การทำ Job Rotation ในบริษัท Start-Up

หลายคนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ Job Rotation หรือ การหมุนเวียนสลับหน้าที่ในการทำงาน บทความนี้จะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการทำ Job Rotation ในบริษัท Start Up โดยเล่าจากมุมมองของบริษัท Senna Labs นั่นเอง หากใครสนใจอยากรู้เกี่ยวกับรูปแบบการทำ Job Rotation ของ Senna Labs ก็มาอ่านบทความนี้ไปพร้อมกันได้เลย
Job Rotation คืออะไร ?
Job Rotation หรือ การหมุนเวียนสลับหน้าที่ในการทำงาน อธิบายง่ายๆคือการให้คนที่ทำอยู่ตำแหน่ง A สลับไปทำตำแหน่ง B ซึ่งเป็นไปได้ทั้งตำแหน่งที่มีความใกล้เคียงกันอยู่แล้ว หรือเป็นตำแหน่งที่แตกต่างกันมากก็ได้เช่นกัน
เป้าหมายของการทำ Job Rotation คือ การเพิ่มความรู้และทักษะให้กับพนักงาน ลดความจำเจ เปิดโอกาสให้พนักงานได้ทดลองทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่ตัวเองถนัดและทำได้ดีมากที่สุด ซึ่งการทำ Job Rotation ถือว่าเป็นวิธีที่ทำให้พนักงานได้ดึงศักยภาพของตัวเองออกมาแสดงได้อย่างชัดเจน และรวดเร็ว พนักงานจะต้องมีการศึกษาหาความรู้ เตรียมตัวเตรียมพร้อมทักษะและความสามารถของตัวเอง ก่อนที่จะย้ายไปทำตำแหน่งใหม่ เพื่อที่พอไปทำจริงแล้ว จะไม่ทำให้ทีมเดิมที่ทำอยู่นั้นเกิดปัญหาตามมา
สิ่งที่ทำคัญที่สุดของการทำ Job Rotation คือต้องไม่เป็นการบังคับพนักงานไปทำ ควรให้พนักงานยินยอมในการย้ายตำแหน่ง เพราะมิเช่นนั้น จะทำให้พนักงานเกิดความเครียดในการทำงาน และทำให้งานที่ออกมาไม่มีประสิทธิภาพได้
การทำ Job Rotation บริษัท Start Up ทำกันอย่างไร ?
ในที่นี้ ขอยกตัวอย่างการทำงานของ Senna Labs ให้ดู เนื่องจาก Senna Labs ยังถือว่าเป็นบริษัทไซส์ Start-up คือมีพนักงานประมาณ 40 กว่าคน ทำให้ทุกคนในบริษัทสามารถมองเห็นการทำงานของทีมอื่นได้ง่าย และทุกทีมมีการสื่อสารกันทั่วถึง ส่งผลให้ทุกคนเข้าใจขั้นตอนการทำงานโดยภาพรวมค่อนข้างชัด
สำหรับ Senna Labs เรามี Performance Review ทุก 6 เดือนเพื่อที่จะพูดคุยถึงการทำงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยจะมีการพูดคุยถึงเรื่องของ Career Path ของพนักงาน ซึ่งจะมีพนักงานบางคนที่แจ้งให้ Team Lead รู้ว่าพนักงานสนใจอยากลองไปทำตำแหน่งอื่น เช่น Business Development สนใจที่จะลองไปเป็น Project Manager เพราะอยากรู้ว่าพอจบขั้นตอนของการปิดการขายไปแล้ว เรามีการทำงานให้ลูกค้าอย่างไร เพื่อที่ว่าในอนาคต จะสามารถเอาความรู้ ความเข้าใจ ทั้งของทีมและของลูกค้าที่มากขึ้น ไปพัฒนาในส่วนของการขายได้ ซึ่งก่อนที่ทางผู้บริหารจะตัดสินใจให้พนักงานคนนั้นสามารถทำ Job Rotation ได้ จะต้องประเมินแล้วว่า พนักงานคนนั้น มีความรู้ความสามารถมากเพียงพอที่จะผันตัวไปลองทำตำแหน่งอื่นได้ เพื่อที่จะทำให้เกิดผลดีมากกว่าผลเสีย
หลังจากพนักงานได้หมุนเวียนสลับหน้าที่ไปทำตำแหน่งอื่นแล้ว จะต้องปฏิบัติให้ได้ตาม Standard ของทีมนั้นๆ และ Team Lead จะต้องคอยสังเกตการทำงาน หมั่นให้คำแนะนำ และ Feedback การทำงานอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการทำงานตกหล่นหรือป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต หากทำไปทำมาแล้วพบว่า พนักงานสามารถทำตำแหน่งใหม่ได้ดีเช่นกัน ก็จะมีการพูดคุยว่าชอบทำงานตำแหน่งไหนมากกว่ากัน ทางบริษัทก็จะปรับตำแหน่งให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถและความต้องการของพนักงาน
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการทำ Job Rotation
ในการทำ Job Rotation มีสิ่งที่ต้องระวัง เช่น
- ความรู้สามารถของพนักงาน หากเราให้คนที่ไม่มีความรู้ความสามารถมากเพียงพอไปทำตำแหน่งใหม่ อาจส่งให้งานที่ออกมาไม่มีประสิทธิภาพและเกิดปัญหาในทีมตามมาได้
- ขั้นตอนในการเตรียมความพร้อมสำหรับช่วงเปลี่ยนผ่าน บริษัทต้องมีการเตรียมแผนให้สำหรับการย้ายทีม เพื่อที่ทั้งพนักงานเก่าในทีมจะยอมรับพนักงานที่จะเข้าไปทำใหม่ด้วย หากไม่มีแผนงานที่ชัดเจน จะทำให้พนักงานเกิดความสับสนและความเครียด และส่งผลให้งานออกมาไม่ดี รวมถึงทีมก็จะไม่มีความสุข
- ความสมัครใจของพนักงาน บริษัทต้องไม่บังคับพนักงานไปทำโดยไม่ได้รับความยินยอม เพราะพนักงานจะมองว่าบริษัทต้องการให้พนักงานกดดัน และลาออกไปในที่สุด
สรุปแล้ว การทำ Job Rotation หรือ การหมุนเวียนสลับหน้าที่ในการทำงาน มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากบริษัทไหนที่ต้องนำวิธีนี้ไปใช้ จะต้องศึกษาและเตรียมความพร้อมสำหรับพนักงานให้ดี มิเช่นนั้น อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดีได้
แหล่งอ้างอิง


Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates
Other articles for you



Let’s build digital products that are simply awesome !
We will get back to you within 24 hours!Go to contact us








