร้างเกม ผู้สร้างกฏ ผู้ทำลายล้าง แต่ในโลกของ Metaverse พวกเราทุกคนเป็นคนกำหนด และจับจองความเป็นเจ้าของกันเอง
ทำไม Metaverse ถึงสำคัญ?
Meta (Credit: Facebook)
จุดเริ่มต้นของการเกิดไม่ใช่ Mark Zuckerberg ผู้ที่เป็นเจ้าของ Facebook จริง ๆ แล้ว Metaverse มีมานานแล้ว เป็นสิ่งที่ขบคิดกันมาเนินนานแต่ Mark เป็นผู้ที่ตั้งใจและจริงจังกับมันอยากให้มันเป็นจริงในเร็ววันนี้มากที่สุด และ Mark เนี่ยแหละจะเป็นผู้พลักดันให้มันเกิดขึ้นในไม่ช้า เหมือนที่เขาเอา Facebook เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ในวิถีชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป
Meet Facebook’s metaverse competitors (Credit: Facebook)
แต่จุดสำคัญจริง ๆ มาจากความห่างไกล และการจากกัน ความคิดถึงช่วงชีวิตเดิม ๆ ที่เป็นอยู่ แต่ทุกวันนี้ทำไม่ได้เพราะโรคระบาด Covid-19 ที่ทำให้วิถีชีวิตของพวกเราเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการกิน การอยู่อาศัย การรักษาโรค การทำงาน การเรียนรู้ การเดินทาง และอื่น ๆ อีกมากมายแทบทุกสิ่ง มันทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ที่แม้แต่ Social Media ยังไม่สามารถกลบช่องว่างตรงนั้นได้ Mark เลยจริงจังกับการสร้างโลกเสมือนจริงอีกใบให้เกิดขึ้นเร็ววันเพื่อมาลดช่องว่างความเปลี่ยนแปลงนี้ที่เกิดขึ้นจากโลกระบาด
แล้วเมื่อทุกคนอัดอั้นขนาดนี้ การเข้าไปสำรวจโลกเสมือนจริง คงไม่มีเหตุอะไรปฏิเสธได้ว่าฉันไม่อยากไป นอกจากคำว่าฉันเข้าไปใน Metaverse ไม่ได้ หรือไม่เป็น แค่เข้าไปสู่โลก Metaverse ให้ได้เชื่อว่า โลกนั้นจะช่วยทำให้จิตใจของเราเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีหรือแย่ก็แล้วแต่คนได้อย่างแน่นอน
โลกความเป็นจริงยังน่าอยู่เหมือนเดิมไหม?
Metaverse Translucia (Credit: Techsauce Team)
น่าอยู่เหมือนเดิมครับ แต่ Metaverse จะเป็นกิจกรรม หรือพื้นที่ผ่อนคลาย หรือพื้นที่ทำธุรกิจแห่งใหม่ ในอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้นเอง ยกตัวอย่างเช่น สมัยก่อนเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว ช่วงที่โลกเราเพิ่งรู้จักกับ Internet ตอนนั้นเป็นที่ฮือฮากันมากว่า เราอยู่ที่นี้ ณ ตอนนี้ สามารถส่งข้อมูลบางอย่างไปหาคนอีกซีกโลกได้เลยหรอ น่าตื่นเต้นมาก เช่นกัน Metaverse จะเข้ามามีบทบาทของเราแบบนั้นเช่นเดิม มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่บนโลกใบนี้ และช่วยให้ลดรอยต่อของการส่งข้อมูล หรือการแลกเปลี่ยนแบบไร้รอยต่อให้มันมีความรู้สึก ความสัมผัสที่ใกล้ชิดขึ้นแม้อยู่ห่างกันคนละซีกโลก
สำหรับคนที่ไม่อิน หรือไม่ชอบตาม Technology ไม่ต้องตกใจ เราค่อย ๆ เข้าไปใน Metaverse ในฐานะ User ก็ได้ ไม่ต้องตื่นตูมเท่านักลงทุนทั้งหลายที่เขาเตรียมรอวันเปิดตัวของ Metaverse จาก Mark Zuckerberg แล้วเข้าไปจับจองพื้นที่หรือสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อทำการลงทุนในอนาคต
บทบาทที่เหมาะสมในวันที่ Metaverse เปิดตัว
ผมมองว่า ณ ตอนนี้ในมุมมองของคนทั่วไปยังมองคำว่า Metaverse เป็นคำกว้าง ๆ ว่ามันคือการผสานโลกจริงเข้ากับโลกเสมือนให้ได้แบบไร้รอยต่อ แต่ถ้าถามว่าเมื่อไหร่เทคโนโลยีถึงจะพัฒนาไปถึงจุดนั้นที่โลก 2 ใบทำได้ขนาดนั้นและเป็นที่ยอมรับในคนหมู่กว้างขนาดนั้น ในมุมผมมันมาแน่ แต่แค่เมื่อไหร่และนานแค่ไหนอันนี้เป็นคำถามที่ตอบยากมากเช่นกัน
เพราะฉะนั้นบทบาทของเราวันนี้ที่ทำได้ผมแตกออกมาเป็น 2 บทบาทแบบง่ายๆ คือ User (ผู้ใช้) และInvestor (นักลงทุน) แค่นี้ก่อน ผมขอยกตัวอย่างกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้คือ ช่วงที่ Cryptocurrency เข้ามาทำความรู้จักกับโลกใบนี้ตอนนั้นมีการศึกษาอย่างจริงจัง มีผู้ลงทุน และมีผู้ใช้ทั่วไปที่เข้าไปทดลองเล่น และถอยออกมาอยู่ห่างๆ หรือผันตัวเองเป็นนักลงทุนจริงจังก็มี ส่วนผู้เสียผลประโยชน์คือธนาคาร แต่ความเป็นจริงแล้วธนาคารไม่ได้รับผลเสียมากขนาดนั้นจาก Cryptocurrency แต่อาจได้รับผลกระทบจากด้านอื่นแทนมากกว่า แต่ไม่ใช่ทางตรง บางธนาคารเห็นโอกาส เริ่มปรับตัวและคว้าโอกาสนี้ไว้ด้วยซ้ำ
Gear Meta Education (Credit: Wired.com)
Investor สำหรับใครที่พร้อม ผมแนะนำให้คุณเริ่มศึกษาจากการอ่านข่าวสารทั่วไปแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าตื่นตระหนก รีบร้อนมาก แล้วเตรียมเงินสักก้อนหนึ่งไม่ต้องสูงมาก วันใดที่ Metaverse เข้ามา เราก็ลงทุนด้วยข้อมูลที่เรามีจับจองพื้นที่หรือสินทรัพย์บางอย่าง เพื่อความเป็นเจ้าของของเราในอนาคต
ช่องทางสำหรับการติดตามข่าวสารด้าน Technology ที่แนะนำ
- Meta Youtube Channel จากทาง Meta โดยตรง
- Blog | SennaLabs บทความเกี่ยวกับดิจิทัลและข้อมูลเชิงลึกที่หลากหลาย
- The Secret Source รายการธุรกิจครอบคลุมทุกประเด็นสำคัญที่ผู้บริหารไม่ควรพลาด
- LDA World Ladies of Digital Age
- beartai แบไต๋ The No.1 Tech and Lifestyle Content Creator
User สำหรับใครที่ไม่พร้อม ไม่เป็นไร เรารอวันที่ Metaverse ปังสุด ๆ ได้รับความนิยมในหมู่กว้างเมื่อไหร่ เมื่อนั้นเราสามารถผันตัวเองจาก User เป็นนักลงทุนได้ยังไม่สาย เหมือนเหตุการณ์ Cryptocurrency เช่นกันที่ปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมแล้วนะ แต่นักลงทุนหลายคนเพิ่งเข้ามาลงทุนก็ยังทัน
การปรับตัวเข้ากับ Metaverse
Vision of the Metaverse (Credit: Medium, Margoux Castro)
ปัจจุบันเป้าหมายของ Mark Zuckerberg ต้องการเปิดตัว Metaverse ภายในเร็ววัน แล้วขนย้ายสมาชิกของเขาที่มีจาก Facebook ประมาณ 3,000 ล้านคน โยงเข้ากับ Metaverse ให้ได้ถึง 1,000 ล้านคน นี่คือเป้าหมายของ Mark ที่ต้องการทำให้ได้ เท่ากับว่ายังมีคนบนโลกอีกหลายล้านคนที่น่าจะทยอย ๆ ตามมาอีกทีในฐานะนักลงทุน ผู้ใช้ ผู้ประกอบการ หรืออื่น ๆ ที่ต้องใช้เวลาจนกว่าพวกเขาจะพร้อมและเข้าใจถึงจะเริ่มใช้งาน Metaverse จาก Mark Zuckerberg นั่นเอง
Reference :