รู้จักองค์ประกอบสำคัญของเว็บไซต์

2 mins read

Published

7 May, 2025

Language

Thai

Written by

Share

รู้จักองค์ประกอบสำคัญของเว็บไซต์

การมีเว็บไซต์ไม่ใช่แค่ “เปิดหน้าเว็บแล้วจบ” แต่ต้องเข้าใจว่าเว็บไซต์หนึ่งเว็บมี “องค์ประกอบหลายส่วน” ที่ทำงานร่วมกัน เพื่อให้เว็บนั้นดูดี โหลดเร็ว ติด Google และใช้งานได้จริง

บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้จักกับ องค์ประกอบพื้นฐานของเว็บไซต์ ที่ทุกเจ้าของธุรกิจควรเข้าใจก่อนเริ่มทำเว็บ พร้อมกรณีศึกษาจากเจ้าของธุรกิจรายเล็กที่ทำเว็บเองแต่พลาดบางจุด จนทำให้เว็บไม่ติด Google อย่างที่คิด

 

องค์ประกอบหลักของเว็บไซต์ที่ควรรู้จัก

1. Domain Name (ชื่อเว็บไซต์)

คือ ชื่อโดเมน หรือ “ชื่อเว็บไซต์” ที่ผู้ใช้งานจะพิมพ์ในเบราว์เซอร์ เช่น www.mycoffee.com

ข้อแนะนำ:

  • ควรตั้งชื่อให้จำง่ายและตรงกับธุรกิจ

  • เลือกโดเมน .com, .co.th หรือ .net ตามลักษณะของแบรนด์

  • จดทะเบียนโดเมนผ่านผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ เช่น GoDaddy, Namecheap, THNIC

 

2. Hosting (พื้นที่จัดเก็บเว็บไซต์)

Hosting คือ “พื้นที่” ที่เก็บไฟล์เว็บไซต์ทั้งหมด เช่น รูปภาพ, โค้ด, ระบบหลังบ้าน ให้เว็บไซต์แสดงผลได้

ข้อแนะนำ:

  • เลือก Hosting ที่รองรับภาษาและเทคโนโลยีที่ใช้ เช่น PHP, Node.js

  • ควรเลือกแบบมี SSL (https) เพื่อความปลอดภัย

  • สำหรับเว็บไซต์ไทย ควรเลือก Hosting ที่อยู่ในประเทศหรือตั้งอยู่ในภูมิภาคใกล้เคียง เพื่อความเร็ว

 

3. CMS (ระบบจัดการเนื้อหา)

CMS (Content Management System) คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณ “สร้างและจัดการเนื้อหาเว็บ” ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด เช่น

  • WordPress (เหมาะกับ Blog หรือเว็บทั่วไป)

  • Shopify (เหมาะกับร้านค้าออนไลน์)

  • Webflow, Joomla, Drupal (สำหรับงานเฉพาะทาง)

ข้อดีของ CMS:

  • ใช้งานง่าย

  • มีเทมเพลตให้เลือกเยอะ

  • เสริมฟังก์ชันเพิ่มเติมได้ด้วยปลั๊กอิน

 

4. SEO (Search Engine Optimization)

SEO คือกระบวนการทำให้เว็บไซต์ของคุณ “ติดอันดับ” บน Google หรือ Search Engine อื่น ๆ

องค์ประกอบเบื้องต้นของ SEO ที่ควรรู้:

  • Title & Meta Description (ชื่อหน้า + คำอธิบาย)

  • คีย์เวิร์ดในเนื้อหา

  • ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ

  • ความเหมาะสมในการแสดงผลบนมือถือ (Responsive Design)

  • การเชื่อมโยงภายใน (Internal Linking)

 

5. UX/UI (ประสบการณ์และหน้าตาการใช้งาน)

  • UX (User Experience): คือการออกแบบเส้นทางการใช้งาน ให้ผู้ใช้ใช้งานง่าย ไม่หลงทาง

  • UI (User Interface): คือหน้าตาของเว็บไซต์ เช่น สี ฟอนต์ ปุ่ม ที่ทำให้เว็บดูน่าใช้

ข้อแนะนำ:

  • เมนูควรจัดเรียงเป็นหมวดหมู่ เข้าใจง่าย

  • ปุ่ม Call to Action ควรเด่น เช่น “สั่งซื้อเลย”, “ติดต่อเรา”

  • ใช้สีและฟอนต์ที่เหมาะกับแบรนด์

 

กรณีศึกษา: ธุรกิจเล็กที่ทำเว็บไซต์เองแต่ลืมใส่ Meta Description

สถานการณ์:
เจ้าของร้านเครื่องดื่มสุขภาพรายหนึ่งทำเว็บไซต์ด้วย WordPress เอง โดยใช้ธีมสำเร็จรูป ซึ่งหน้าเว็บดูดี ใช้งานได้ แต่หลังจากเปิดใช้งานไป 3 เดือนกลับไม่มีคนเข้าเว็บไซต์จาก Google เลย

ปัญหาที่พบ:

  • ไม่มีการใส่ Meta Description หรือคำอธิบายใต้ชื่อเว็บไซต์ในผลการค้นหา

  • ไม่มีคีย์เวิร์ดในเนื้อหาหลัก เช่น “น้ำผักผลไม้สกัดเย็น”

  • ไม่ได้ใช้ปลั๊กอิน SEO เช่น Yoast หรือ RankMath

วิธีแก้ไข:

  • ติดตั้งปลั๊กอิน SEO และใส่ Title/Description ให้ครบทุกหน้า

  • ปรับเนื้อหาให้มีคีย์เวิร์ดสำคัญและจัดโครงสร้างให้เป็นมิตรกับ Google

  • เพิ่มบทความความรู้เกี่ยวกับสุขภาพเพื่อดึงทราฟฟิกแบบ Organic

ผลลัพธ์:

  • หน้าเว็บเริ่มติดอันดับในคีย์เวิร์ดรองภายใน 1 เดือน

  • มีคนเข้าจาก Google เฉลี่ยวันละ 80–100 คน

  • มีลูกค้ากรอกฟอร์มสอบถามผ่านเว็บมากขึ้น

สรุป

เว็บไซต์ไม่ได้มีแค่ดีไซน์ แต่ยังมี องค์ประกอบเบื้องหลัง ที่เจ้าของธุรกิจควรเข้าใจตั้งแต่เริ่มต้น เช่น
Domain, Hosting, CMS, SEO, และ UX/UI ซึ่งทั้งหมดทำงานร่วมกันเพื่อให้เว็บของคุณ ใช้งานได้จริง ติดอันดับ และตอบโจทย์ธุรกิจ หากคุณกำลังจะเริ่มทำเว็บไซต์ ลองตรวจสอบว่าองค์ประกอบเหล่านี้ครบถ้วนหรือยัง
เริ่มต้นให้ดีตั้งแต่โครงสร้าง แล้วคุณจะไม่ต้องแก้ปัญหาใหญ่ในภายหลัง

Written by
Nat Nattaphon Bunsuwan
Nat Nattaphon Bunsuwan

Share

Keep me posted
to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

More than 120,000 people/day  visit to read our blogs

Related articles

Explore all

JS class syntax
JS class syntax
เชื่อว่าหลายๆคนที่เขียน javascript กันมา คงต้องเคยสงสัยกันบ้าง ว่า class ที่อยู่ใน js เนี่ย มันคืออะไร แล้วมันมีหน้าที่ต่างกับการประกาศ function อย่างไร? เรามารู้จักกับ class ให้มากขึ้นกันดีกว่า class เปรียบเสมือนกับ blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว ที่สามารถนำไปสร้างเป็นสิ่งของ( object ) ตาม blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว( class ) นั้นๆได้ โดยภายใน class
11 Dec, 2025

by

15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
ผู้ให้บริการเครือข่ายในสหรัฐฯ ได้เปิดตัว 5G ในหลายรูปแบบ และเช่นเดียวกับผู้ให้บริการเครือข่ายในยุโรปหลายราย แต่… 5G มันคืออะไร และทำไมเราต้องให้ความสนใจ บทความนี้ได้รวบรวม 15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันกำลังจะถูกใช้งานอย่างกว้างขวางขึ้น 1. 5G หรือ Fifth-Generation คือยุคใหม่ของเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายที่จะมาแทนที่ระบบ 4G ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมันไม่ได้ถูกจำกัดแค่มือถือเท่านั้น แต่รวมถึงอุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ 2. 5G คือการพัฒนา 3 ส่วนที่สำคัญที่จะนำมาสู่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ขยายช่องสัญญาณขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ การตอบสนองที่รวดเร็วขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลง ความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่า 1 ในเวลาเดียวกัน 3. สัญญาณ 5G นั้นแตกต่างจากระบบ
11 Dec, 2025

by

จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
ในปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาษาที่ถูกใช้ในการเขียนเว็บต่าง ๆ นั้น คงหนีไม่พ้นภาษา Javascript ซึ่งเป็นภาษาที่ถูกนำไปพัฒนาเป็น framework หรือ library ต่าง ๆ มากมาย ผู้พัฒนาหลายคนก็มีรูปแบบการเขียนภาษา Javascript ที่แตกต่างกัน เราเลยมีแนวทางการเขียนที่หลากหลาย มาแบ่งปันเพื่อน ๆ เกี่ยวกับการจัดการ Array ด้วยภาษา Javascript กัน เรามาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า โดยปกติแล้วการ copy ค่าจาก value type ธรรมดา สามารถเขียนได้ดังนี้
11 Dec, 2025

by

Contact Senna Labs at :

hello@sennalabs.com28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599
© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved. | Privacy policy