hand lt
hand lt
hand lt
18Nov, 2024
Language blog :
Thai
Share blog : 
18 November, 2024
Thai

เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการค้นหาด้วยเสียง

By

2 mins read
เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการค้นหาด้วยเสียง

ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การค้นหาด้วยเสียง (Voice Search) ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากผู้ใช้สามารถใช้คำสั่งเสียงเพื่อค้นหาข้อมูลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว การค้นหาด้วยเสียงมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างจากการค้นหาด้วยข้อความ โดยผู้ใช้มักจะพูดเป็นประโยคคำถามหรือใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติมากกว่า เช่น “หาซื้อของที่ดีในราคาถูกใกล้ฉัน” หรือ “ร้านกาแฟที่ดีที่สุดแถวนี้"

เพื่อให้เว็บไซต์ของเรารองรับการค้นหาด้วยเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรับแต่ง SEO ให้เหมาะสมกับลักษณะการค้นหานี้เป็นสิ่งสำคัญ การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการค้นหาด้วยเสียงไม่เพียงแต่ช่วยให้เว็บไซต์ของเราเข้าถึงผู้ใช้ได้มากขึ้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจของผู้ใช้และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

ทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ในการค้นหาด้วยเสียง

การค้นหาด้วยเสียงมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากการค้นหาด้วยข้อความ ผู้ใช้มักจะถามคำถามที่เป็นประโยคธรรมชาติ ซึ่งมักมีการใช้คำถาม เช่น “ใคร” “อะไร” “ที่ไหน” “เมื่อไหร่” และ “อย่างไร” ตัวอย่างเช่น แทนที่จะค้นหาคำว่า "ร้านกาแฟ" ผู้ใช้ค้นหาด้วยเสียงอาจพูดว่า "ร้านกาแฟที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน" หรือ "ร้านกาแฟที่มี WiFi แรงแถวนี้"

การปรับแต่ง SEO ให้รองรับการค้นหาด้วยเสียงควรพิจารณาการใช้คำหลักและโครงสร้างของเนื้อหาที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถตอบคำถามของผู้ใช้ได้โดยตรง เช่น การใช้ประโยคคำถามในเนื้อหา การใช้คำที่มีความหมายเจาะจง และการเขียนในภาษาที่ผู้ใช้เข้าใจง่าย

 

เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO สำหรับการค้นหาด้วยเสียง

1. ใช้คำหลักที่เป็นประโยคคำถาม

การค้นหาด้วยเสียงส่วนใหญ่เป็นประโยคคำถาม ดังนั้นการใช้คำหลักที่เป็นประโยคคำถามจะช่วยเพิ่มโอกาสที่เว็บไซต์ของเราจะปรากฏในผลการค้นหา ตัวอย่างเช่น:

  • แทนที่จะใช้คำหลักว่า “ร้านอาหารใกล้ฉัน” ควรเปลี่ยนเป็น “ร้านอาหารที่อร่อยและใกล้ฉัน”

  • ใช้คำถามที่เกี่ยวข้องกับคำหลัก เช่น “หาซื้อรองเท้าในราคาถูกที่ไหนดี”

นอกจากนี้ ควรเพิ่ม FAQ หรือคำถามที่พบบ่อย (Frequently Asked Questions) ลงในเว็บไซต์ เพราะคำถามเหล่านี้สามารถตอบคำถามที่ผู้ใช้นิยมค้นหาได้อย่างตรงประเด็น

2. ปรับแต่งเนื้อหาให้เป็นภาษาธรรมชาติและเข้าใจง่าย

การเขียนเนื้อหาที่เป็นธรรมชาติและอ่านเข้าใจง่ายจะช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีความน่าสนใจและเป็นที่นิยมในการค้นหาด้วยเสียง ผู้ใช้มักจะพูดประโยคที่เป็นภาษาธรรมชาติ ดังนั้น การเขียนเนื้อหาที่ตรงกับวิธีการพูดของผู้ใช้จึงมีประโยชน์ต่อการเพิ่มโอกาสในการค้นหา

ตัวอย่างเช่น:

  • ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์ที่ซับซ้อนเกินไป

  • เน้นการตอบคำถามโดยตรง เช่น “คุณสามารถหาซื้อรองเท้าราคาถูกได้ที่ร้านเรา” แทนการเขียนคำว่า “เราขายรองเท้าราคาถูก”

3. ใช้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับท้องถิ่น (Local SEO)

การค้นหาด้วยเสียงมักเกี่ยวข้องกับการค้นหาสถานที่ใกล้เคียง เช่น "ร้านอาหารใกล้ฉัน" หรือ "ร้านขายอุปกรณ์กีฬาใกล้ที่นี่" การใช้เทคนิค Local SEO ช่วยเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับในผลการค้นหาที่เกี่ยวกับสถานที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่เน้นการให้บริการในพื้นที่

การปรับแต่ง Local SEO:

  • เพิ่มข้อมูลธุรกิจใน Google My Business เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและการมองเห็นในพื้นที่

  • ระบุข้อมูลที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และเวลาทำการในเว็บไซต์อย่างชัดเจน

  • ใช้คำหลักที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น เช่น "ร้านกาแฟในกรุงเทพฯ" หรือ "ร้านซ่อมรถใกล้ฉัน"

4. เน้นการใช้คำหลักที่ยาวขึ้น (Long-Tail Keywords)

การใช้คำหลักที่ยาวหรือ Long-Tail Keywords ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการค้นหา โดยเฉพาะเมื่อใช้กับการค้นหาด้วยเสียง ซึ่งมีแนวโน้มที่ผู้ใช้จะใช้คำค้นหาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น แทนที่จะค้นหาคำว่า “มือถือ” อาจจะค้นหาเป็น “มือถือที่มีกล้องดีในราคาถูก”

ตัวอย่างการใช้ Long-Tail Keywords:

  • แทนที่จะใช้คำหลักว่า “ร้านขายรองเท้า” ลองใช้เป็น “ร้านขายรองเท้าผู้หญิงที่ดีและราคาถูก”

  • ใช้คำหลักที่แสดงคุณสมบัติหรือประโยชน์ เช่น “กล้องถ่ายรูปที่เหมาะสำหรับมือใหม่”

5. ปรับเนื้อหาให้ตอบคำถามได้รวดเร็วและชัดเจน

การค้นหาด้วยเสียงมักจะให้คำตอบสั้น ๆ และกระชับ การปรับเนื้อหาให้ตอบคำถามได้อย่างรวดเร็วจะเพิ่มโอกาสที่เว็บไซต์ของเราจะปรากฏในตำแหน่งสูงในการค้นหา ตัวอย่างเช่น ในการตอบคำถามที่ว่า “ร้านเสื้อผ้าผู้หญิงที่ไหนน่าสนใจ” เราอาจให้คำตอบที่รวดเร็ว เช่น “ร้านเรามีเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ที่ตอบโจทย์ผู้หญิงทุกวัย”

เทคนิคในการตอบคำถามอย่างรวดเร็ว:

  • ใช้การเขียนที่กระชับและชัดเจน ตรงประเด็นที่ผู้ใช้ค้นหา

  • เน้นเนื้อหาที่เป็นข้อสรุปหรือประโยคคำตอบที่ตรงประเด็นที่สุดในย่อหน้าแรก

6. ใช้ Markup Schema ในการปรับปรุงโครงสร้างข้อมูล

การใช้ Markup Schema เป็นวิธีที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจข้อมูลบนเว็บไซต์ของเราดีขึ้น เช่น การใช้ Schema FAQ สำหรับคำถามที่พบบ่อย ช่วยให้ Google รู้ว่าเนื้อหาในเว็บไซต์เป็นคำถามและคำตอบ การใช้ Markup Schema ยังช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีโอกาสปรากฏในฟีเจอร์ที่แสดงผลเป็นคำตอบได้ง่ายขึ้น

การใช้ Markup Schema:

  • ใช้ Schema FAQ หรือ How-to สำหรับหน้าเว็บที่มีคำถามหรือคำตอบที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้

  • ใช้ Schema LocalBusiness เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความแม่นยำในการค้นหาธุรกิจในท้องถิ่น

ข้อดีของการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ให้รองรับการค้นหาด้วยเสียง

  1. เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ใช้: การค้นหาด้วยเสียงช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้นและสะดวก โดยเฉพาะในขณะที่ไม่สามารถพิมพ์ข้อความได้

  2. ปรับปรุงการจัดอันดับ SEO: การใช้เทคนิค SEO สำหรับการค้นหาด้วยเสียงช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีโอกาสที่จะปรากฏในตำแหน่งสูงสุดในการค้นหาด้วยเสียง

  3. เพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้: การตอบสนองต่อคำถามที่ผู้ใช้ค้นหาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดี

  4. ช่วยเพิ่มการเข้าชมและ Conversion: เมื่อเว็บไซต์สามารถตอบคำถามของผู้ใช้ได้ทันที จะช่วยให้ผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะเข้าชมเว็บไซต์และทำธุรกรรมมากขึ้น

ข้อสรุป

การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการค้นหาด้วยเสียงเป็นขั้นตอนที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของเรามีการเข้าถึงที่สะดวกยิ่งขึ้น เทคนิคการใช้คำหลักแบบประโยคถาม การเพิ่มคำถามที่พบบ่อย การใช้ Local SEO และการใช้ Markup Schema เป็นวิธีที่ช่วยให้เว็บไซต์ของเราเตรียมพร้อมสำหรับการค้นหาด้วยเสียง ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Written by
Aon Boriwat Jirabanditsakul
Aon Boriwat Jirabanditsakul

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

03
December, 2024
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
3 December, 2024
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
03
December, 2024
Preview email ด้วย Letter Opener
3 December, 2024
Preview email ด้วย Letter Opener
Letter Opener เป็น gem ของ ที่ใช้แสดงรูปแบบของอีเมลที่เราต้องการจะส่ง ก่อนที่จะส่งจริง เพื่อให้ง่ายและไวต่อการทดสอบ Let's Get started... Installation เพิ่ม Gem ใน Gemfile จากนั้นรัน `bundle install` # Gemfile group :development do gem "letter_opener" gem "letter_opener_web", "~> 1.0" end กำหนดการส่งอีเมลโดยใช้ letter_opener (กรณี Production จะใช้เป็น :smtp) # config/environments/development.rb config.action_mailer.delivery_method

By

3 mins read
Thai
03
December, 2024
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
3 December, 2024
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.