9 ประเภท Target Audience บน Google Ads
ทุกวันนี้ ทั่วโลกได้ใช้ Google เป็นโปรแกรมค้นหา (Search Engine) หลัก ด้วยจำนวนการค้นหาที่สูงถึง 3.5 พันล้านการค้นหาต่อวัน และกูเกิลยังมีพันธมิตรเป็นเว็บไซต์อื่น ๆ อีกกว่า 2 ล้านเว็บไซต์ จึงทำให้กูเกิลมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในโลกอินเทอร์เน็ต และเมื่อธุรกิจใด ๆ ต้องการที่จะทำการตลาดออนไลน์ ย่อมนึกถึงการทำโฆษณาบน Google Ads เป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งสิ่งสำคัญในการทำโฆษณา Google Ads เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพก็คือ การกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้เหมาะสม ตรงกับเป้าหมายและแคมเปญโฆษณาที่วางไว้ ถ้าหากเราทำแคมเปญมอบส่วนลดพิเศษเพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ แต่ตั้งกลุ่มเป้าหมายเป็นบุคคลทั่วไปที่ไม่เคยเข้าเว็บไซต์เรามาก่อน ก็จะทำให้ไม่ได้รับผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
ดังนั้น หากเราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และนำมาปรับใช้กับการตั้งแคมเปญโฆษณาก็จะส่งเสริมให้การทำโฆษณานั้น ๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในบทความนี้จะพาทุกคนมารู้จักกลุ่มเป้าหมาย หรือ Target Audience 9 ประเภทบน Google Ads กันค่ะ
1. Detailed Demographic
ประเภทของโฆษณา: Search, Display, Video
Detailed Demographic คือ กลุ่มเป้าหมายที่เราสามารถกำหนดข้อมูลประชากรอย่างละเอียดมากขึ้น ซึ่งปกติเราสามารถกำหนดอายุ เพศ สถานะความเป็นผู้ปกครอง และระดับรายได้ ในส่วนของ ‘Demographic’ แต่สำหรับกลุ่มเป้าหมาย Detailed Demographic เราสามารถกำหนดรายละเอียดเชิงลึกได้ใน ‘Audiences’ ได้แก่ สถานะความเป็นผู้ปกครองโดยแบ่งตามช่วงอายุของบุตร (Parental Status) สถานะการสมรส (Marital Status) สถานะการเป็นเจ้าของบ้าน (Homeownership Status) สถานะการทำงาน (Employment) รวมไปถึงขนาดของบริษัทและอุตสาหกรรม และระดับการศึกษา (Education)
2. Affinity Audiences
ประเภทของโฆษณา: Search, Display, Video
Affinity Audience คือ กลุ่มเป้าหมายที่เราสามารถกำหนดตามความสนใจ ความชอบ ไลฟ์สไตล์ และลักษณะนิสัยได้ อย่างเช่น ไลฟ์สไตล์และงานอดิเรกเป็นคนรักสัตว์ และยังสามารถเลือกอย่างละเอียดได้อีกว่าเป็นคนรักแมว เป็นต้น ซึ่งการกำหนดความชอบของกลุ่มเป้าหมายที่น่าจะสนใจในสินค้าหรือบริการของเราได้ ก็จะทำให้การทำโฆษณามีโอกาสที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีและช่วยประหยัดในการลงโฆษณาาไปยังผู้รับชมที่ไม่ได้สนใจในสินค้าหรือบริการของเรา
3. In-market Audiences
ประเภทของโฆษณา: Search, Display, Video
In-market Audience คือ กลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อสินค้าหรือบริการ โดยกำลังอยู่ในช่วงค้นหาข้อมูล เพื่อศึกษาและพิจารณาเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ถ้าหากเราลงโฆษณาที่เหมาะสม สามารถดึงความสนใจของกลุ่มเป้าหมายนี้ได้ ย่อมมีโอกาสที่จะกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายมาซื้อสินค้าหรือบริการของเรา ตัวอย่างเช่น กลุ่มเป้าหมายที่กำลังเลือกซื้อเครื่องใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
4. Life events
ประเภทของโฆษณา: Display
Life events คือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายโดยใช้เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น อย่างเช่น เรียนจบ ย้ายงาน ย้ายบ้าน แต่งงาน เปิดธุรกิจใหม่ เป็นต้น ซึ่งบางสินค้าและบริการก็เหมาะกับบางกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น ซื้อเฟอร์นิเจอร์เมื่อย้ายบ้านใหม่ เป็นต้น ซึ่งการกำหนด Life events จะอยู่ในส่วนเดียวกับ In-market Audiences
5. Remarketing
ประเภทของโฆษณา: Search, Display, Video
Remarketing คือ กลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้ามาที่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเรา เราสามารถยิงโฆษณาไปที่กลุ่มเป้าหมายนี้ได้ เมื่อกลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณาดังกล่าว ก็จะสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ของเราและมีโอกาสที่จะตัดสินใจกลับมาซื้อสินค้าหรือบริการของเราได้
6. Customer Match
ประเภทของโฆษณา: Search, Display, Video
Customer Match คือ กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดโดยใช้ข้อมูลลูกค้า ทางกูเกิลจะยิงโฆษณาไปที่ลูกค้ารายนั้น ๆ โดยตรง ซึ่งโฆษณาของเราจะไปปรากฎตามเว็บไซต์ที่ลูกค้าใช้งาน ซึ่งข้อมูลที่ควรมีเพื่อนำไปทำรายชื่อลูกค้า ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล แคมเปญที่เหมาะสมคือการโฆษณาโปรโมชันเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่เคยลงทะเบียนไว้ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้น หรือแคมเปญโปรโมตเพื่อขายสินค้าหรือบริการตัวใหม่ (Upsell) กับลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าหรือบริการกับเราไปแล้ว เป็นต้น
7. Similar Audiences
ประเภทของโฆษณา: Search, Display, Video
Similar Audiences คือ กลุ่มเป้าหมายที่กูเกิลใช้ Machine Learning ในการเปรียบเทียบและค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ใกล้เคียงกับกลุ่มเป้าหมายใน Remarketing และยิงโฆษณาไปที่ Similar Audiences โดยยกเว้นกลุ่ม Remarketing ให้โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามระบบจำเป็นจะต้องมี Remarketing อย่างน้อย 1,000 ราย เพื่อที่จะเรียนรู้และค้นหากลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงได้อย่างแม่นยำ
8. Custom Audiences
ประเภทของโฆษณา: Display, Video
Custom Audiences คือ กลุ่มเป้าหมายที่เรากำหนดโดยระบุคีย์เวิร์ดหรือความสนใจที่กลุ่มเป้าหมายเคยค้นหา URL ของเว็บไซต์ที่กลุ่มเป้าหมายเคยเข้าชม แอปฯ ที่กลุ่มเป้าหมายเคยใช้งาน และสถานที่ที่กลุ่มเป้าหมายเคยไป เพื่อให้โฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่เราต้องการได้อย่างเจาะจงมากยิ่งขึ้น
9. Custom Intent Audiences: auto-created (Display)
ประเภทของโฆษณา: Display
Custom Intent Audiences: auto-created (Display) คือ กลุ่มเป้าหมายที่กูเกิลสร้างให้โดยอัตโนมัติ โดยดูจากคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของเรา ปัจจุบันรองรับเพียงภาษาอังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น สเปน รัสเซีย โปรตุเกส ฝรั่งเศส และอิตาลี
จากกลุ่มเป้าหมายทั้ง 9 ประเภทที่ได้กล่าวไป หากเราเลือกประเภทและกำหนดกลุ่มเป้าหมายของโฆษณาได้อย่างเหมาะสม ตรงกับจุดประสงค์ของสิ่งแคมเปญต้องการจะสื่อ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญโฆษณาที่เราลงได้มากยิ่งขึ้น ถ้าหากคุณเป็นมือใหม่อยากลองทำโฆษณาบน Google Ads สามารถอ่านบทความ เลือกแคมเปญใน Google Ads ยังไงให้ปัง เพิ่มเติมเกี่ยวประเภทของ Google Ads ได้
อ้างอิง
• Google Ads Audience and Demographics Targeting Knowhow โดย Abhi Chandrasheker
• Google Ads Audiences: 8 Audiences to Target with Google Ads โดย Macy Strom
• About Google Targeting โดย Google Ads Help
• Google’s new custom intent audiences and you โดย Allen Finn