02Feb, 2021
Language blog :
Thai
Share blog : 
02 February, 2021
Thai

Startup คืออะไร? ธุรกิจคุณอยู่ในประเภทไหน

By

1 mins read
Startup คืออะไร? ธุรกิจคุณอยู่ในประเภทไหน

เชื่อว่าในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของเรามากขึ้น คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักคำว่า Startup ผู้อ่านหลายท่านอาจจะได้เป็นผู้ใช้บริการ หรือแม้แต่อยากที่จะสร้าง Startup ของตนเอง ดังนั้นการที่เรารู้ว่า Startup มี่กี่ประเภท และใช้วิธีไหนในการจำแนกออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ ก็จะทำให้เราเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายหมายที่ต่างกัน เพื่อการวางแผน และกลยุทธ์ในการทำธุรกิจให้เหมาะสมกับประเภทนั้น ๆ

ในบทความนี้จะกล่าวถึงความหมายของ Startup รวมถึงการจำแนกประเภทออกเป็น 6 กลุ่ม โดยใช้หลักการแบ่งจาก Steve Blank บุคคลที่ขึ้นว่าเป็นบิดาแห่ง Startup

Startup คืออะไร? 

Startup แปลตรงตัวเป็นภาษาไทยว่า เริ่มต้นขึ้น เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกธุรกิจขนาดเล็กที่เกิดขึ้นใหม่ Steve Blank บุคคลที่ได้ชื่อว่าบิดาแห่งวงการ Startup เคยให้นิยามไว้ว่า

“A startup is an organization formed to search for a repeatable and scalable business model”

แปลง่าย ๆ ว่าเป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเสาะหาโมเดลธุรกิจที่สามารถทำซ้ำได้และขยายตัวได้

Startup

(Image: medium.com)

Startup

(Image: medium.com)

ประเภทของ Startup 

1. The Lifestyle Startup

ก็คือการทำธุรกิจตามไลฟ์สไตล์ งานอดิเรก สิ่งที่รัก และมี Passion ไปกับมัน นักธุรกิจประเภทนี้ต้องการทำธุรกิจที่สามารถเติมเต็มความชอบของตนเองได้ ยกตัวอย่าง เช่น นักดนตรี หรือบุคคลที่หลงใหลในเสียงเพลง เปิดโรงเรียนสอนดนตรีเพื่อที่ตนเองจะได้ทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชอบ เป็นต้น

2. Small Business Startup

ธุรกิจขนาดเล็ก เปรียบเสมือนธุรกิจในครัวเรือนที่ถูกบริหารจัดการโดยตัวของผู้ก่อตั้งเอง เพื่อเลี้ยงชีพคนในครอบครัว ธุรกิจประเภทนี้ไม่ได้ถูกออกแบบให้ขยายตัวได้ (Scalable) เราจึงไม่ค่อยเห็นธุรกิจขนาดเล็กนี้เติบโตจนขึ้นหน้าปกนิตยสาร หรือมีรายได้มากเป็นพันล้าน

ส่วนเงินทุนที่นำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ส่วนมากมาจากเงินเก็บ เงินกู้จากธนาคาร หรือแม้แต่เงินที่ยืมมาจากเครือญาติ นอกจากนั้นการจ้างงานส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่หรือคนในครอบครัว สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นธุรกิจครอบครัว (Family business) ได้อย่างชัดเจน

ร้านขายของชำ ร้านทำผม ธุรกิจให้คำปรึกษา บริษัทนำเที่ยว ช่างไม้ ช่างประปา เป็นตัวอย่างของธุรกิจประเภทนี้

3. Scalable Startup

ธุรกิจประเภทนี้คือสิ่งที่ผู้ประกอบการใน Silicon Valley และนักลงทุนใฝ่ฝันที่จะสร้างขึ้นมา พวกเขามองการณ์ไกลมากกว่าที่จะเป็นธุรกิจเล็ก ๆ เจ้าของธุรกิจต้องการสร้างบริษัทที่ทำเงินได้มหาศาล หรือสามารถเข้าไปอยู่ในตลาดหุ้น ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้

Scalable Startup ต้องอาศัยการลงทุนที่ค่อนข้างมีความเสี่ยงจาก Venture Capitalist หรือ VC ซึ่งเป็นกองทุนที่รวบรวมเงินลงทุนมาจากผู้ลงทุนอื่นที่สนใจร่วมทุนในธุรกิจนั้น ๆ  นอกจากนั้นการจ้างงานจะเน้นไปที่การดึงตัวคนเก่งและฉลาดมารวมกันเพื่อให้เกิดการขยายตัวให้เร็วที่สุดจากเงินลงทุนที่ได้มา ซึ่ง Google, Skype, Facebook และ Twitter เป็นตัวอย่างของธุรกิจประเภทนี้

4. Buyable Startup

บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ เป็นตัวอย่างของ buyable startup บริษัทเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะถูกซื้อกิจการโดยบริษัทขนาดใหญ่ ด้วยต้นทุนที่ถูกลงในการผลิตและการเข้าถึงตลาดที่รวดเร็วกว่าสินค้าประเภทอื่น นักลงทุนที่เป็น angle investor ก็ไม่ต้องลงทุนมาก ทำให้การขายกิจการให้กับบริษัทขนาดใหญ่เป็นกลยุทธ์ในการทำกำไรให้ buyable startup

5. Large Company Startup

โดยปกติแล้วบริษัทขนาดใหญ่จะมี life cycle ที่ค่อนข้างชัดเจน ตั้งแต่การเริ่มต้นเข้าสู่ตลาด จนถึงช่วงออกจากตลาด และในปัจจุบันนั้น life cycle ของผลิตภัณฑ์ก็ยิ่งสั้นลงเรื่อย ๆ แล้วบริษัทควรจะทำอย่างไรเพื่อให้อยู่รอดตามความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค การเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ และการเพิ่มขึ้นของบริษัทคู่แข่ง? 

คำตอบก็คือ เจ้าของธุรกิจจะต้องปรับตัวให้เร็วด้วยการสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจ (Disruptive Innovation) บางบริษัทถึงกับต้องผลิตสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดอื่น หรือแม้แต่เข้าซื้อบริษัทอื่น เช่น buyable startup เพื่อเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว 

6. Social Startup

นักธุรกิจเพื่อสังคมมีเป้าหมายที่แตกต่างจากธุรกิจประเภทอื่น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มี passion ที่อยากจะประสบความสำเร็จ เพียงแต่เป้าหมายของพวกเขาคือการทำให้สังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยที่ไม่สนใจส่วนแบ่งการตลาดหรือสร้างความมั่งคั่งให้ผู้ประกอบการณ์เอง เราจะสามารถพบ social startup ในรูปแบบขององค์กรที่แสวงหากำไร ไม่แสวงหากำไร หรือเป็นแบบผสมก็ได้

Startup แต่ละประเภทมี ecosystem ที่แตกต่างกันก็มีการบริหารจัดการที่ต่างกันออกไป ถึงแม้ว่าในปัจจุบันคนจะมองว่าภาพจำของบริษัทสตาร์ตอัปคือบริษัทที่เติบโตด้วยเทคโนโลยีล้ำ ๆ และ scale ออกไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีแนวทางในการดำเนินธุรกิจสตาร์ตอัปอีกหลายประเภทตามหลักของ Steve Blank เพื่อให้ผู้ที่ต้องการดำเนินธุรกิจนำไปปรับใช้เช่นกัน ดังนั้น หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเจ้าของกิจการทุกท่านไม่มากก็น้อย

สำหรับท่านใดที่มีไอเดียการทำ Startup หรือต้องการทำ MVP สามารถปรึกษา Senna Labs ได้ฟรีที่ >> contact us

อ้างอิง:

Written by
Senna Labs
Senna Labs

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

27
July, 2024
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
27 July, 2024
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
27
July, 2024
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
27 July, 2024
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital

By

4 mins read
English
27
July, 2024
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
27 July, 2024
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.