14Nov, 2024
Language blog :
Thai
Share blog : 
14 November, 2024
Thai

การรักษาความปลอดภัยใน Web App เพื่อปกป้องข้อมูลลูกค้า

By

3 mins read
การรักษาความปลอดภัยใน Web App เพื่อปกป้องข้อมูลลูกค้า

ในยุคดิจิทัล การรักษาความปลอดภัยใน Web App เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลการเงินของลูกค้า การป้องกันข้อมูลที่อาจตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีไซเบอร์ เช่น ข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจในบริการของแพลตฟอร์ม

บทความนี้จะแนะนำวิธีการรักษาความปลอดภัยให้กับ Web App ผ่านแนวทางต่าง ๆ เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การยืนยันตัวตน และการป้องกันการโจมตีที่พบบ่อยอย่าง Cross-Site Scripting (XSS) เพื่อให้ผู้พัฒนาสามารถนำไปใช้ในการพัฒนา Web App ที่ปลอดภัยและปกป้องข้อมูลของลูกค้าได้

ทำไมความปลอดภัยใน Web App จึงสำคัญ?

ความปลอดภัยใน Web App มีความสำคัญต่อทั้งธุรกิจและผู้ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ข้อมูลสุขภาพ หรือการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า การรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในการใช้งานและช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตีไซเบอร์

ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มการเงินแห่งหนึ่งได้เพิ่มระบบความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสข้อมูลและการยืนยันตัวตน ทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในการใช้บริการ เนื่องจากมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินของพวกเขาถูกปกป้องไว้อย่างดี

 

วิธีการรักษาความปลอดภัยใน Web App

มีหลายวิธีที่สามารถใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับ Web App ตั้งแต่การเข้ารหัสข้อมูลไปจนถึงการตรวจสอบและป้องกันการโจมตีที่พบบ่อย โดยมีวิธีที่สำคัญดังนี้:

1. การเข้ารหัสข้อมูล (Data Encryption)

การเข้ารหัสข้อมูล คือการเปลี่ยนข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถอ่านได้หากไม่ได้รับการถอดรหัส วิธีนี้ช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่สำคัญถูกเข้าถึงหรือใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยควรใช้การเข้ารหัสทั้งในขณะส่งข้อมูลและในขณะจัดเก็บข้อมูล

  • การเข้ารหัสในขณะส่งข้อมูล (Transport Layer Security - TLS): ควรใช้การเข้ารหัส TLS หรือ SSL ในการส่งข้อมูลระหว่างผู้ใช้และเซิร์ฟเวอร์ เพื่อป้องกันการถูกดักข้อมูลระหว่างทาง

  • การเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บ: ข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลทางการเงิน ควรเก็บในรูปแบบที่เข้ารหัส เช่น การใช้ SHA-256 หรือ AES ซึ่งเป็นรูปแบบการเข้ารหัสที่มีความปลอดภัยสูง

การเข้ารหัสช่วยให้มั่นใจได้ว่าหากข้อมูลถูกขโมยหรือดักได้ ผู้โจมตีจะไม่สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างง่ายดาย

2. การยืนยันตัวตน (Authentication)

การยืนยันตัวตน เป็นกระบวนการที่ใช้เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่เข้าถึงระบบหรือข้อมูลเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาต การยืนยันตัวตนที่มีประสิทธิภาพช่วยลดโอกาสที่ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตจะเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้

  • การใช้รหัสผ่านที่เข้มงวด: ผู้ใช้ควรตั้งรหัสผ่านที่มีความยาวและซับซ้อน และระบบควรบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นระยะ

  • การใช้การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (Two-Factor Authentication - 2FA): นอกจากรหัสผ่าน ควรให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติม เช่น รหัสยืนยันจาก SMS หรือแอปพลิเคชัน Authenticator เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

  • การใช้ Single Sign-On (SSO): SSO ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงหลายระบบด้วยการยืนยันตัวตนเพียงครั้งเดียว ลดความซับซ้อนและเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน แต่ยังคงมีความปลอดภัยที่สูง

3. การป้องกันการโจมตี Cross-Site Scripting (XSS)

การโจมตีแบบ Cross-Site Scripting (XSS) เป็นการโจมตีที่ใช้การแทรกโค้ดไม่พึงประสงค์เข้าไปในหน้า Web App เมื่อผู้ใช้เปิดหน้าเว็บที่มีโค้ด XSS ผู้โจมตีจะสามารถขโมยข้อมูลหรือควบคุมการทำงานของ Web App ได้

วิธีป้องกันการโจมตี XSS คือ:

  • การกำจัดและกรองข้อมูลที่ได้รับจากผู้ใช้: กรองข้อมูลที่ผู้ใช้กรอกลงในฟอร์มหรือส่งเข้ามาใน Web App โดยการใช้ฟังก์ชันที่ทำให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ได้รับจะไม่มีโค้ดที่เป็นอันตราย

  • การเข้ารหัส HTML: การเข้ารหัสข้อมูลที่แสดงผลในหน้า HTML โดยแปลงตัวอักษรพิเศษ เช่น <, >, และ & ให้เป็นตัวอักษรที่ไม่ถูกตีความเป็นโค้ด HTML

  • การใช้ Content Security Policy (CSP): CSP เป็นการตั้งค่านโยบายความปลอดภัยที่กำหนดว่า Web App ของคุณสามารถโหลดสคริปต์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้เท่านั้น ลดความเสี่ยงจากการโจมตี XSS

4. การป้องกัน SQL Injection

SQL Injection เป็นการโจมตีที่เกิดจากการแทรกโค้ด SQL เข้าไปในคำสั่ง SQL ที่ Web App ส่งไปยังฐานข้อมูล ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับได้ การป้องกัน SQL Injection ทำได้โดย:

  • ใช้คำสั่งที่เตรียมไว้ล่วงหน้า (Prepared Statements): เป็นการเขียนคำสั่ง SQL ที่กำหนดค่าโดยไม่ยอมให้ข้อมูลจากผู้ใช้ถูกใช้เป็นคำสั่ง SQL โดยตรง ซึ่งช่วยป้องกันการโจมตี SQL Injection ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การตรวจสอบและกรองข้อมูลที่ได้รับจากผู้ใช้: ข้อมูลที่ผู้ใช้กรอกเข้ามาควรถูกกรองและตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีการแทรกโค้ด SQL ที่เป็นอันตราย

5. การป้องกันการโจมตีแบบ Cross-Site Request Forgery (CSRF)

การโจมตีแบบ Cross-Site Request Forgery (CSRF) เป็นการโจมตีที่ผู้โจมตีพยายามทำให้ผู้ใช้ทำการกระทำบางอย่างโดยไม่รู้ตัว เช่น การส่งข้อมูลหรือคำสั่งที่ไม่ได้รับอนุญาต การป้องกัน CSRF ทำได้โดย:

  • ใช้ CSRF Token: การสร้าง Token เฉพาะตัวที่ใช้ในฟอร์มเพื่อให้แน่ใจว่าคำขอที่ส่งมาจากผู้ใช้ได้รับการยืนยันแล้วว่าถูกต้อง

  • ตั้งค่า SameSite Cookie: การตั้งค่า SameSite ช่วยป้องกันไม่ให้ Cookie ถูกส่งออกจากเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่ Web App ของคุณ ลดความเสี่ยงในการโจมตีแบบ CSRF

 

แนวทางการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับ Web App

เพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับ Web App ควรใช้แนวทางปฏิบัติเพิ่มเติมดังนี้:

  • อัปเดตซอฟต์แวร์และเฟรมเวิร์กอย่างสม่ำเสมอ: การใช้งานซอฟต์แวร์หรือเฟรมเวิร์กที่ล้าสมัยอาจมีช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถใช้เพื่อเข้าถึงข้อมูล ดังนั้นควรอัปเดตเวอร์ชันให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ

  • ทำการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ: การสำรองข้อมูลช่วยป้องกันความเสียหายในกรณีที่ข้อมูลถูกโจมตีหรือสูญหาย

  • ตรวจสอบบันทึกการเข้าใช้งาน (Access Logs): การตรวจสอบบันทึกการใช้งานช่วยให้คุณสามารถติดตามพฤติกรรมที่ผิดปกติและตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รวดเร็ว

 

สรุป

การรักษาความปลอดภัยใน Web App เพื่อปกป้องข้อมูลลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้และปกป้องข้อมูลจากการโจมตีไซเบอร์ การใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การยืนยันตัวตน การป้องกันการโจมตีแบบ Cross-Site Scripting (XSS) และ SQL Injection รวมถึงการใช้แนวทางปฏิบัติเพิ่มเติม เช่น การอัปเดตซอฟต์แวร์และการตรวจสอบบันทึกการใช้งาน จะช่วยเสริมความปลอดภัยและทำให้ Web App มีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น

การรักษาความปลอดภัยใน Web App อย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงของการโจมตี แต่ยังเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือให้กับแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับลูกค้า

 

Written by
Pooh Phuvit Jaruratkit
Pooh Phuvit Jaruratkit

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

14
March, 2025
JS class syntax
14 March, 2025
JS class syntax
เชื่อว่าหลายๆคนที่เขียน javascript กันมา คงต้องเคยสงสัยกันบ้าง ว่า class ที่อยู่ใน js เนี่ย มันคืออะไร แล้วมันมีหน้าที่ต่างกับการประกาศ function อย่างไร? เรามารู้จักกับ class ให้มากขึ้นกันดีกว่า class เปรียบเสมือนกับ blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว ที่สามารถนำไปสร้างเป็นสิ่งของ( object ) ตาม blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว( class ) นั้นๆได้ โดยภายใน class

By

4 mins read
Thai
14
March, 2025
15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
14 March, 2025
15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
ผู้ให้บริการเครือข่ายในสหรัฐฯ ได้เปิดตัว 5G ในหลายรูปแบบ และเช่นเดียวกับผู้ให้บริการเครือข่ายในยุโรปหลายราย แต่… 5G มันคืออะไร และทำไมเราต้องให้ความสนใจ บทความนี้ได้รวบรวม 15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันกำลังจะถูกใช้งานอย่างกว้างขวางขึ้น 1. 5G หรือ Fifth-Generation คือยุคใหม่ของเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายที่จะมาแทนที่ระบบ 4G ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมันไม่ได้ถูกจำกัดแค่มือถือเท่านั้น แต่รวมถึงอุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ 2. 5G คือการพัฒนา 3 ส่วนที่สำคัญที่จะนำมาสู่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ขยายช่องสัญญาณขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ การตอบสนองที่รวดเร็วขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลง ความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่า 1 ในเวลาเดียวกัน 3. สัญญาณ 5G นั้นแตกต่างจากระบบ

By

4 mins read
Thai
14
March, 2025
จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
14 March, 2025
จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
ในปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาษาที่ถูกใช้ในการเขียนเว็บต่าง ๆ นั้น คงหนีไม่พ้นภาษา Javascript ซึ่งเป็นภาษาที่ถูกนำไปพัฒนาเป็น framework หรือ library ต่าง ๆ มากมาย ผู้พัฒนาหลายคนก็มีรูปแบบการเขียนภาษา Javascript ที่แตกต่างกัน เราเลยมีแนวทางการเขียนที่หลากหลาย มาแบ่งปันเพื่อน ๆ เกี่ยวกับการจัดการ Array ด้วยภาษา Javascript กัน เรามาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า โดยปกติแล้วการ copy ค่าจาก value type ธรรมดา สามารถเขียนได้ดังนี้

By

4 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.