hand lt
hand lt
hand lt
11Nov, 2024
Language blog :
Thai
Share blog : 
11 November, 2024
Thai

เพิ่มความเร็วเว็บไซต์เพื่อประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น: เทคนิคง่าย ๆ ที่คุณสามารถเริ่มใช้ได้ทันที

By

2 mins read
เพิ่มความเร็วเว็บไซต์เพื่อประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น: เทคนิคง่าย ๆ ที่คุณสามารถเริ่มใช้ได้ทันที

ในยุคที่ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลมีบทบาทสำคัญต่อการดึงดูดและรักษาผู้ใช้งาน การเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะความล่าช้าในการโหลดหน้าเว็บไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้ใช้ออกจากเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว แต่ยังทำให้สูญเสียโอกาสในการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นลูกค้าได้อีกด้วย นอกจากนี้ การเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ยังส่งผลดีต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการมองเห็นและเข้าถึงผู้ใช้งานที่มากขึ้น

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับเทคนิคง่าย ๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้ทันที เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับเว็บไซต์ของคุณ พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้และเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ

1. บีบอัดรูปภาพให้เหมาะสม

รูปภาพที่มีขนาดใหญ่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เว็บไซต์โหลดช้า การบีบอัดรูปภาพเป็นวิธีง่าย ๆ ที่สามารถช่วยลดขนาดไฟล์โดยไม่กระทบต่อคุณภาพของภาพ ทำให้หน้าเว็บโหลดได้เร็วขึ้น โดยควรใช้เครื่องมือบีบอัดรูปภาพ เช่น TinyPNG หรือ Compressor.io เพื่อให้ภาพมีขนาดเล็กลงแต่ยังคงความคมชัด

เคล็ดลับการบีบอัดรูปภาพ:

  • ใช้รูปแบบไฟล์ WebP แทน JPG หรือ PNG เพราะไฟล์ประเภท WebP มีขนาดเล็กกว่าและเหมาะสมสำหรับการแสดงผลบนเว็บ

  • ปรับขนาดรูปภาพให้เหมาะสมกับหน้าจอที่จะแสดง เช่น ถ้าหน้าจอที่ใช้เป็นมือถือ รูปภาพควรมีขนาดไม่ใหญ่เกินความจำเป็น

  • ใช้ Lazy Loading เพื่อโหลดเฉพาะภาพที่อยู่ในตำแหน่งที่ผู้ใช้กำลังดู ซึ่งช่วยลดการโหลดหน้าเว็บในครั้งแรกและเพิ่มความเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ใช้ระบบแคชเพื่อเพิ่มความเร็วในการโหลดหน้า

การใช้ระบบแคชช่วยให้เว็บไซต์สามารถเก็บข้อมูลบางส่วนไว้ในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ ซึ่งทำให้เมื่อผู้ใช้กลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์อีกครั้ง เบราว์เซอร์จะไม่ต้องโหลดข้อมูลใหม่ทั้งหมด การใช้ปลั๊กอินแคช เช่น W3 Total Cache หรือ WP Super Cache สามารถช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

การตั้งค่าระบบแคชที่แนะนำ:

  • เปิดใช้งานการแคชหน้าเว็บทั้งหมดและบีบอัดโค้ด HTML, CSS, และ JavaScript เพื่อลดขนาดไฟล์

  • ตั้งค่าให้เบราว์เซอร์จำข้อมูลที่สำคัญของเว็บไซต์ เช่น รูปภาพและโลโก้ เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ต้องโหลดใหม่ทุกครั้งที่เข้ามาเยี่ยมชม

  • ใช้การแคชแบบ Object Cache ซึ่งช่วยเก็บข้อมูลที่มีการดึงมาใช้งานบ่อย ๆ เช่น ข้อมูลในฐานข้อมูลของสินค้า

3. ลดโค้ดที่ไม่จำเป็นและปรับโค้ดให้มีประสิทธิภาพ

การลดโค้ดที่ไม่จำเป็นและทำให้โค้ดมีขนาดเล็กลงเป็นการลดภาระการประมวลผลของเบราว์เซอร์ ซึ่งจะช่วยให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น การจัดการกับ CSS และ JavaScript ที่ไม่จำเป็นหรือไม่ถูกใช้งานบ่อย ๆ สามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือ Minify เช่น UglifyJS หรือ CSSNano เพื่อลดขนาดไฟล์

วิธีลดโค้ดให้มีประสิทธิภาพ:

  • บีบอัด CSS และ JavaScript เพื่อลดขนาดไฟล์ และนำโค้ดที่ไม่ได้ใช้ทิ้งไป

  • ย้ายการโหลด JavaScript ที่ไม่สำคัญไปไว้ที่ส่วนท้ายของหน้าเว็บเพื่อลดเวลาการโหลดหน้า

  • ใช้ปลั๊กอินเช่น Asset CleanUp หรือ Perfmatters ซึ่งช่วยให้เลือกโหลดเฉพาะโค้ดที่จำเป็นในแต่ละหน้า

4. ใช้ Content Delivery Network (CDN) เพื่อกระจายการโหลดข้อมูล

CDN เป็นเครือข่ายที่ช่วยกระจายข้อมูลเว็บไซต์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้กับผู้ใช้ที่สุด ทำให้ลดระยะทางในการส่งข้อมูลและเพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ การใช้ CDN เช่น Cloudflare หรือ Fastly จะช่วยให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองต่อการเข้าถึงจากทุกมุมโลกได้รวดเร็วขึ้น

การเลือกใช้ CDN ที่เหมาะสม:

  • เลือกผู้ให้บริการ CDN ที่มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ในพื้นที่เป้าหมายของผู้ใช้ เช่น ถ้ากลุ่มเป้าหมายอยู่ในเอเชียควรเลือก CDN ที่มีเซิร์ฟเวอร์ในเอเชีย

  • ตรวจสอบว่า CDN รองรับการแคชข้อมูลสำหรับไฟล์สื่อและไฟล์ JavaScript ที่มีการใช้งานบ่อย

  • เปิดใช้งานการบีบอัดข้อมูลผ่าน CDN เพื่อลดการใช้แบนด์วิดท์และเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล

 

5. ใช้ธีมและปลั๊กอินที่มีประสิทธิภาพ

การเลือกใช้ธีมและปลั๊กอินที่ออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะธีมและปลั๊กอินบางตัวอาจมีโค้ดที่ไม่จำเป็นและทำให้เว็บไซต์ทำงานช้าลง ควรเลือกธีมและปลั๊กอินที่ได้รับการปรับแต่งให้เบาและเหมาะสมสำหรับการใช้งาน

ข้อควรพิจารณาในการเลือกธีมและปลั๊กอิน:

  • เลือกใช้ธีมที่ได้รับการออกแบบมาให้รองรับการใช้งานบนมือถือและมีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ

  • เลือกใช้ปลั๊กอินที่จำเป็นเท่านั้นและปิดใช้งานปลั๊กอินที่ไม่ได้ใช้

  • ตรวจสอบว่าธีมและปลั๊กอินได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานร่วมกับระบบแคชและ CDN

6. เปิดใช้งาน Gzip Compression เพื่อบีบอัดข้อมูล

Gzip Compression เป็นการบีบอัดข้อมูลเพื่อทำให้ไฟล์ของเว็บไซต์มีขนาดเล็กลง ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ การเปิดใช้งาน Gzip Compression สามารถทำได้ผ่านปลั๊กอินเช่น WP Rocket หรือ W3 Total Cache และยังสามารถตั้งค่าให้เซิร์ฟเวอร์บีบอัดข้อมูลได้เช่นกัน

ขั้นตอนการเปิดใช้งาน Gzip Compression:

  • ใช้ปลั๊กอินที่รองรับการบีบอัดข้อมูล เช่น WP Rocket ที่มีฟีเจอร์ Gzip ในตัว

  • ตั้งค่าให้เซิร์ฟเวอร์รองรับการบีบอัดไฟล์ด้วยการแก้ไขไฟล์ .htaccess หรือปรับตั้งค่าบนแผงควบคุมเซิร์ฟเวอร์

7. ตรวจสอบความเร็วในการโหลดด้วยเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์

การตรวจสอบและวิเคราะห์ความเร็วในการโหลดของเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอช่วยให้คุณสามารถระบุปัญหาและปรับปรุงเว็บไซต์ได้อย่างต่อเนื่อง ควรใช้เครื่องมือวิเคราะห์เช่น Google PageSpeed Insights, GTmetrix หรือ Pingdom เพื่อดูว่าเว็บไซต์มีความเร็วเท่าไรและมีปัญหาอะไรที่ควรปรับปรุง

ประโยชน์ของการใช้เครื่องมือวิเคราะห์:

  • แสดงคะแนนความเร็วในการโหลดและปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานของเว็บไซต์

  • ให้คำแนะนำในการปรับปรุง เช่น การลดขนาดไฟล์ภาพ การตั้งค่าแคช และการลดโค้ดที่ไม่จำเป็น

  • ช่วยตรวจสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์หลังจากปรับปรุงและทำการทดสอบความเร็วเพื่อให้แน่ใจว่าปรับปรุงได้ผล

สรุป

การเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์ไม่เพียงแต่ช่วยลดอัตราการเด้งกลับ แต่ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้แก่ผู้ใช้ ซึ่งส่งผลดีต่อการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับที่ดีบน Google ซึ่งช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น การบีบอัดรูปภาพ การใช้ระบบแคช การลดโค้ดที่ไม่จำเป็น และการใช้ CDN เป็นเทคนิคที่สามารถเริ่มนำไปใช้ได้ทันที ทั้งนี้การปรับปรุงเว็บไซต์เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด

 

Written by
Kant Kant Sunthad
Kant Kant Sunthad

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

13
December, 2024
JS class syntax
13 December, 2024
JS class syntax
เชื่อว่าหลายๆคนที่เขียน javascript กันมา คงต้องเคยสงสัยกันบ้าง ว่า class ที่อยู่ใน js เนี่ย มันคืออะไร แล้วมันมีหน้าที่ต่างกับการประกาศ function อย่างไร? เรามารู้จักกับ class ให้มากขึ้นกันดีกว่า class เปรียบเสมือนกับ blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว ที่สามารถนำไปสร้างเป็นสิ่งของ( object ) ตาม blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว( class ) นั้นๆได้ โดยภายใน class

By

4 mins read
Thai
13
December, 2024
15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
13 December, 2024
15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
ผู้ให้บริการเครือข่ายในสหรัฐฯ ได้เปิดตัว 5G ในหลายรูปแบบ และเช่นเดียวกับผู้ให้บริการเครือข่ายในยุโรปหลายราย แต่… 5G มันคืออะไร และทำไมเราต้องให้ความสนใจ บทความนี้ได้รวบรวม 15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันกำลังจะถูกใช้งานอย่างกว้างขวางขึ้น 1. 5G หรือ Fifth-Generation คือยุคใหม่ของเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายที่จะมาแทนที่ระบบ 4G ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมันไม่ได้ถูกจำกัดแค่มือถือเท่านั้น แต่รวมถึงอุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ 2. 5G คือการพัฒนา 3 ส่วนที่สำคัญที่จะนำมาสู่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ขยายช่องสัญญาณขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ การตอบสนองที่รวดเร็วขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลง ความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่า 1 ในเวลาเดียวกัน 3. สัญญาณ 5G นั้นแตกต่างจากระบบ

By

4 mins read
Thai
13
December, 2024
จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
13 December, 2024
จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
ในปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาษาที่ถูกใช้ในการเขียนเว็บต่าง ๆ นั้น คงหนีไม่พ้นภาษา Javascript ซึ่งเป็นภาษาที่ถูกนำไปพัฒนาเป็น framework หรือ library ต่าง ๆ มากมาย ผู้พัฒนาหลายคนก็มีรูปแบบการเขียนภาษา Javascript ที่แตกต่างกัน เราเลยมีแนวทางการเขียนที่หลากหลาย มาแบ่งปันเพื่อน ๆ เกี่ยวกับการจัดการ Array ด้วยภาษา Javascript กัน เรามาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า โดยปกติแล้วการ copy ค่าจาก value type ธรรมดา สามารถเขียนได้ดังนี้

By

4 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.