UX/UI กับเว็บไซต์บริการทางการเงิน: ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้อย่างไร?

ในโลกดิจิทัลที่การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ ความมั่นใจของผู้ใช้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาเลือกใช้หรือหลีกเลี่ยงบริการทางการเงินออนไลน์ หลายธนาคารและแพลตฟอร์มการเงินพบว่า แม้พวกเขาจะมีฟังก์ชันที่ครบถ้วน แต่หาก UX/UI ออกแบบมาไม่ดี หรือทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่ปลอดภัย อัตราการใช้งานแอปและเว็บไซต์ก็อาจต่ำลง
UX (User Experience) และ UI (User Interface) ที่ดีช่วยให้ ผู้ใช้มั่นใจในความปลอดภัยของระบบ และสามารถทำธุรกรรมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของธนาคาร, ฟินเทค, และบริการชำระเงินออนไลน์
บทความนี้จะอธิบายแนวทางการออกแบบ UX/UI สำหรับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันทางการเงินที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้ พร้อมกรณีศึกษาของ ธนาคารที่ปรับปรุง UX/UI แล้วทำให้อัตราการใช้งานแอปเพิ่มขึ้นถึง 50%
ปัจจัยที่ทำให้ผู้ใช้ขาดความมั่นใจในการใช้บริการทางการเงินออนไลน์
ก่อนที่เราจะไปดูแนวทางการออกแบบ UX/UI ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ เราต้องเข้าใจก่อนว่าผู้ใช้กังวลเกี่ยวกับอะไร
-
กลัวข้อมูลรั่วไหลหรือถูกแฮ็ก – การทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัวและเงินของผู้ใช้ หาก UI ไม่แสดงให้เห็นว่ามีมาตรการป้องกันความปลอดภัย ผู้ใช้จะลังเลในการใช้งาน
-
ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบที่ซับซ้อน – บางแอปหรือเว็บไซต์มีการยืนยันตัวตนที่ยุ่งยาก ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าการเข้าถึงบัญชีของตนเองเป็นเรื่องลำบาก
-
ไม่เข้าใจวิธีใช้ฟังก์ชันสำคัญ – เมนูที่ออกแบบไม่ดี ทำให้ผู้ใช้หาไม่เจอว่าต้องกดตรงไหนเพื่อโอนเงิน ชำระบิล หรือดูรายการธุรกรรม
-
กลัวถูกหลอกลวงหรือฟิชชิ่ง (Phishing) – การออกแบบที่ไม่เป็นมืออาชีพ อาจทำให้ผู้ใช้สงสัยว่าเป็นเว็บไซต์หรือแอปที่ปลอดภัยจริงหรือไม่
แนวทางการออกแบบ UX/UI ที่ช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจในการทำธุรกรรมทางการเงิน
1. ออกแบบการเข้าสู่ระบบให้ปลอดภัยและใช้งานง่าย
การเข้าสู่ระบบเป็นด่านแรกที่ผู้ใช้ต้องพบ UX/UI ควรออกแบบให้ปลอดภัยแต่ไม่ยุ่งยาก
แนวทางการออกแบบ:
-
ใช้ Biometric Authentication เช่น Face ID หรือ Fingerprint Login เพื่อให้การเข้าสู่ระบบเร็วขึ้นและปลอดภัย
-
มีระบบ Two-Factor Authentication (2FA) ที่เข้าใจง่าย เช่น การส่ง OTP ผ่าน SMS หรือแอปพลิเคชัน
-
แสดง ไอคอนล็อค (🔒) และข้อความแจ้งเตือนว่าการเข้าสู่ระบบมีการเข้ารหัส เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้
ผลลัพธ์ที่ได้:
-
ผู้ใช้รู้สึกปลอดภัยในการเข้าสู่ระบบ
-
ลดอัตราการหลงลืมรหัสผ่าน เพราะสามารถใช้ Biometric Login ได้
2. ใช้สีและไอคอนที่สื่อถึงความปลอดภัย
สีและไอคอน มีผลต่อจิตวิทยาของผู้ใช้ การออกแบบให้แอปหรือเว็บไซต์ดู มั่นคงและปลอดภัย สามารถช่วยลดความกังวลของผู้ใช้ได้
แนวทางการออกแบบ:
-
ใช้ โทนสีที่ให้ความรู้สึกมั่นใจ เช่น สีน้ำเงินเข้ม หรือสีเขียว ซึ่งมักใช้กับแพลตฟอร์มทางการเงิน
-
เพิ่ม ไอคอนที่สื่อถึงความปลอดภัย เช่น ไอคอนกุญแจ ไอคอนล็อค ไอคอน Shield (โล่)
-
ใช้ ข้อความที่ช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจ เช่น
-
"เว็บไซต์นี้ปลอดภัย ได้รับการเข้ารหัส SSL"
-
"ธุรกรรมของคุณได้รับการคุ้มครอง"
ผลลัพธ์ที่ได้:
-
ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าข้อมูลของตนปลอดภัย
-
ลดความลังเลในการทำธุรกรรม
3. ออกแบบ UI ให้เข้าใจง่าย ลดความซับซ้อน
ผู้ใช้ต้องสามารถทำธุรกรรมที่สำคัญ เช่น โอนเงิน ชำระบิล หรือดูยอดคงเหลือ ได้ภายในไม่กี่คลิก
แนวทางการออกแบบ:
-
ใช้ Navigation ที่เข้าใจง่าย เช่น แยกหมวดหมู่ชัดเจนว่าเป็น "โอนเงิน" "ชำระบิล" "ตรวจสอบยอดเงิน"
-
เพิ่ม Quick Actions หรือเมนูลัดสำหรับฟังก์ชันที่ใช้บ่อย
-
ใช้ Typography และฟอนต์ที่อ่านง่าย ไม่ใช้ตัวหนังสือเล็กเกินไป
-
เพิ่ม ระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ เช่น "คุณมีบิลค้างชำระ ต้องการจ่ายตอนนี้หรือไม่?"
ผลลัพธ์ที่ได้:
-
ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้เร็วขึ้น
-
ลดปัญหาการติดต่อ Call Center เพื่อขอความช่วยเหลือ
4. ใช้ระบบแจ้งเตือนเพื่อสร้างความมั่นใจ
หากไม่มีการแจ้งเตือนที่เหมาะสม ผู้ใช้อาจกังวลว่าธุรกรรมสำเร็จหรือไม่
แนวทางการออกแบบ:
-
เพิ่ม Push Notification หรือ SMS แจ้งเตือน ทุกครั้งที่มีธุรกรรม
-
แสดงข้อความยืนยันทันที เช่น "โอนเงินสำเร็จ! หมายเลขธุรกรรม 123456"
-
ให้ผู้ใช้สามารถ ตั้งค่าการแจ้งเตือนเอง ได้ เช่น แจ้งเตือนเมื่อบัญชีถูกเข้าถึงจากอุปกรณ์ใหม่
ผลลัพธ์ที่ได้:
-
ลดความกังวลของผู้ใช้เกี่ยวกับสถานะธุรกรรม
-
เพิ่มความโปร่งใสของระบบ
กรณีศึกษา: ธนาคารที่ปรับ UX/UI ให้ปลอดภัยและใช้งานง่าย
ปัญหาที่พบก่อนการปรับปรุง UX/UI
ธนาคารแห่งหนึ่งพบว่า อัตราการใช้งานแอปลดลง เนื่องจากปัญหาต่อไปนี้:
-
ผู้ใช้ไม่มั่นใจในความปลอดภัยของแอป
-
กระบวนการเข้าสู่ระบบยุ่งยาก ต้องกรอกรหัสผ่านหลายขั้นตอน
-
อินเทอร์เฟซซับซ้อน ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถหาเมนูที่ต้องการได้ง่าย
แนวทางการปรับปรุง UX/UI
-
เพิ่ม Biometric Authentication ให้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่ระบบได้ง่ายขึ้น
-
ใช้สีและไอคอนที่สื่อถึงความปลอดภัย เช่น สีฟ้า-เขียว และไอคอนล็อค
-
ปรับปรุง Navigation และ UI ให้ผู้ใช้สามารถโอนเงินหรือชำระบิลได้ใน 2 คลิก
-
เพิ่มการแจ้งเตือนธุรกรรมแบบเรียลไทม์ ผ่าน SMS และ Push Notification
ผลลัพธ์หลังการปรับปรุง UX/UI
-
อัตราการใช้งานแอปเพิ่มขึ้น 50%
-
จำนวนผู้ใช้ที่เปิดใช้งาน Biometric Login เพิ่มขึ้น 70%
-
เวลาที่ใช้ในการทำธุรกรรมลดลง 40%
-
ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก 3.5 เป็น 4.7 ดาว
สรุป
UX/UI ที่ดีช่วยทำให้ผู้ใช้มั่นใจในความปลอดภัยของบริการทางการเงิน และสามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น การออกแบบที่ดีควร:
-
มีระบบล็อกอินที่ปลอดภัยแต่ไม่ซับซ้อน
-
ใช้สีและไอคอนที่ช่วยสร้างความมั่นใจ
-
ออกแบบให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมได้ง่าย
-
มีระบบแจ้งเตือนที่โปร่งใส
กรณีศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า UX/UI ที่ดีสามารถช่วยเพิ่มการใช้งานแอปการเงิน และสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates
Other articles for you



Let’s build digital products that are simply awesome !
We will get back to you within 24 hours!Go to contact us








