Website Development คืออะไร? คู่มือพื้นฐานสำหรับธุรกิจและผู้เริ่มต้น

2 mins read

Published

24 March, 2025

Language

Thai

Written by

Share

Website Development คืออะไร? คู่มือพื้นฐานสำหรับธุรกิจและผู้เริ่มต้น

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำธุรกิจ การให้บริการ และการสร้างตัวตนออนไลน์ คำว่า "Website Development" หรือการพัฒนาเว็บไซต์ หมายถึงกระบวนการสร้างและดูแลเว็บไซต์ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความนี้จะอธิบายว่า Website Development คืออะไร มีขั้นตอนอย่างไร และทำไมธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ รวมถึงแนะนำเครื่องมือและแนวทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้น

Website Development คืออะไร?

Website Development หรือการพัฒนาเว็บไซต์ หมายถึง กระบวนการออกแบบ สร้าง และดูแลเว็บไซต์ ให้สามารถทำงานได้ดีบนอินเทอร์เน็ต ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก เช่น

  • Front-End Development – ส่วนที่ผู้ใช้มองเห็นและโต้ตอบ เช่น ดีไซน์เว็บ UI/UX

  • Back-End Development – ระบบเบื้องหลังที่จัดการข้อมูลและประมวลผล เช่น ฐานข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์

  • Full-Stack Development – นักพัฒนาที่สามารถทำได้ทั้ง Front-End และ Back-End

การพัฒนาเว็บไซต์ไม่ได้หมายถึงแค่การเขียนโค้ด แต่รวมถึง การออกแบบ การตั้งค่าโดเมน และการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ให้ทำงานได้เร็วและปลอดภัย

 

ประเภทของการพัฒนาเว็บไซต์

การพัฒนาเว็บไซต์มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์

เว็บไซต์แบบ Static และ Dynamic

  • Static Website – เว็บแบบคงที่ ใช้ HTML, CSS แสดงข้อมูลเหมือนกันทุกครั้ง เช่น หน้าโปรไฟล์บริษัท

  • Dynamic Website – เว็บที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลอัตโนมัติ เช่น เว็บอีคอมเมิร์ซที่มีสินค้าปรับเปลี่ยนได้

 ประเภทของเว็บไซต์ยอดนิยม

  • เว็บไซต์ธุรกิจ (Business Website) – ใช้สำหรับสร้างตัวตนออนไลน์ให้กับองค์กร เช่น เว็บไซต์บริษัท

  • เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ (E-Commerce Website) – ใช้ขายสินค้าหรือบริการ เช่น Shopee, Lazada

  • เว็บบล็อก (Blog & Content Website) – เว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหา เช่น ข่าว บทความ หรือบทรีวิว

  • เว็บแอปพลิเคชัน (Web Application) – เว็บไซต์ที่มีฟังก์ชันการทำงานเหมือนแอปพลิเคชัน เช่น Gmail หรือ Google Docs

 

ขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์

การสร้างเว็บไซต์มีหลายขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงการเปิดใช้งาน

การวางแผน (Planning)

  • กำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์ เช่น ต้องการให้เป็นเว็บขายสินค้า หรือเว็บให้ข้อมูล

  • วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและพฤติกรรมการใช้งาน

  • วางโครงสร้างเว็บไซต์ (Sitemap) เพื่อกำหนดหน้าเว็บที่ต้องมี

การออกแบบ (Web Design)

  • สร้าง Wireframe และ Prototype เพื่อดูภาพรวมของเว็บ

  • ออกแบบ UI/UX ให้ใช้งานง่าย และรองรับมือถือ (Responsive Design)

  • เลือกสี ฟ้อนต์ และองค์ประกอบที่สะท้อนแบรนด์

การพัฒนาเว็บไซต์ (Web Development)

  • Front-End Development ใช้ภาษา HTML, CSS, JavaScript

  • Back-End Development ใช้ภาษา PHP, Python, Node.js เชื่อมต่อฐานข้อมูล

  • การเชื่อมต่อระบบ API เช่น ระบบชำระเงิน ระบบสมัครสมาชิก

การทดสอบและเปิดใช้งาน (Testing & Deployment)

  • ทดสอบเว็บไซต์กับทุกอุปกรณ์ เช่น มือถือ แท็บเล็ต และเดสก์ท็อป

  • ตรวจสอบความเร็วและความปลอดภัยของเว็บไซต์

  • อัปโหลดเว็บไซต์ไปยังเซิร์ฟเวอร์และเปิดให้ผู้ใช้งาน

 

เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาเว็บไซต์

เครื่องมือสำหรับสร้างเว็บไซต์

  • WordPress – เหมาะสำหรับเว็บธุรกิจและบล็อก

  • Shopify, WooCommerce – เหมาะสำหรับร้านค้าออนไลน์

  • Wix, Squarespace – ใช้งานง่าย ไม่ต้องเขียนโค้ด

เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเว็บ

  • HTML, CSS, JavaScript – ภาษาเบื้องต้นสำหรับพัฒนาเว็บไซต์

  • React, Angular, Vue.js – Framework ที่ใช้ในการพัฒนา Front-End

  • PHP, Node.js, Python – ภาษาในการพัฒนา Back-End

  • MySQL, MongoDB – ฐานข้อมูลสำหรับเว็บไซต์

 

ทำไมธุรกิจต้องมีเว็บไซต์?

 เพิ่มความน่าเชื่อถือของธุรกิจ

  • เว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจดูเป็นมืออาชีพ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า

  • เป็นช่องทางให้ลูกค้าหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท สินค้า และบริการ

ช่วยเพิ่มโอกาสทางการขาย

  • ร้านค้าออนไลน์สามารถขายสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง

  • สามารถใช้ SEO และโฆษณาออนไลน์เพื่อดึงดูดลูกค้า

สร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ

  • คู่แข่งส่วนใหญ่มีเว็บไซต์ หากธุรกิจของคุณไม่มี อาจเสียโอกาส

  • เว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดออนไลน์ได้

รองรับการขยายธุรกิจในอนาคต

  • เว็บไซต์สามารถเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น ระบบสมาชิก ระบบสะสมแต้ม หรือเว็บแอปพลิเคชัน

  • เป็นพื้นฐานสำหรับการทำ Digital Marketing

 

ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเว็บไซต์

การพัฒนาเว็บไซต์มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดและฟีเจอร์ของเว็บไซต์

ประเภทเว็บไซต์

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

เว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็ก

5,000 – 50,000 บาท

เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

20,000 – 200,000 บาท

เว็บแอปพลิเคชัน

50,000 – 1,000,000 บาท

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ต้องพิจารณา

  • ค่าโดเมนเนม (Domain Name) เช่น www.yourbusiness.com

  • ค่าโฮสติ้ง (Hosting) สำหรับเก็บข้อมูลเว็บไซต์

  • ค่าดูแลและอัปเดตเว็บไซต์ เช่น การปรับปรุงความปลอดภัย

สรุป

Website Development หรือการพัฒนาเว็บไซต์เป็นกระบวนการที่สำคัญสำหรับธุรกิจในยุคปัจจุบัน เว็บไซต์ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจมีตัวตนบนโลกออนไลน์ แต่ยังช่วยเพิ่มยอดขาย ขยายตลาด และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

หากคุณต้องการสร้างเว็บไซต์ ควรเริ่มจากการกำหนดเป้าหมาย เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม และออกแบบให้ใช้งานง่าย ธุรกิจที่ลงทุนในเว็บไซต์ที่ดีจะมีโอกาสเติบโตและขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นในระยะยาว

Written by
Aon Boriwat Jirabanditsakul
Aon Boriwat Jirabanditsakul

Share

Keep me posted
to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

More than 120,000 people/day  visit to read our blogs

Related articles

Explore all

JS class syntax
JS class syntax
เชื่อว่าหลายๆคนที่เขียน javascript กันมา คงต้องเคยสงสัยกันบ้าง ว่า class ที่อยู่ใน js เนี่ย มันคืออะไร แล้วมันมีหน้าที่ต่างกับการประกาศ function อย่างไร? เรามารู้จักกับ class ให้มากขึ้นกันดีกว่า class เปรียบเสมือนกับ blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว ที่สามารถนำไปสร้างเป็นสิ่งของ( object ) ตาม blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว( class ) นั้นๆได้ โดยภายใน class
18 Sep, 2025

by

15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
ผู้ให้บริการเครือข่ายในสหรัฐฯ ได้เปิดตัว 5G ในหลายรูปแบบ และเช่นเดียวกับผู้ให้บริการเครือข่ายในยุโรปหลายราย แต่… 5G มันคืออะไร และทำไมเราต้องให้ความสนใจ บทความนี้ได้รวบรวม 15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันกำลังจะถูกใช้งานอย่างกว้างขวางขึ้น 1. 5G หรือ Fifth-Generation คือยุคใหม่ของเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายที่จะมาแทนที่ระบบ 4G ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมันไม่ได้ถูกจำกัดแค่มือถือเท่านั้น แต่รวมถึงอุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ 2. 5G คือการพัฒนา 3 ส่วนที่สำคัญที่จะนำมาสู่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ขยายช่องสัญญาณขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ การตอบสนองที่รวดเร็วขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลง ความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่า 1 ในเวลาเดียวกัน 3. สัญญาณ 5G นั้นแตกต่างจากระบบ
18 Sep, 2025

by

จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
ในปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาษาที่ถูกใช้ในการเขียนเว็บต่าง ๆ นั้น คงหนีไม่พ้นภาษา Javascript ซึ่งเป็นภาษาที่ถูกนำไปพัฒนาเป็น framework หรือ library ต่าง ๆ มากมาย ผู้พัฒนาหลายคนก็มีรูปแบบการเขียนภาษา Javascript ที่แตกต่างกัน เราเลยมีแนวทางการเขียนที่หลากหลาย มาแบ่งปันเพื่อน ๆ เกี่ยวกับการจัดการ Array ด้วยภาษา Javascript กัน เรามาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า โดยปกติแล้วการ copy ค่าจาก value type ธรรมดา สามารถเขียนได้ดังนี้
18 Sep, 2025

by

Contact Senna Labs at :

hello@sennalabs.com28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599
© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved. | Privacy policy