16Jun, 2025
Language blog :
Thai
Share blog : 
16 June, 2025
Thai

ออกแบบ UI/UX อย่างไรให้รองรับหลายภาษา

By

2 mins read
ออกแบบ UI/UX อย่างไรให้รองรับหลายภาษา

การพัฒนาเว็บไซต์หลายภาษา (Multilingual Website) ไม่ใช่แค่เรื่องการแปลเนื้อหาเท่านั้น แต่ยังรวมถึง “การออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI)” และ “ประสบการณ์ผู้ใช้ (UX)” ให้สอดคล้องกับลักษณะของแต่ละภาษาอย่างแท้จริง

หลายครั้งที่เว็บไซต์แปลเนื้อหาเสร็จแล้ว แต่พอผู้ใช้สลับภาษา ปรากฏว่า ปุ่มล้น, ข้อความตัดขาด, หรือ เมนูดูย้อนกลับ ซึ่งทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าเว็บไซต์ไม่น่าเชื่อถือ หรือแม้กระทั่งใช้งานไม่ได้เลย

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักแนวทางออกแบบ UI/UX ให้รองรับหลายภาษาได้อย่างมืออาชีพ พร้อมกรณีศึกษาจริงจากเว็บไซต์ e-Commerce ที่ปรับตามหลักการนี้แล้วได้ผลลัพธ์เชิงธุรกิจอย่างชัดเจน

 

ทำไม Multilingual UX ถึงสำคัญ?

ผู้ใช้แต่ละประเทศมีลักษณะภาษา ความยาวของคำ และทิศทางการอ่านต่างกัน การออกแบบโดยยึดเพียงภาษาเดียว (เช่น ภาษาอังกฤษ) แล้วนำไปใช้กับทุกภาษา อาจส่งผลเสียต่อทั้งประสบการณ์และ Conversion

ตัวอย่างปัญหาที่พบบ่อย:

  • คำในบางภาษา (เช่น เยอรมัน หรืออาหรับ) ยาวกว่าภาษาอังกฤษมาก ทำให้ปุ่มหรือป้ายแสดงผลล้นพื้นที่

  • ภาษาอย่างอาหรับหรือฮิบรูอ่านจากขวาไปซ้าย (RTL) ต้องจัดเลย์เอาต์ใหม่ทั้งหน้า

  • การจัดวางปุ่มเปลี่ยนภาษาอยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงยากหรือเข้าใจยากสำหรับผู้ใช้ต่างชาติ

การใส่ใจเรื่อง UI/UX ในแต่ละภาษา คือกุญแจสู่ความสำเร็จของเว็บไซต์ระดับนานาชาติ

 

3 เรื่องสำคัญที่ต้องคิดเมื่อออกแบบ UI/UX ให้รองรับหลายภาษา

1. การจัดวางปุ่มเปลี่ยนภาษา (Language Switcher)

ปุ่มเปลี่ยนภาษาเป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี หากผู้ใช้มองหาไม่เจอหรือใช้งานยาก อาจไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่เหมาะกับเขาได้เลย

แนวทางที่แนะนำ:

  • วางปุ่มเปลี่ยนภาษาไว้มุมขวาบน (หรือซ้ายบนในภาษา RTL)

  • ใช้ชื่อภาษาเต็ม เช่น “ไทย | English” แทนการใช้ธงชาติ ซึ่งอาจสร้างความสับสนในบางกรณี

  • หากมีหลายภาษา ให้จัดกลุ่มเป็น dropdown ที่เข้าถึงง่าย

  • หากระบบตรวจจับภาษาอัตโนมัติ (Auto-detect) ควรมีปุ่มให้ผู้ใช้เปลี่ยนเองได้เสมอ

 

2. ขนาดข้อความและพื้นที่แสดงผล

ข้อความในแต่ละภาษามี “ความยาว” ที่แตกต่างกันมาก เช่น คำว่า “Contact” เมื่อแปลเป็นเยอรมันกลายเป็น “Kontaktaufnahme” ซึ่งยาวกว่าเกือบ 3 เท่า

สิ่งที่ควรทำ:

  • เผื่อพื้นที่ป้ายข้อความ ปุ่ม และเมนู ให้รองรับข้อความที่ยาวขึ้น

  • หลีกเลี่ยงการใช้ fixed width หรือข้อความที่อยู่ในปุ่มแคบ ๆ

  • ทดสอบกับข้อความที่ยาวที่สุด เพื่อดูว่า UI ยังคงสวยและใช้งานได้หรือไม่

  • ใช้ไอคอนร่วมกับข้อความ (เช่น รูปโทรศัพท์ + คำว่า “ติดต่อ”) เพื่อช่วยลดปัญหาความยาว

3. การจัดเรียงเมนูในภาษา RTL (Right-to-Left)

ภาษาเช่น อาหรับ, ฮิบรู, และบางภาษาในอัฟริกา มีรูปแบบการอ่านจากขวาไปซ้าย ดังนั้นหากเว็บไซต์คุณรองรับภาษาเหล่านี้ จำเป็นต้องจัดโครงสร้างหน้าให้พลิกกลับทิศ

การปรับ UX สำหรับภาษา RTL ควรทำดังนี้:

  • ย้ายเมนูหลักไปอยู่ด้านขวา

  • จัดเรียงเนื้อหาและคอลัมน์จากขวาไปซ้าย

  • ปรับตำแหน่งปุ่ม เช่น “ยืนยัน” หรือ “ส่งคำสั่งซื้อ” ไปอยู่ด้านขวา

  • ตรวจสอบว่าทุกไอคอน เช่น ลูกศร กลับทิศทางให้เหมาะสม

 

กรณีศึกษา: เว็บไซต์ e-Commerce ในตะวันออกกลาง

บริษัท e-Commerce รายใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกกลางให้บริการลูกค้าในหลายประเทศ เช่น ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอียิปต์ ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักใช้ภาษาอาหรับเป็นหลัก

ปัญหาเดิม:

  • เว็บไซต์มีปุ่มเปลี่ยนภาษาอยู่ด้านล่างของ footer

  • การสลับเป็นภาษาอาหรับแล้วเมนูยังคงอยู่ซ้ายไปขวา (LTR)

  • ข้อความภาษาอาหรับบางส่วนแสดงผิดทิศทาง หรือแสดงไม่ครบ

แนวทางที่ดำเนินการ:

  • ย้ายปุ่มเปลี่ยนภาษาไปไว้ด้านขวาบน และเปลี่ยนภาษาด้วยปุ่มที่ใช้ชื่อภาษา (AR / EN)

  • เมื่อเลือกภาษาอาหรับ ระบบจัดวาง UI เป็น Right-to-Left ทันที

  • ปรับไอคอนและโครงสร้างเมนูให้เข้ากับการอ่านจากขวาไปซ้าย

  • ทดสอบกับกลุ่มผู้ใช้ที่ใช้ภาษาอาหรับเป็นหลัก

ผลลัพธ์หลังจากปรับ UX:

  • Conversion บนมือถือเพิ่มขึ้น 18% ภายใน 2 เดือน

  • ผู้ใช้งานอยู่ในเว็บไซต์นานขึ้นโดยเฉลี่ย 27%

  • คำชมจากผู้ใช้เพิ่มขึ้นในหัวข้อ “ใช้งานง่ายและรู้สึกเป็นมิตรกับผู้ใช้ภาษาอาหรับ”

สรุป

การออกแบบ UI/UX สำหรับเว็บไซต์หลายภาษา ต้องมากกว่าแค่การ “รองรับการแปล” ต้องเข้าใจธรรมชาติของภาษานั้น ๆ ว่ามีผลต่อการจัดวาง การแสดงผล และพฤติกรรมผู้ใช้อย่างไร

สิ่งที่ควรคำนึงถึง ได้แก่:

  • ปุ่มเปลี่ยนภาษาที่เข้าถึงง่าย

  • การเผื่อพื้นที่สำหรับข้อความที่ยาวขึ้น

  • การจัดเรียงหน้าให้เหมาะสมกับทิศทางของภาษา (LTR/RTL)

หากคุณวางระบบให้ดีตั้งแต่ต้น ไม่เพียงแค่ทำให้เว็บไซต์ดูน่าใช้งาน แต่ยังช่วยเพิ่ม Conversion และความพึงพอใจของผู้ใช้ในแต่ละประเทศได้อย่างแท้จริง

 

Written by
Snooker Nonpawit Limjintanavaragul
Snooker Nonpawit Limjintanavaragul

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

16
June, 2025
UX for Psychology - Loss Aversion (ความกลัวการสูญเสีย)
16 June, 2025
UX for Psychology - Loss Aversion (ความกลัวการสูญเสีย)
หลายคนคงเคยเจอเหตุการต่างๆ บนโลกดิจิทัลที่สามารถนำพาเราไปเสียเงินหรือสมัครใช้บริการได้ง่าย ๆ ทั้งที่ไม่รู้ตัว ลองมาดูกันว่า พวกเขาเหล่านั้น ใช้วิธีหลอกล่อนักชอปอย่างเรากันอย่างไรบ้าง พื้นฐานของคนทั่วไปนั้นไม่อยากที่จะสูญเสียอะไรไป แม้แต่สิ่งที่อาจจะไม่จำเป็น เราอาจจะพบการทำการตลาดในเชิงนี้ได้บ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เราไม่รู้ตัว และอาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อแต่โดนกระตุ้นด้วยข้อมูลที่เรารับมาแบบงง ๆ เช่น Flash sale 40% สินค้าที่มีจำนวนจำกัด นั้นจะน่าสนใจมากกว่าการเดินเจอสินค้าเดียวกันในห้างที่ลดราคา 40% เช่นเดียวกัน ข้อความบนเว็บช็อปปิ้งที่ส่งมาหาคุณว่าสินค้าที่คุณเคยสนใจกำลังลดราคาอยู่ อย่าพลาดโอกาสที่จะซื้อตอนนี้ มักกระตุ้นความต้องการซื้อของเราได้เป็นอย่างดี เพราะเรากลัวที่จะเสียโอกาสดี

By

3 mins read
Thai
16
June, 2025
ทำไม Google Fonts ถึงเป็นทางเลือกที่ดีในการออกแบบเว็บไซต์
16 June, 2025
ทำไม Google Fonts ถึงเป็นทางเลือกที่ดีในการออกแบบเว็บไซต์
แต่ก่อน เวลาที่เว็บไซต์ถูกดีไซน์ด้วยฟอนต์แปลก ๆ หรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะทำให้ผู้ใช้งานบางคนมองไม่เห็น เพราะในเครื่องของผู้ใช้งานไม่มีฟอนต์นั้น ระบบก็จะเลือกเอาฟอนต์อื่นในเครื่องขึ้นมาแสดงผล เห็นเป็นฟอนต์อื่นไป ทำให้ดีไซเนอร์ต้องแก้ปัญหาด้วยการทำรูปแล้วเอามาแปะในเว็บไซต์แทน หรือแม้ว่าจะแสดงผลตามที่ถูกออกแบบมา ความเร็วก็อาจเป็นปัญหาในการโหลดและเข้าถึง เพราะฟอนต์ถูกโหลดจากเซิร์ฟเวอร์ แต่สมัยนี้ไม่มีใครใจเย็นพอที่จะรออะไรนานๆ เพราะจากรายงานระบุว่า 40% ของคนที่เข้าเว็บไซต์ จะออกหรือปิดทันทีถ้ามีการโหลดนานกว่า 3 วินาที โดยเฉพาะนักช็อปออนไลน์เกือบครึ่งที่พร้อมจะหันหลังให้อีคอมเมิร์ซเว็บไซต์ที่โหลดช้ากว่า 2 วินาที และ 79% บอกว่ามีโอกาสที่จะไม่ใช้บริการอีก Google Fonts คืออะไร? (กันแน่) หลายคนคงรู้จัก Google Fonts แต่วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักให้มากขึ้น

By

4 mins read
Thai
16
June, 2025
How Senna Labs helped S&P Food transform their online e-commerce business
16 June, 2025
How Senna Labs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital

By

4 mins read
English

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.