Ahrefs กับ SEMrush: เลือกตัวไหนดีกว่าสำหรับ SEO?

หากคุณกำลังเริ่มต้นทำ SEO หรือกำลังเลือกเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์เว็บไซต์และคู่แข่ง ชื่อแรก ๆ ที่มักจะได้ยินคือ Ahrefs และ SEMrush แต่ทั้งสองเครื่องมือนี้ต่างกันอย่างไร? และตัวไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน?

บทความนี้จะช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

1. จุดเด่นของ Ahrefs

• Backlink Analysis ที่แม่นยำและครอบคลุมที่สุดในตลาด
  
  

• รายงานลิงก์เข้า (Backlink) แบบละเอียด
  
  

• ดูได้ว่าใครลิงก์มาหาคุณ หรือคู่แข่งได้จากโดเมนไหน
  
  

• Keyword Explorer ที่ใช้ง่าย
  
  

• มีข้อมูลจากหลาย Search Engine ทั้ง Google, YouTube, Amazon
  
  

• Site Audit ที่ใช้งานง่าย
  
  

• รายงานสุขภาพเว็บไซต์ พร้อมคำแนะนำการแก้ปัญหา SEO เทคนิค
  
  

• ใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่
  
  

• UI สะอาด เข้าใจง่าย ฟังก์ชันไม่ซับซ้อนเกินไป
  
  

2. จุดเด่นของ SEMrush

• All-in-One ด้าน Digital Marketing
  
  

• ครอบคลุมทั้ง SEO, Google Ads, Social Media และ Content Marketing
  
  

• Keyword Magic Tool
  
  

• ค้นหาคีย์เวิร์ดได้หลากหลายแบบ พร้อมดูปริมาณการค้นหา, ความยาก และคำใกล้เคียง
  
  

• Position Tracking
  
  

• ติดตามอันดับคีย์เวิร์ดแบบรายวันและเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
  
  

• Competitive Research แบบเจาะลึก
  
  

• วิเคราะห์ Traffic ของคู่แข่งได้ละเอียด เช่น แหล่งที่มาของทราฟฟิก, หน้าเด่น, กลุ่มเป้าหมาย
  
  

เปรียบเทียบสั้น ๆ

• ถ้าคุณ โฟกัสที่ SEO และ Backlink → เลือก Ahrefs
  
  

• ถ้าคุณ ทำ Marketing รอบด้าน (SEO + Ads + Content) → เลือก SEMrush
  
  

• ถ้าคุณชอบ UI ที่ใช้งานง่าย สะอาดตา → Ahrefs เหมาะกว่า
  
  

• ถ้าคุณอยากได้ ข้อมูลลึก + วิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ → SEMrush เหมาะกว่า
  
  

กรณีแนะนำจากประสบการณ์ Senna Labs

• สำหรับโปรเจกต์ที่ เน้นแข่งอันดับบน Google และวิเคราะห์ Backlink → ทีมใช้ Ahrefs เพื่อความแม่นยำและประหยัดเวลา
  
  

• สำหรับโปรเจกต์ที่ต้องวางแผน Content Strategy + Paid Campaign → ทีมใช้ SEMrush เพราะเก็บข้อมูลรอบด้านในระบบเดียว
  
  

สรุป

ไม่มีคำว่าตัวไหนดีแบบตายตัว ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ:

• ถ้าเน้น SEO และต้องการวิเคราะห์เว็บของตัวเองกับคู่แข่งแบบรวดเร็ว → เลือก Ahrefs
  
  

• ถ้าอยากได้เครื่องมือที่ช่วยทั้ง SEO, Ads, และ Content ในที่เดียว → เลือก SEMrush
  
  

หากยังตัดสินใจไม่ได้ แนะนำให้ลองใช้เวอร์ชันทดลองฟรีของทั้งสองตัว แล้วค่อยเลือกจากประสบการณ์ใช้งานจริง