UX Writing ช่วยให้ UI เข้าใจง่ายขึ้น

การออกแบบ UI (User Interface) ที่ดีไม่ได้หมายถึงแค่การออกแบบที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังต้อง เข้าใจง่าย และ สื่อสารได้ชัดเจน สำหรับผู้ใช้ด้วย ซึ่งหนึ่งในส่วนสำคัญของการทำให้ UI มีประสิทธิภาพก็คือ UX Writing

UX Writing คือการใช้ คำพูดที่ชัดเจน และ เข้าใจง่าย ในการสื่อสารกับผู้ใช้ผ่านข้อความใน UI เช่น ปุ่ม, เมนู, หรือ ข้อความแจ้งเตือน โดยไม่ใช้ ภาษาที่ซับซ้อน หรือ เทคนิค ที่อาจทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสน

ในบทความนี้เราจะมาดูว่า UX Writing มีความสำคัญอย่างไรในการออกแบบ UI ที่ดี และทำไมการใช้คำพูดที่เข้าใจง่ายจึงช่วยให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดีขึ้น พร้อมกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์จากการปรับคำพูดในแอปธนาคาร

UX Writing คืออะไร?

UX Writing เป็นการใช้ ภาษาที่มุ่งเน้นผู้ใช้ ในการออกแบบข้อความที่จะแสดงผลใน UI โดยจะเน้นความเข้าใจง่ายและการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา เป้าหมายของ UX Writing คือการทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่า ทุกข้อความที่ปรากฏ บนหน้าจอนั้น เป็นประโยชน์ และ ไม่ทำให้สับสน

ตัวอย่างของ UX Writing:

• ข้อความในปุ่ม: “สมัครสมาชิก” แทนที่จะเป็น “Submit” หรือ “Confirm”
  
  

• คำแนะนำ: “กรุณากรอกข้อมูลที่จำเป็น” แทนที่จะเป็น “Field Required”
  
  

• ข้อความแจ้งเตือน: “กรุณาตรวจสอบข้อมูลและลองอีกครั้ง” แทนที่จะเป็น “Transaction Failed”
  
  

ทำไม UX Writing ถึงสำคัญสำหรับ UI?

1. ทำให้การใช้งานเข้าใจง่ายขึ้น

การใช้คำพูดที่ เหมาะสมและเข้าใจง่าย ช่วยให้ผู้ใช้รู้ว่า พวกเขาควรทำอะไรต่อ ตัวอย่างเช่น:

• ปุ่ม “ยืนยันการสมัคร” จะชัดเจนกว่าปุ่มที่เขียนว่า “Submit”
  
  

• ข้อความแจ้งเตือน ที่เขียนว่า “กรุณากรอกที่อยู่ให้ครบ” จะทำให้ผู้ใช้รู้ว่าต้องกรอกอะไรเพิ่มเติมโดยไม่ต้องคิดมาก
  
  

2. ลดความสับสน

ข้อความที่เป็น ภาษาผู้ใช้ ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องถามหรือ คิดซ้ำซ้อน เกี่ยวกับสิ่งที่ระบบต้องการให้ทำ การใช้คำที่ตรงไปตรงมาและไม่ซับซ้อนช่วยให้การใช้งานเว็บหรือแอปพลิเคชัน ราบรื่น และ สะดวกขึ้น

3. สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้

การใช้คำที่ดีและเข้าใจง่ายทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าเว็บไซต์หรือแอปนั้น เป็นมิตร และ เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งจะเพิ่ม ความพึงพอใจ และ ความไว้วางใจ จากผู้ใช้

4. ช่วยลดการติดต่อกับทีมสนับสนุน

เมื่อผู้ใช้สามารถเข้าใจข้อมูลที่แสดงผลได้ชัดเจน พวกเขาจะไม่ต้องโทรหา Call Center หรือส่งอีเมลเพื่อสอบถาม ทำให้ธุรกิจลดภาระในการให้บริการลูกค้า และช่วยให้ทีมสามารถโฟกัสงานอื่น ๆ ได้

กรณีศึกษา: แอปธนาคารที่เปลี่ยนข้อความ “Transaction Failed” เป็น “รายการไม่สำเร็จ กรุณาลองใหม่อีกครั้ง”

สถานการณ์ก่อนปรับ UX Writing: แอปธนาคารหนึ่งพบว่า ผู้ใช้หลายคนไม่เข้าใจข้อความแสดงผลการทำธุรกรรม ที่แสดงว่า “Transaction Failed” เมื่อการชำระเงินล้มเหลว ผู้ใช้จำนวนมากไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ ส่งผลให้พวกเขาติดต่อ Call Center เพื่อสอบถามวิธีการดำเนินการต่อ

สิ่งที่ทีม UX/UI ทำ: ทีม UX/UI ได้ ปรับข้อความแจ้งเตือน จาก “Transaction Failed” เป็น “รายการไม่สำเร็จ กรุณาลองใหม่อีกครั้ง” โดยเน้น:

• ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย
  
  

• เพิ่มคำแนะนำเพื่อให้ผู้ใช้รู้ว่า พวกเขาควรทำอย่างไรต่อ (ลองใหม่อีกครั้ง)
  
  

• ทำให้ผู้ใช้รู้สึก มั่นใจ ว่ามีโอกาสที่การทำธุรกรรมจะสำเร็จหากลองใหม่
  
  

ผลลัพธ์หลังการปรับ:

• จำนวนการโทรหา Call Center ลดลง 40% เพราะผู้ใช้สามารถเข้าใจและดำเนินการได้เอง
  
  

• อัตราการทำธุรกรรมสำเร็จ เพิ่มขึ้น 25% เนื่องจากผู้ใช้รู้วิธีการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
  
  

• ความพึงพอใจของผู้ใช้เพิ่มขึ้น เนื่องจากคำอธิบายที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย
  
  

สรุป

UX Writing คือหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญในการทำให้ UI เข้าใจง่าย และ ลดความสับสน สำหรับผู้ใช้ การใช้คำที่ตรงไปตรงมาและเข้าใจง่ายช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลา คิดหรือสงสัย ว่าพวกเขาต้องทำอะไรต่อ และยังช่วยให้ธุรกิจ ลดภาระการสนับสนุนลูกค้า ได้

การปรับคำใน ปุ่ม, ข้อความแจ้งเตือน, หรือ คำแนะนำต่าง ๆ บนเว็บไซต์หรือแอปจะช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกมั่นใจในระบบมากขึ้น และทำให้ประสบการณ์การใช้งานเป็นไปอย่าง ราบรื่นและน่าพึงพอใจ.

หากคุณต้องการปรับปรุง UX Writing ในเว็บไซต์หรือแอปของคุณ ลองกลับไปดูข้อความที่แสดงใน UI และ ทำให้มันเข้าใจง่ายและเหมาะสมกับผู้ใช้จริง จะช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานดีขึ้นอย่างแน่นอน