12Nov, 2024
Language blog :
Thai
Share blog : 
12 November, 2024
Thai

การใช้ Flexbox และ Grid ในการพัฒนาเว็บไซต์แบบ Responsive

By

2 mins read
การใช้ Flexbox และ Grid ในการพัฒนาเว็บไซต์แบบ Responsive

การออกแบบเว็บไซต์ให้รองรับทุกขนาดหน้าจอหรือที่เรียกว่า Responsive Design เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน การจัดโครงสร้างเว็บไซต์ให้มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดีกับขนาดหน้าจอที่แตกต่างกันจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ และทำให้เว็บไซต์ดูเป็นระเบียบและสวยงาม

บทความนี้จะกล่าวถึงการใช้ Flexbox และ CSS Grid ซึ่งเป็นเทคนิคการจัดวางโครงสร้างหน้าเว็บแบบ Responsive ที่ทรงพลัง ทั้งสองเทคนิคนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเลย์เอาต์ที่ยืดหยุ่นและจัดการได้ง่าย ทำให้เว็บไซต์ตอบสนองต่อหน้าจอทุกขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Flexbox และ CSS Grid คืออะไร?

Flexbox (Flexible Box Layout) และ CSS Grid เป็นฟังก์ชันใน CSS ที่ใช้ในการจัดวางและจัดการโครงสร้างของเว็บไซต์ โดยแต่ละเทคนิคมีคุณสมบัติและจุดเด่นที่ช่วยให้การจัดวางหน้าเว็บทำได้ง่ายและยืดหยุ่น

Flexbox

Flexbox ถูกออกแบบมาเพื่อการจัดวางองค์ประกอบในแนวแกนเดียวกัน เช่น แนวตั้งหรือแนวนอน จึงเหมาะกับการสร้างโครงสร้างภายในส่วนต่าง ๆ ของหน้าเว็บ เช่น การจัดเรียงเมนูแถบด้านบน การจัดวางภาพและข้อความ หรือการวางปุ่มเรียงตามแนวแกน Flexbox สามารถช่วยให้องค์ประกอบต่าง ๆ ขยายหรือหดตัวได้ตามพื้นที่ที่มีอยู่ ซึ่งเหมาะกับการจัดการคอนเทนต์ในอุปกรณ์หลากหลาย

CSS Grid

CSS Grid เป็นเทคนิคการจัดวางโครงสร้างแบบสองมิติ (สองแกน) คือทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ซึ่งเหมาะกับการสร้างเลย์เอาต์ที่มีโครงสร้างซับซ้อน เช่น การจัดคอลัมน์หลายแถว หรือการสร้างกริดที่ประกอบไปด้วยคอนเทนต์หลายประเภท Grid ช่วยให้นักพัฒนาสามารถกำหนดตำแหน่งและขนาดขององค์ประกอบได้ละเอียดมากขึ้น ทำให้เหมาะกับการจัดวางโครงสร้างหน้าเว็บที่ต้องการความแม่นยำ

ประโยชน์ของการใช้ Flexbox และ CSS Grid ในการออกแบบ Responsive Design

การใช้ Flexbox และ CSS Grid มีข้อดีหลายประการในการพัฒนาเว็บไซต์แบบ Responsive:

  1. ยืดหยุ่นและตอบสนองต่อขนาดหน้าจอได้ดี: Flexbox และ Grid สามารถปรับเปลี่ยนการจัดวางโครงสร้างให้เหมาะสมกับขนาดหน้าจอ ทำให้เว็บไซต์ดูเป็นระเบียบไม่ว่าจะดูบนอุปกรณ์ใด

  2. ลดความซับซ้อนในการจัดวางองค์ประกอบ: นักพัฒนาไม่ต้องใช้โค้ดที่ซับซ้อนสำหรับการจัดวางคอนเทนต์ เพราะ Flexbox และ Grid มีฟังก์ชันการจัดวางที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง

  3. เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเลย์เอาต์ซับซ้อน: Grid ช่วยให้การสร้างเลย์เอาต์ที่ซับซ้อนเป็นเรื่องง่าย และทำให้เว็บไซต์มีโครงสร้างที่เป็นระเบียบและสวยงาม

  4. ประหยัดเวลาในการพัฒนาและบำรุงรักษา: การใช้ Flexbox และ Grid ทำให้การจัดวางหน้าเว็บที่ต้องการความยืดหยุ่นเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยลดเวลาที่ใช้ในการพัฒนาและบำรุงรักษาโค้ด

วิธีการใช้ Flexbox ในการออกแบบหน้าเว็บแบบ Responsive

Flexbox มีคุณสมบัติหลายอย่างที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถจัดวางองค์ประกอบในแนวแกนได้อย่างยืดหยุ่น โดยมีคุณสมบัติที่สำคัญดังนี้:

1. การตั้งค่า Flex Container

Flex Container เป็นส่วนที่ครอบคลุมองค์ประกอบภายในทั้งหมด (Flex Items) การตั้งค่า Flex Container โดยใช้ display: flex; จะช่วยให้องค์ประกอบภายในสามารถจัดเรียงได้ตามแกนที่ต้องการ

2. การจัดวางแนวแกน (Align Items)

Flexbox ช่วยให้การจัดวางองค์ประกอบตามแกนแนวนอนหรือแนวตั้งทำได้ง่าย โดยใช้คุณสมบัติ justify-content สำหรับการจัดวางตามแกนหลัก (Main Axis) และ align-items สำหรับการจัดวางตามแกนรอง (Cross Axis) ซึ่งช่วยให้องค์ประกอบสามารถขยายหรือหดตัวได้ตามขนาดหน้าจอ

3. การใช้ Flex Wrap

การตั้งค่า flex-wrap: wrap; ช่วยให้ Flex Items สามารถเลื่อนลงมาในบรรทัดถัดไปหากพื้นที่ไม่เพียงพอ ซึ่งเหมาะกับการจัดเลย์เอาต์บนหน้าจอที่มีขนาดเล็ก เช่น การจัดวางเมนูหรือรายการสินค้าในรูปแบบกริด

4. การกำหนดขนาด Flex Item ด้วย Flex Grow, Flex Shrink และ Flex Basis

คุณสมบัติ flex-grow, flex-shrink, และ flex-basis ช่วยให้นักพัฒนาสามารถกำหนดขนาดและการขยายตัวขององค์ประกอบแต่ละชิ้นได้ตามพื้นที่ที่มีอยู่ Flex Grow กำหนดอัตราการขยายตัวเมื่อมีพื้นที่เหลือ, Flex Shrink กำหนดอัตราการหดตัวเมื่อพื้นที่ไม่เพียงพอ และ Flex Basis กำหนดขนาดเริ่มต้นของ Flex Item

 

การใช้ CSS Grid ในการออกแบบหน้าเว็บแบบ Responsive

CSS Grid เหมาะสำหรับการจัดวางโครงสร้างที่ซับซ้อน เช่น การจัดหน้าเว็บที่มีหลายคอลัมน์และแถว ทำให้เลย์เอาต์ดูมีระเบียบและน่าสนใจ โดย CSS Grid มีคุณสมบัติสำคัญดังนี้:

1. การตั้งค่า Grid Container

การตั้งค่า Grid Container โดยใช้ display: grid; ช่วยให้เราสามารถกำหนดกรอบโครงสร้างที่จะใช้งาน และจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ภายในตารางได้สะดวก

2. การกำหนดขนาดคอลัมน์และแถวด้วย Grid Template

การกำหนดขนาดคอลัมน์และแถวใน Grid สามารถทำได้โดยใช้ grid-template-columns และ grid-template-rows ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถกำหนดจำนวนและขนาดของคอลัมน์และแถวได้ตามต้องการ เช่น การกำหนดให้บางคอลัมน์มีขนาดคงที่ และบางคอลัมน์ขยายตัวตามขนาดหน้าจอ

3. การใช้ Grid Gap เพื่อเพิ่มระยะห่าง

Grid Gap ช่วยเพิ่มระยะห่างระหว่างคอลัมน์และแถว ทำให้เลย์เอาต์ดูโปร่งและอ่านง่าย การใช้ Grid Gap ทำให้ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าระยะห่างให้กับองค์ประกอบแต่ละชิ้น แต่สามารถเพิ่มระยะห่างในระดับกริดได้

4. การใช้ Grid Template Areas

การใช้ grid-template-areas ช่วยให้นักพัฒนากำหนดโครงสร้างและตำแหน่งขององค์ประกอบต่าง ๆ ในรูปแบบของตารางได้อย่างชัดเจนและอ่านง่าย โดยการระบุชื่อพื้นที่ต่าง ๆ เช่น header, sidebar, และ main ซึ่งทำให้โค้ดดูเป็นระเบียบและเข้าใจง่ายขึ้น

การรวม Flexbox และ CSS Grid ในการพัฒนาเว็บไซต์แบบ Responsive

Flexbox และ CSS Grid มีจุดแข็งที่แตกต่างกัน และสามารถใช้ร่วมกันในการพัฒนาเว็บไซต์เพื่อสร้างโครงสร้างที่ยืดหยุ่นและตอบสนองต่อขนาดหน้าจอที่แตกต่างกันได้ดี นักพัฒนามักจะใช้ Grid ในการจัดวางโครงสร้างหลักของหน้าเว็บ เช่น การแบ่งคอลัมน์หลัก ส่วน Flexbox ใช้ในการจัดการองค์ประกอบภายในคอลัมน์หรือแถวย่อย เพื่อให้การจัดวางดูเรียบร้อยและสะดวกต่อการปรับเปลี่ยนตามขนาดหน้าจอ

ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์เทคโนโลยีแห่งหนึ่งใช้ Grid ในการแบ่งพื้นที่หน้าเว็บออกเป็นส่วนต่าง ๆ เช่น พื้นที่แสดงข่าวสาร แกลเลอรี และแถบด้านข้าง จากนั้นใช้ Flexbox จัดวางองค์ประกอบย่อยภายในแต่ละส่วนให้ขยายหรือหดตัวตามขนาดของพื้นที่ที่มีอยู่ การใช้สองเทคนิคนี้ร่วมกันทำให้โครงสร้างของหน้าเว็บดูเรียบง่ายและเป็นระเบียบ ตอบสนองต่อขนาดหน้าจอของผู้ใช้งานทุกประเภทได้ดี

สรุป

การใช้ Flexbox และ CSS Grid ในการพัฒนาเว็บไซต์แบบ Responsive ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างโครงสร้างหน้าเว็บที่ยืดหยุ่นและจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว Flexbox เหมาะสำหรับการจัดวางแนวแกนเดียว ในขณะที่ CSS Grid เหมาะสำหรับการจัดโครงสร้างหน้าเว็บแบบสองแกน โดยทั้งสองเทคนิคสามารถใช้ร่วมกันเพื่อสร้างเลย์เอาต์ที่สวยงามและตอบสนองต่อขนาดหน้าจอทุกประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนาเว็บไซต์ที่ใช้ Flexbox และ Grid ทำให้เว็บไซต์ดูเป็นระเบียบ ใช้งานง่าย และเพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าผู้ใช้จะเข้าถึงเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์ใดก็ตาม การออกแบบเว็บไซต์ให้ตอบสนองต่อขนาดหน้าจอได้ดีไม่เพียงแต่สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดี แต่ยังช่วยให้เว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือและทันสมัย

 

Written by
Aon Boriwat Jirabanditsakul
Aon Boriwat Jirabanditsakul

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

17
March, 2025
JS class syntax
17 March, 2025
JS class syntax
เชื่อว่าหลายๆคนที่เขียน javascript กันมา คงต้องเคยสงสัยกันบ้าง ว่า class ที่อยู่ใน js เนี่ย มันคืออะไร แล้วมันมีหน้าที่ต่างกับการประกาศ function อย่างไร? เรามารู้จักกับ class ให้มากขึ้นกันดีกว่า class เปรียบเสมือนกับ blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว ที่สามารถนำไปสร้างเป็นสิ่งของ( object ) ตาม blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว( class ) นั้นๆได้ โดยภายใน class

By

4 mins read
Thai
17
March, 2025
15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
17 March, 2025
15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
ผู้ให้บริการเครือข่ายในสหรัฐฯ ได้เปิดตัว 5G ในหลายรูปแบบ และเช่นเดียวกับผู้ให้บริการเครือข่ายในยุโรปหลายราย แต่… 5G มันคืออะไร และทำไมเราต้องให้ความสนใจ บทความนี้ได้รวบรวม 15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันกำลังจะถูกใช้งานอย่างกว้างขวางขึ้น 1. 5G หรือ Fifth-Generation คือยุคใหม่ของเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายที่จะมาแทนที่ระบบ 4G ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมันไม่ได้ถูกจำกัดแค่มือถือเท่านั้น แต่รวมถึงอุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ 2. 5G คือการพัฒนา 3 ส่วนที่สำคัญที่จะนำมาสู่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ขยายช่องสัญญาณขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ การตอบสนองที่รวดเร็วขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลง ความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่า 1 ในเวลาเดียวกัน 3. สัญญาณ 5G นั้นแตกต่างจากระบบ

By

4 mins read
Thai
17
March, 2025
จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
17 March, 2025
จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
ในปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาษาที่ถูกใช้ในการเขียนเว็บต่าง ๆ นั้น คงหนีไม่พ้นภาษา Javascript ซึ่งเป็นภาษาที่ถูกนำไปพัฒนาเป็น framework หรือ library ต่าง ๆ มากมาย ผู้พัฒนาหลายคนก็มีรูปแบบการเขียนภาษา Javascript ที่แตกต่างกัน เราเลยมีแนวทางการเขียนที่หลากหลาย มาแบ่งปันเพื่อน ๆ เกี่ยวกับการจัดการ Array ด้วยภาษา Javascript กัน เรามาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า โดยปกติแล้วการ copy ค่าจาก value type ธรรมดา สามารถเขียนได้ดังนี้

By

4 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.