11Jun, 2024
Language blog :
Thai
Share blog : 
11 June, 2024
Thai

AI in Software Development

By

2 mins read
AI in Software Development

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลและความซับซ้อนทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในการเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะผลักดันประสิทธิภาพและนวัตกรรมการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ก้าวสู่จุดสูงสุด งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Stanford University ชี้ให้เห็นว่าการนำ AI เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้ในกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถลดระยะเวลาการพัฒนาได้ถึง 25% เมื่อเทียบกับวิธีการแบบดั้งเดิม

 

ai-in-software-development

ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลอย่างรวดเร็วแม่นยำ การเรียนรู้และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง AI จึงได้รับการผนวกรวมเข้าสู่ทุกขั้นตอนสำคัญของวงจรชีวิตการพัฒนาซอฟต์แวร์ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งการนำระบบไปใช้งานจริงและบำรุงรักษา โดยมีรายละเอียดดังนี้

การวางแผนและกำหนดความต้องการ

ในอดีตการกำหนดความต้องการในการพัฒนาซอฟต์แวร์จำเป็นต้องอาศัยการสำรวจ การสัมภาษณ์ผู้ใช้งานจำนวนมาก และการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ทรัพยากรและเวลามหาศาล อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของ AI ความท้าทายนี้จึงถูกคลี่คลายลงไปมาก

ปัจจุบัน AI สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างครอบคลุมจากแหล่งข้อมูลนานาประการ ไม่ว่าจะเป็นบันทึกการใช้งาน (Usage Logs) ของผู้ใช้งาน ข้อมูลการทำงานของระบบปัจจุบัน (System Telemetry) บทวิจารณ์และคำติชมต่าง ๆ จากช่องทางออนไลน์ รวมถึงข้อมูลแนวโน้มการเติบโตของผู้ใช้งาน ตลาด และอุตสาหกรรม ด้วยการประมวลผลจากปริมาณข้อมูลมหาศาลเหล่านี้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ AI จึงสามารถช่วยระบุความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้งาน องค์กร และตลาดได้อย่างตรงจุดและครบถ้วนสมบูรณ์

หนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จจากการใช้ AI ในขั้นตอนนี้ คือ กรณีของบริษัท Microsoft ที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมจากผู้ใช้งานมากกว่า 16 ล้านคนเพื่อนำมาปรับปรุงคุณสมบัติ (Features) ของซอฟต์แวร์ชุด Office ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น ส่งผลให้ทำยอดขายสามารถสร้างผลกำไรให้กับบริษัทได้กว่า 200 ล้านดอลลาร์

การออกแบบ เมื่อความต้องการได้รับการระบุอย่างชัดเจนแล้ว AI จึงสามารถนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์และเสนอรูปแบบการออกแบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับระบบใหม่ โดยจะพิจารณาจากตัวแปรต่าง ๆ อาทิ ประสิทธิภาพการทำงาน ความปลอดภัย การรักษาความเป็นส่วนตัว รวมถึงความคาดหวังในการใช้งานของผู้ใช้จากข้อมูลที่ระบุไว้ในขั้นตอนก่อนหน้า

นอกจากนี้ ด้วยเทคนิค Machine Learning AI ยังสามารถนำข้อมูลการออกแบบจากโครงการในอดีตมาวิเคราะห์เพื่อค้นหารูปแบบที่ดีที่สุดและเสนอแนวทางการออกแบบที่เหมาะสมที่สุดแบบอัตโนมัติ งานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้จากมหาวิทยาลัย University College London พบว่า AI สามารถออกแบบส่วนต่อประสานกราฟิกหรือ GUI (Graphical User Interface) ให้แก่ซอฟต์แวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ามนุษย์ถึง 3.8 เท่า ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์และคำนวณหาค่าที่เหมาะสมที่สุดจากข้อมูลปริมาณมหาศาล จึงทำให้ AI สามารถออกแบบส่วนต่อประสานที่ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย และสะท้อนความต้องการของผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

การเขียนโค้ด

ภายหลังการวางแผนและการออกแบบที่สมบูรณ์แล้ว จึงเข้าสู่ขั้นตอนของการเขียนโค้ดเพื่อนำความคิดและรูปแบบมาสร้างเป็นระบบจริง ซึ่งในขั้นตอนนี้ AI ก็ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน

ปัจจุบันมีบริษัทนวัตกรรมหลายแห่งพัฒนาเครื่องมือ AI สำหรับช่วยงานในขั้นตอนการเขียนโค้ด โดยสามารถรับคำสั่งจากนักพัฒนาในรูปแบบภาษาธรรมดา แล้วจัดการแปลงให้เป็นโค้ดที่สามารถประมวลผลได้จริงอย่างอัตโนมัติ หนึ่งในตัวอย่างคือ บริษัท Tabnine ผู้พัฒนาเครื่องมือ AI ที่สามารถเร่งความเร็วกระบวนการเขียนโค้ดให้เร็วขึ้นถึง 5.2 เท่าเมื่อเทียบกับนักพัฒนาระดับกลาง  

นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยงานในการตรวจสอบและปรับปรุงโค้ดที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการวิเคราะห์และแก้ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดย AI ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท IBM พบว่าสามารถแก้ไขข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ที่มีความซับซ้อนสูงได้เร็วกว่ามนุษย์ถึง 10 เท่า

การทดสอบ

หลังจากได้โค้ดที่สมบูรณ์แล้ว จึงเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบเพื่อตรวจสอบคุณภาพและประสิทธิภาพการทำงานของระบบก่อนการนำไปใช้งานจริง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากงานวิจัยระบุว่าการทดสอบคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งหรือถึงราว 50% ของต้นทุนทั้งหมดในกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์  

อย่างไรก็ตาม ด้วยขีดความสามารถของ AI ที่สามารถช่วยลดภาระในขั้นตอนนี้ลงไปได้อย่างมาก บริษัท Google เป็นหนึ่งในองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการนำ AI มาใช้เพื่อออกแบบระบบทดสอบแอปพลิเคชันอัตโนมัติสำหรับผลิตภัณฑ์ YouTube ทำให้สามารถตรวจสอบการครอบคลุมของการทดสอบได้ถึง 97% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เพียง 45% เท่านั้น

การดำเนินการและบำรุงรักษา  

หลังจากนำระบบไปใช้งานจริงแล้ว ก็ยังต้องมีการดูแลและติดตามการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาประสิทธิภาพและความมั่นคงปลอดภัยของระบบให้คงอยู่ตลอดช่วงอายุการใช้งาน โดยมีเทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนขั้นตอนนี้เช่นกัน

หนึ่งในกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จคือ บริษัท Biarri ที่ได้นำระบบ AI มาใช้ติดตามและวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันธุรกิจต่างๆ โดย AI จะเฝ้ารวบรวมและประเมินข้อมูลการทำงานแบบเรียลไทม์อย่างละเอียดรอบด้าน เพื่อระบุจุดบกพร่องหรือความผิดปกติ รวมถึงโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพ และสามารถแจ้งเตือนไปยังผู้ดูแลระบบได้ทันท่วงที ทำให้บริษัท Biarri สามารถลดระยะเวลาและต้นทุนในการระบุและแก้ไขปัญหาของแอปพลิเคชันลงได้มากถึง 75% เมื่อเทียบกับการใช้วิธีการแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ AI ยังสามารถใช้ในการคาดการณ์พฤติกรรมและแนวโน้มการใช้งานในอนาคต เพื่อวางแผนการบำรุงรักษาเชิงรุก (Proactive Maintenance) อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การบูรณาการ AI เข้ากับระบบอัตโนมัติในการจัดสรรทรัพยากร (Auto Scaling/Provisioning) ก็นับเป็นอีกหนึ่งประโยชน์สำคัญ เนื่องจาก AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานและประสิทธิภาพการทำงานของระบบได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง จึงสามารถกำหนดการจัดสรรทรัพยากรคอมพิวเตอร์อย่างเหมาะสมที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการที่แปรผันได้อย่างอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพของระบบ พร้อมทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายจากการจัดสรรทรัพยากรมากเกินความจำเป็น

การรักษาความมั่นคงปลอดภัยก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่องค์กรต้องให้ความใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า AI สามารถตรวจจับและป้องกันมัลแวร์ได้ดีกว่ามนุษย์ถึง 60% ด้วยเทคนิคการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง AI สามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์รูปแบบที่นักพัฒนามัลแวร์มักจะใช้เพื่อสร้างมัลแวร์ตัวใหม่ๆ จึงสามารถตรวจจับและระงับมัลแวร์เหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่าวิธีการแบบเดิมมาก โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยรหัสเงื่อนไขหรือการสร้างไวรัสนิรภัย

บทสรุป

ในปัจจุบัน AI ได้กลายเป็นผู้ช่วยเหลือที่สำคัญยิ่งต่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การวางแผนและกำหนดความต้องการ การออกแบบ การเขียนโค้ด การทดสอบ ไปจนถึงการดำเนินการและบำรุงรักษา ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงการเรียนรู้และปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง AI จึงเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยยกระดับประสิทธิภาพและคุณภาพในกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้สูงขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

องค์กรที่สามารถนำ AI มาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงกับความต้องการของตลาดและผู้ใช้งานอย่างแท้จริง ระยะเวลาในการพัฒนาที่รวดเร็วขึ้น คุณภาพที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงการประหยัดต้นทุนได้มากกว่า 25% เมื่อเทียบกับการพัฒนาแบบดั้งเดิม ซึ่งจะเป็นคุณสมบัติที่ช่วยผลักดันให้องค์กรก้าวนำในการสร้างนวัตกรรมและบรรลุความสำเร็จบนเส้นทางการดิจิทัลทรานสฟอร์เมชั่น

Written by
Hussein
Hussein

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

08
September, 2024
JS class syntax
8 September, 2024
JS class syntax
เชื่อว่าหลายๆคนที่เขียน javascript กันมา คงต้องเคยสงสัยกันบ้าง ว่า class ที่อยู่ใน js เนี่ย มันคืออะไร แล้วมันมีหน้าที่ต่างกับการประกาศ function อย่างไร? เรามารู้จักกับ class ให้มากขึ้นกันดีกว่า class เปรียบเสมือนกับ blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว ที่สามารถนำไปสร้างเป็นสิ่งของ( object ) ตาม blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว( class ) นั้นๆได้ โดยภายใน class

By

4 mins read
Thai
08
September, 2024
15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
8 September, 2024
15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
ผู้ให้บริการเครือข่ายในสหรัฐฯ ได้เปิดตัว 5G ในหลายรูปแบบ และเช่นเดียวกับผู้ให้บริการเครือข่ายในยุโรปหลายราย แต่… 5G มันคืออะไร และทำไมเราต้องให้ความสนใจ บทความนี้ได้รวบรวม 15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันกำลังจะถูกใช้งานอย่างกว้างขวางขึ้น 1. 5G หรือ Fifth-Generation คือยุคใหม่ของเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายที่จะมาแทนที่ระบบ 4G ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมันไม่ได้ถูกจำกัดแค่มือถือเท่านั้น แต่รวมถึงอุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ 2. 5G คือการพัฒนา 3 ส่วนที่สำคัญที่จะนำมาสู่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ขยายช่องสัญญาณขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ การตอบสนองที่รวดเร็วขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลง ความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่า 1 ในเวลาเดียวกัน 3. สัญญาณ 5G นั้นแตกต่างจากระบบ

By

4 mins read
Thai
08
September, 2024
จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
8 September, 2024
จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
ในปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาษาที่ถูกใช้ในการเขียนเว็บต่าง ๆ นั้น คงหนีไม่พ้นภาษา Javascript ซึ่งเป็นภาษาที่ถูกนำไปพัฒนาเป็น framework หรือ library ต่าง ๆ มากมาย ผู้พัฒนาหลายคนก็มีรูปแบบการเขียนภาษา Javascript ที่แตกต่างกัน เราเลยมีแนวทางการเขียนที่หลากหลาย มาแบ่งปันเพื่อน ๆ เกี่ยวกับการจัดการ Array ด้วยภาษา Javascript กัน เรามาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า โดยปกติแล้วการ copy ค่าจาก value type ธรรมดา สามารถเขียนได้ดังนี้

By

4 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.