UX/UI กับการออกแบบเว็บไซต์องค์กรให้เป็นมืออาชีพ

ในยุคดิจิทัล เว็บไซต์องค์กร ไม่ใช่แค่เครื่องมือประชาสัมพันธ์แบรนด์อีกต่อไป แต่เป็นช่องทางสำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น การดึงดูดลูกค้าใหม่, การสร้างความน่าเชื่อถือ, หรือการเพิ่ม Conversion Rate (อัตราการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้า)
อย่างไรก็ตาม หลายองค์กรพบว่าเว็บไซต์ของตน ไม่ได้สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่คาดหวัง เช่น มีจำนวนผู้เข้าชมสูงแต่ไม่มีการสมัครใช้งาน หรือไม่มีการกดปุ่ม “ขอใบเสนอราคา” หรือ “ติดต่อเรา” ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจาก UX (User Experience) และ UI (User Interface) ที่ออกแบบมาไม่ดี
บทความนี้จะอธิบาย แนวทางการออกแบบ UX/UI สำหรับเว็บไซต์องค์กรให้ดูมืออาชีพ พร้อมกรณีศึกษาของ บริษัทซอฟต์แวร์ที่ปรับ UX/UI จนทำให้ Conversion Rate เพิ่มขึ้น 30%
ปัญหาที่พบบ่อยในเว็บไซต์องค์กรที่ UX/UI ไม่ดี
-
หน้าเว็บไม่มีจุดเด่นหรือเรียบเกินไป – ไม่มีองค์ประกอบที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้ดำเนินการ เช่น Call to Action (CTA)
-
แบบฟอร์มซับซ้อนเกินไป – แบบฟอร์มที่ยาวและต้องกรอกข้อมูลเยอะเกินไป ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องการสมัครหรือติดต่อ
-
เว็บไซต์ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ – ไม่มี Trust Signals เช่น รีวิวจากลูกค้า โลโก้พาร์ทเนอร์ หรือรางวัลที่ได้รับ
-
โครงสร้างเนื้อหายุ่งเหยิง – ผู้เข้าชมไม่สามารถหา ข้อมูลสำคัญ ได้ง่าย
-
เว็บไซต์โหลดช้าและไม่รองรับมือถือ – ทำให้ผู้ใช้ไม่อยากใช้งานต่อ
แนวทางการออกแบบ UX/UI ให้เว็บไซต์องค์กรดูมืออาชีพและเพิ่ม Conversion Rate
1. ปรับปรุงหน้า Landing Page ให้มีโครงสร้างที่ชัดเจน
ปัญหา: หน้าแรกของเว็บไซต์ไม่มีจุดดึงดูด ทำให้ผู้ใช้ไม่สนใจคลิกไปยังหน้าสำคัญ
แนวทางแก้ไข:
-
ใช้ โครงสร้างที่เรียบง่าย แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก:
-
Headline ดึงดูดใจ ที่อธิบายว่าองค์กรทำอะไร
-
ประโยชน์ของสินค้า/บริการ ที่ตอบโจทย์ลูกค้า
-
Call to Action (CTA) ที่โดดเด่น เช่น “ขอใบเสนอราคา” หรือ “ติดต่อเรา”
-
ใช้ ภาพหรือวิดีโอที่ช่วยสื่อสารแบรนด์ แทนข้อความยาวๆ
ผลลัพธ์ที่ได้:
-
Bounce Rate ลดลง 25%
-
ผู้เข้าชมมีแนวโน้มเลื่อนลงอ่านเนื้อหาต่อมากขึ้น
2. ปรับแบบฟอร์มให้สั้นลงและใช้งานง่าย
ปัญหา: ผู้ใช้ไม่กด “ขอใบเสนอราคา” เพราะแบบฟอร์มยาวเกินไป
แนวทางแก้ไข:
-
ลดฟิลด์ที่ต้องกรอกให้เหลือ เฉพาะข้อมูลที่จำเป็น เช่น ชื่อ อีเมล และความต้องการของลูกค้า
-
ใช้ ระบบ Auto-fill เพื่อให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเร็วขึ้น
-
ใช้ Progress Indicator ถ้าจำเป็นต้องใช้แบบฟอร์มหลายขั้นตอน
ผลลัพธ์ที่ได้:
-
จำนวนผู้ส่งแบบฟอร์มเพิ่มขึ้น 40%
-
เวลาที่ใช้ในการกรอกแบบฟอร์มลดลง 50%
3. เพิ่ม Trust Signals เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ปัญหา: ผู้เข้าชมไม่มั่นใจในองค์กร จึงไม่ดำเนินการต่อ
แนวทางแก้ไข:
-
เพิ่ม รีวิวจากลูกค้าหรือคำรับรองจากผู้ใช้จริง
-
แสดง โลโก้บริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์ หรือรางวัลที่ได้รับ
-
ใส่ Case Study หรือ Testimonials เพื่อแสดงความสำเร็จของลูกค้า
ผลลัพธ์ที่ได้:
-
ผู้ใช้มีแนวโน้มติดต่อบริษัทมากขึ้น 30%
-
เวลาที่ผู้ใช้ใช้บนเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 15%
4. ออกแบบ CTA ให้โดดเด่นและกระตุ้นให้ผู้ใช้ดำเนินการ
ปัญหา: ปุ่ม “ขอใบเสนอราคา” ไม่ชัดเจน ทำให้ไม่มีคนกด
แนวทางแก้ไข:
-
ใช้ CTA ที่ชัดเจนและสั้น เช่น “ขอใบเสนอราคา ฟรี”
-
วาง CTA ในตำแหน่งที่มองเห็นง่าย เช่น ด้านบนของหน้าเว็บและท้ายบทความ
-
ใช้ สีที่ตัดกับพื้นหลัง เพื่อดึงดูดสายตา
ผลลัพธ์ที่ได้:
-
อัตราการคลิก (CTR) เพิ่มขึ้น 35%
-
Conversion Rate เพิ่มขึ้น 30%
5. ปรับปรุงการแสดงผลให้รองรับมือถือและโหลดเร็วขึ้น
ปัญหา: เว็บไซต์โหลดช้า และไม่รองรับการใช้งานบนมือถือ
แนวทางแก้ไข:
-
ใช้ Responsive Design ให้เว็บไซต์แสดงผลได้ดีบนทุกอุปกรณ์
-
ลดขนาดไฟล์ภาพและใช้ Lazy Loading เพื่อลดเวลาโหลดหน้าเว็บ
-
ใช้ Content Delivery Network (CDN) เพื่อช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้:
-
เวลาที่ใช้ในการโหลดหน้าเว็บลดลง 40%
-
ผู้ใช้ที่เข้าชมจากมือถือเพิ่มขึ้น 20%
กรณีศึกษา: บริษัทซอฟต์แวร์ที่ปรับ UX/UI เพื่อเพิ่ม Conversion Rate
ปัญหาที่พบก่อนการปรับปรุง UX/UI
บริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่งพบว่า มีผู้เข้าชมเว็บไซต์จำนวนมาก แต่มีคนกดปุ่ม “ขอใบเสนอราคา” น้อยมาก ปัญหาหลักที่พบ ได้แก่:
-
แบบฟอร์มขอใบเสนอราคาใช้เวลานานเกินไป
-
Call to Action ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ใช้มองไม่เห็น
-
เว็บไซต์ขาดความน่าเชื่อถือ ไม่มีรีวิวจากลูกค้าหรือ Case Study
การปรับปรุง UX/UI เพื่อเพิ่ม Conversion Rate
-
ปรับโครงสร้างหน้า Landing Page ให้เน้นคุณค่าของซอฟต์แวร์
-
ลดฟิลด์ของแบบฟอร์มลง 50% เพื่อให้กรอกข้อมูลได้ง่ายขึ้น
-
เพิ่มรีวิวจากลูกค้าและ Trust Signals เพื่อสร้างความมั่นใจ
-
ทำให้ CTA ชัดเจนขึ้น โดยใช้สีที่โดดเด่นและวางในตำแหน่งที่เห็นได้ง่าย
-
เพิ่มความเร็วเว็บไซต์และรองรับมือถือเต็มรูปแบบ
ผลลัพธ์หลังการปรับปรุง UX/UI
-
Conversion Rate เพิ่มขึ้น 30%
-
อัตราการกรอกแบบฟอร์มเพิ่มขึ้น 40%
-
Bounce Rate ลดลง 25%
-
เวลาที่ใช้ในการโหลดหน้าเว็บลดลง 40%
สรุป
UX/UI ที่ดีช่วยทำให้เว็บไซต์องค์กร มีความน่าเชื่อถือ ดูเป็นมืออาชีพ และเพิ่ม Conversion Rate ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยสำคัญที่ควรปรับปรุง ได้แก่:
-
ปรับโครงสร้าง Landing Page ให้เรียบง่าย และมี CTA ที่ชัดเจน
-
ลดจำนวนฟิลด์ของแบบฟอร์มให้เหลือเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น
-
เพิ่ม Trust Signals เช่น รีวิวจากลูกค้า และโลโก้พาร์ทเนอร์
-
ออกแบบ CTA ให้โดดเด่นและใช้งานง่าย
-
ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นและรองรับการใช้งานบนมือถือ
กรณีศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า UX/UI ที่ดีช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่ม Conversion Rate และทำให้เว็บไซต์องค์กรเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการดึงดูดลูกค้าใหม่


Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates
Other articles for you



Let’s build digital products that are simply awesome !
We will get back to you within 24 hours!Go to contact us








