30Mar, 2022
Language blog :
Thai
Share blog : 
30 March, 2022
Thai

เลือกใช้ฟอนต์อย่างไร ให้สื่อถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ 

By

1 mins read
เลือกใช้ฟอนต์อย่างไร ให้สื่อถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ 

ฟอนต์ (Font) เปรียบเสมือนตัวแทนการสื่อสาร และส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์นั้นๆ ที่จะสื่อสารไปยังผู้ใช้หรือกลุ่มเป้าหมายหลักของเราให้สามารถจดจำภาพลักษณ์แบรนด์ของเราได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกใช้ฟอนต์ที่เหมาะสมกับผู้ใช้ และแบรนด์ของตนเอง (Brand Identity)

ตัวอย่างเช่นกรณีของธนาคารว่าเขาต้องการที่จะถ่ายทอดลักษณะที่มีความถูกต้อง มั่นคง และน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าของเขาซึ่งจะต้องการที่จะใช้แบบอักษรเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกที่มั่นคงกับการเลือกรูปแบบและลักษณะของฟอนต์ที่ถูกต้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทใดๆ ที่อาจเป็นวิธีที่พวกเขาสื่อสารให้กับลูกค้าเมื่อพบเห็นตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อออฟไลน์หรือสื่อบนโลกออนไลน์ต่าง ๆ อีกด้วย จะเป็น logo , Social Media , Banner , Website & Application และอื่นๆ ที่ต้องผู้ใช้จะต้องพบเห็นแบรนด์ของเรา

โดยหลักจิตวิทยาของฟอนต์ คือการศึกษาว่าฟอนต์และรูปแบบการพิมพ์ที่แตกต่างกันนั้น จะมีผลต่อจิตวิทยาด้านความคิด อารมณ์ ความรู้สึก และพฤติกรรมของผู้ใช้ได้อย่างไรบ้าง ซึ่งจะมีผลต่อการแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่ทางแบรนด์/บริษัทต้องการสื่อสารจาก Logo ของแบรนด์เป็นอย่างแรกให้กับผู้ใช้ได้รับรู้นั้นเอง 

บทบาท ความสำคัญของการเลือกฟอนต์

โดยบทบาทของฟอนต์เองก็เป็นส่วนสำคัญอย่างมากในงานออกแบบ Website , Application หรือ UX/UI Design ทางแบรนด์อาจจะมีการใช้ฟอนต์บน Logo เพื่อสื่อถึงภาพลักษณ์ที่ต้องการ แต่บนสื่อออนไลน์ในส่วนของเนื้อหานั้นจำเป็นจะต้องเลือกใช้ฟอนต์ที่สามารถอ่านได้ง่าย เข้าใจได้รวดเร็ว จึงมีกฎที่ดีอีกประการหนึ่งคือการใช้ฟอนต์ไม่เกิน 2 รูปแบบสำหรับแต่ละการออกแบบงานต่างๆ มิฉะนั้นการออกแบบอาจดูยุ่งเหยิง ไม่เป็นระเบียบ และไม่สามารถคุมงานให้เป็นไปในทางเดียวกันได้ เพราะฉะนั้นการออกแบบจึงต้องระมัดระวังให้แบรนด์ยังคงภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเว็บให้ออกมาตามที่แบรนด์ต้องการจะสื่อออกมาให้ได้ว่าการออกแบบนั้นจะโดดเด่นและถ่ายทอดข้อความของคุณไปยังผู้ใช้งาน/กลุ่มเป้าหมายได้ตรงตามที่ต้องการ

ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาของดีไซเนอร์ที่จะต้องเลือกใช้ฟอนต์อื่นๆ ที่อาจจะไม่ใช่ฟอนต์บนตัว Logo ของแบรนด์เนื่องจากถ้ามาใช้ในการอ่านหรือส่วนของเนื้อหาอาจเป็นเรื่องที่ยากต่อผู้ใช้งานในการอ่านและตัวของเข้าใจผลิตภัณฑ์นั้นเอง โดยกรณีนี้จะพบเห็นได้จากรูปแบบของฟอนต์ Script / Handwriting , Display and Decorative ที่อาจไม่ควรนำมาเป็นตัวอักษรที่ไว้ใช้ในส่วนของเนื้อหาหรือไม่เหมาะสมแก่การอ่านเป็นจำนวนมาก จึงควรได้แค่ใช้องค์ประกอบส่วนอื่นๆ มาช่วยทดแทนในส่วนของตัวฟอนต์ส่วนนี้ไป

เข้าสู่การอธิบายและแบรนด์พร้อมกับฟอนต์ที่ในปัจจุบันแต่ละแบรนด์ใช้กันในปัจจุบัน ซึ่งฟอนต์มีด้วยกัน 2 ประเภทหลักๆ แต่ในบทความนี้เราจะยกประเภทของฟอนต์ที่พบเห็นได้บ่อยๆ ด้วยกัน 4 ประเภท/รูปแบบที่สามารถพบเห็นกันได้ทั่วไปด้วยกันพร้อมยกตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้ Logo ในแต่ละประเภทของฟอนต์ดังนี

1. ฟอนต์ประเภท Serif

เป็นรูปแบบฟอนต์ที่เป็นตัวเลือกแบบดั้งเดิมที่สุด จึงแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นทางการ ดั้งเดิม มีความมั่นคงและน่าเชื่อถือ อีกทั้งสามารถสื่อได้ถึงความสง่างาม ความคลาสสิก มีอำนาจ และความยิ่งใหญ่อีกด้วย โดยฟอนต์นี้เหมาะสมกับบริษัท อาทิเช่น ธนาคารหรือสถาบันการเงิน แฟชั่น มหาวิทยาลัย หนังสือ หรือบรรณาธิการ 

ตัวอย่างแบรนด์ : Chloe , The New York Time , Tiffany & Co. , Rolex , Yale University

Serif

(Image: The New York Time)

2. ฟอนต์ประเภท San Serif 

ฟอนต์นี้เป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด เนื่องจากให้ความรู้สึกที่ทันสมัย ไม่ทางการจนเกินไป เปิดเผย สะอาดตา มีความเป็นธรรมชาติ แต่ยังคงความน่าเชื่อถือ อีกทั้งสามารถสื่อถึงความมั่นใจ ความก้าวหน้า ความเข้มแข็ง และกล้าหาญ ซึ่งเหมาะสมกับธุรกิจอาทิเช่น การกีฬา เทคโนโลยี ธุรกิจสตาร์ตอัป แฟชั่น สื่อบันเทิง 

ตัวอย่างแบรนด์ : Google , Airbnb , Netflix , Spotify , Chanel

San Serif

(Image: Spotify)

3. ฟอนต์ประเภท Script / Handwriting

รูปแบบฟอนต์นี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับรูปลักษณ์ที่ต้องการความแปลกใหม่ อารมณ์สดใส มีความสุข สบาย ๆ หรือรูปลักษณ์ที่ต้องการความหรูหรา สง่างาม มีจินตนาการ โรแมนติก และแรงบันดาลใจ ก็เหมาะสมเช่นกัน ซึ่งฟอนต์นี้ควรใช้ในธุรกิจอาหารหรือเครื่องดื่ม ธุรกิจเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเด็ก แฟชั่น โดยมีตัวอย่างของแต่ละแบรนด์ ดังนี้

ตัวอย่างแบรนด์ : Coca-Cola , Instagram , Champion , Vimeo , Cartier

 

Script / Handwriting

(Image: Coca-Cola )

4. ฟอนต์ประเภท Display and Decorative  

รูปแบบนี้ให้ความรู้แตกต่าง ไม่เหมือนใคร สนุกสนาน โดดเด่น สร้างสรรค์ แปลกใหม่ เข้าถึงง่าย และช่วยเสริมสร้างเอกลักษณ์ทำให้มีจุดเด่น ซึ่งเหมาะสมกับบริษัทที่เป็นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเด็ก สื่อบันเทิง โดยมีตัวอย่างของแต่ละแบรนด์ ดังนี้

ตัวอย่างแบรนด์ : Lego , Fanta , Walt Disney  , McDonald's, Tesla

 

Display and Decorative

(Image: Fanta)

การเลือกฟอนต์ให้กับงานหรือแบรนด์ จึงมีความสำคัญมากพอ ๆ กับการเลือกใช้สี ซึ่งเรื่องของสีกับจิตวิทยา คิดว่าหลายคนคงจะเคยอ่านและศึกษากันมาบ้างไม่มากก็น้อย แน่นอนว่าถ้าเข้าใจและมีความรู้เกี่ยวกับฟอนต์มากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เลือกฟอนต์ที่จะช่วยให้งานออกแบบนั้น แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของแบรนด์ และความเหมาะสมที่สอดคล้องกับผู้รับสารของแต่ละแบรนด์มากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถสื่อความรู้สึกไปในทางหรือรูปแบบเดียวกัน

ในขณะที่แบบฟอนต์ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดอารมณ์เชิงลบต่อการเชื่อมโยง และการอ่านของผู้รับสาร นอกเหนือจากนั้น ผู้ออกแบบจะต้องมีความเข้าใจในตัวแบรนด์ของลูกค้า เพื่อที่จะสามารถสื่อถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องไม่ลืมหลักการที่สำคัญต่อการออกแบบ UX/UI Design คือมีความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน สามารถใช้งานได้ง่าย และเข้าใจผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถรับรู้ได้ถึงความตั้งใจที่จะสื่อถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วยเช่นกัน

บทความแนะนำเพิ่มเติม : กำหนดขนาดฟอนต์ที่เหมาะกับเว็บไซต์ง่าย ๆ

แหล่งอ้างอิง

Written by
Senna Labs
Senna Labs

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

27
July, 2024
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
27 July, 2024
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
27
July, 2024
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
27 July, 2024
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital

By

4 mins read
English
27
July, 2024
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
27 July, 2024
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.