Search Intent อนาคตของการทำ SEO

หากต้องการทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ หรือเพิ่มอันดับเว็บไซต์ในการค้นหาบน Google นั้น จำเป็นต้องพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของบทความ ให้ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด ซึ่ง Search Intent จะช่วยให้สามารถสร้างคอนเทนต์ให้กับผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและตรงกับจุดประสงค์ในการค้นหาของผู้ใช้งาน ในบทความนี้จะอธิบายให้ทราบว่า Search Intent คืออะไร มีกี่แบบ สามารถนำมาประบใช้ในการสร้างคอนเทนต์ได้อย่างไรบ้าง

Search Intent คืออะไร

Search Intent หรือ User Intent คือ จุดประสงค์ของการค้นหาออนไลน์ หรือ Search Engine โดยอธิบายอย่างง่าย ๆ ก็คือ การหาว่าผู้ใช้งานค้นหาคำนั้น ๆ บน google เพื่ออะไรนั่นเอง เช่น อาจจะเป็นหาการข้อมูลเพิ่มเติม หาข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ หาคำตอบของคำถามที่สงสัย หาสินค้าที่อยากได้ หรือหาวิธีการทำงานของใช้บางอย่าง เป็นต้น

Search Intent มีกี่แบบ

โดยหลัก ๆ Search Intent จะมีอยู่ 4 แบบ คือ 

1. Informational การหาข้อมูล

ผู้ใช้งานต้องการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือเพื่อหาคำตอบบางอย่าง ซึ่งถือเป็นรูปแบบที่ผู้ค้นหาส่วนใหญ่นิยมค้นหากันเลยก็ว่าได้ ในการค้นหานี้มักจะมีคำค้นหา “วิธี” “อะไร” “ที่ไหน” หรือ “ทำไม”อยู่ หรืออาจจะเป็นคำเดียวที่ไม่ใช่ประโยคคำถามก็ได้ แต่ search engine ก็จะแสดงข้อมูลที่หลากหลายและอาจจะไม่ตรงตามจุดประสงค์ได้ด้วยเช่นกัน

ตัวอย่าง

• ใครคือนายกคนแรกของประเทศไทย
• วิธีทำให้ผลไม้สุกเร็วขึ้น
• EAT SEO

2. Navigational การหาทาง

ผู้ใช้งานต้องการที่จะหาทางที่จะเข้าไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งผู้ใช้ทราบอยู่แล้วว่าต้องการไปยังเว็บไซต์ใด เพียงแต่อาจจะต้องการพิมพ์แค่ช่ือของเว็บไซต์ หรือหน้าดังกล่าว ซึ่งค่อนข้างง่ายและเร็วกว่าการพิมพ์ URL ลงไปใน Address bar

ตัวอย่าง

• Facebook
• ธนาคารกสิกร
• Kerry เช็กพัสดุ
• UX/UI Designer Thaitechpro

3. Transactional การหาเพื่อซื้อ

ผู้ใช้งานต้องการค้นหาข้อมูลเพื่อการซื้อ ซึ่งปกติผู้ค้นหามักจะทราบอยู่แล้วว่าต้องการจะซื้ออะไร และการหาเพื่อซื้อนี้อาจไม่ใช่การซื้อสินค้าจริง ๆ อาจเป็นเพียงการสมัครสมาชิกเว็บไซต์การกดติดตาม หรือการโทรจองร้านอาหาร เป็นต้น

ตัวอย่าง

• ซื้อ iPhone 12
• จองสปา let’s relax
• ราคา Omakase ร้าน Sushi Zo
• ร้านส่งดอกไม้วาเลนไทน์

4. Commercial การหาตัวเลือก

ผู้ใช้งานจะอยู่ในตลาดสินค้าที่เฉพาะเจาะจง แต่ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะเลือกอะไร หรือซื้อในทันที ส่วนมากผู้ใช้งานมักจะมองหารีวิว ข้อดี ข้อเสียของสิ่งที่มองหา หรือการเปรียบเทียบเพื่อประกอบการตัดสินใจ 

ตัวอย่าง 

• รีวิวน้ำตบเห็ด
• AIS หรือ True
• คาเฟ่ถ่ายรูปสวยในกรุงเทพ

มาลองฝึกดูตัวอย่างคำค้นหากัน 

• Airpod pro lazada ​- ผู้ใช้งานต้องการซื้อสินค้า (Transactional) ในเว็บไซต์ของ Lazada โดยตรง (Navigational)
• วิธีทำข้าวผัดกิมจิ  - ผู้ใช้งานต้องการหาข้อมูลเพื่อทำอาหาร (Informational)
• รองเท้าวิ่ง Nike หรือ Adidas ดี - ผู้ใช้งานต้องการหาข้อมูล รีวิว เปรียบเทียบ ระหว่างตัวเลือก เพื่อประกอบการตัดสินใจ (Commercial)

ทำไม Search Intent ถึงสำคัญ

ความตั้งใจของ google คือ การจัดการข้อมูลที่มีอยู่บนโลกใบนี้ เพื่อให้ข้อมูลนั้นสามารถเข้าถึงได้และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน โดยจะให้ผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับคำที่ผู้ใช้ค้นหามากที่สุด ดังนั้น หากต้องการเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ และมีอันดับเว็บไซต์ที่ดีในการค้นหาบน search engine จำเป็นต้องทำคอนเทนต์ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้และมีประโยชน์มากที่สุด ซึ่งจะส่งผลต่อธุรกิจในอนาคตอีกด้วย

การเพิ่มประสิทธิภาพของ Content

การเพิ่มประสิทธิภาพของ Content สำหรับ Search Intent สามารถทำแบบพื้นฐานได้ง่าย คือ 

ประเภทของ Content

ในการทำคอนเทนต์ควรมีการตรวจสอบผลลัพธ์ที่แสดงบน google ก่อน เพื่อที่จะได้ดูเป็นแนวทางในการสร้างคอนเทนต์ โดยในการค้นหาคำ ๆ หนึ่ง ควรสังเกตประเภทหรือรูปแบบของเนื้อหาแบบใดที่ขึ้นมาเป็นอันดับแรก เช่น เป็นบทความให้ความรู้ บทความรีวิวสินค้า วิดีโอเปรียบเทียบสินค้า หรือเป็นหน้าการสั่งซื้อสินค้าได้เลย ที่ให้สังเกตที่จุดนี้ เนื่องจาก google ได้ประมวลผลแล้วว่าสิ่งที่ขึ้นมาในหน้าแรกหรือในอันดับต้น ๆ ของการค้นหา คือสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการค้นหามากที่สุด 

Keyword ในการค้นหา

ต้องมีการตรวจสอบและเลือก Keyword หรือคำที่ใช้สำหรับการค้นหาว่า เหมาะสมกับบทความที่เราเขียนหรือไม่ มี Keyword ไหนที่ควรเพิ่มหรือตัดออกจากบทความของเราบ้าง ซึ่งอาจดูได้จากหน้า Google ด้านล่าง ตรง “People also ask” หรือใช้เครื่องมือจากเว็บต่าง ๆ เช่น Google Keyword Planner, Moz, Ahrefs เป็นต้น

อื่น ๆ เพิ่มเติม 

• เนื้อหาของบทความ
• ความเชี่ยวชาญของผู้เขียนบทความนั้น ๆ 
• ความเร็วของการแสดงผลของเว็บไซต์
• เว็บไซต์รองรับการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ
• การใช้ Keyword ใน 150 ตัวอักษรแรก
• ตั้งชื่อรูปภาพในบทความที่มีความถูกต้องและเกี่ยวข้อง
• มี  Internal Links / External Links จากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ

Search Intent เรียกได้ว่าเป็นอนาคตของการทำ SEO เลยที่เดียว ใครที่สนใจอยากทำต้องการทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ หรือเพิ่มอันดับเว็บไซต์ในการค้นหาบน Google จำเป็นต้องศึกษา Search Intent ให้ดี เพื่อที่จะได้นำพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของบทความให้ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด