24Mar, 2025
Language blog :
Thai
Share blog : 
24 March, 2025
Thai

UX/UI สำหรับ E-commerce: ทำให้ผู้ใช้ค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้น

By

2 mins read
UX/UI สำหรับ E-commerce: ทำให้ผู้ใช้ค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้น

แพลตฟอร์ม E-commerce หรือมาร์เก็ตเพลสที่มี UX/UI ที่ดีช่วยให้ทั้ง ผู้ซื้อและผู้ขายใช้งานได้ง่ายขึ้น หนึ่งในปัญหาหลักของแพลตฟอร์ม E-commerce คือ การค้นหาสินค้าที่ซับซ้อน และการใช้งานระบบสำหรับผู้ขายที่ยุ่งยาก ส่งผลให้ทั้งลูกค้าและผู้ขายลดการมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์ม

UX (User Experience) และ UI (User Interface) ที่ดีสามารถช่วยให้ ลูกค้าค้นหาสินค้าได้เร็วขึ้น และช่วยให้ ผู้ขายจัดการสินค้าของตนเองได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณสินค้าที่ลงขายและทำให้แพลตฟอร์มเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในบทความนี้ เราจะอธิบายแนวทาง การออกแบบ UX/UI สำหรับ E-commerce ที่ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้น พร้อมกรณีศึกษาของ มาร์เก็ตเพลสที่สามารถเพิ่มจำนวนผู้ขายที่ลงสินค้าครบถ้วนได้ถึง 70%

ปัญหาหลักของแพลตฟอร์ม E-commerce ที่มี UX/UI ไม่ดี

  1. ระบบค้นหาสินค้าไม่มีประสิทธิภาพ – ลูกค้าต้องใช้เวลามากในการค้นหาสินค้าที่ต้องการ

  2. ตัวกรอง (Filter) ใช้งานยาก – ลูกค้าไม่สามารถปรับแต่งตัวกรองสินค้าได้ตามต้องการ

  3. กระบวนการสมัครและลงขายของผู้ขายซับซ้อน – ผู้ขายสมัครใช้งานแล้ว แต่ไม่สามารถลงสินค้าได้ง่าย

  4. ไม่มี Dashboard ที่ช่วยติดตามยอดขายและคำสั่งซื้อ – ทำให้ผู้ขายขาดข้อมูลที่จำเป็นในการจัดการร้านค้า

  5. เว็บไซต์โหลดช้า – ลูกค้าต้องรอนาน ทำให้พวกเขาออกจากแพลตฟอร์มก่อนทำการสั่งซื้อ

 

แนวทางการออกแบบ UX/UI ที่ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้น

1. ปรับปรุงระบบค้นหาสินค้าให้รวดเร็วและแม่นยำ

ปัญหา: ลูกค้าต้องเลื่อนหาสินค้าเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความยุ่งยาก

แนวทางแก้ไข:

  • ใช้ AI และ Machine Learning เพื่อแนะนำสินค้าโดยอิงจากพฤติกรรมการค้นหา

  • เพิ่ม Auto-Suggestion ให้แสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ในช่องค้นหา

  • ออกแบบ Search Bar ให้โดดเด่น และวางในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่าย

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • ผู้ใช้สามารถค้นหาสินค้าได้เร็วขึ้น ลดเวลาการค้นหาลง 50%

  • เพิ่มอัตราการกดค้นหาสินค้า ขึ้น 30%

 

2. ปรับปรุงระบบตัวกรอง (Filter) และการจัดหมวดหมู่สินค้า

ปัญหา: ตัวกรองสินค้าใช้งานยาก และแสดงผลลัพธ์ที่ไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า

แนวทางแก้ไข:

  • ออกแบบ ตัวกรองสินค้าแบบ Dynamic ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามประเภทสินค้า

  • เพิ่ม Filter ที่ละเอียดขึ้น เช่น การกรองตามยี่ห้อ, ราคา, รีวิวจากลูกค้า

  • ใช้ Tagging System เพื่อให้สินค้าสามารถถูกค้นหาได้จากหลายหมวดหมู่

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • อัตราการใช้ตัวกรองสินค้าเพิ่มขึ้น 45%

  • ลูกค้าพบสินค้าที่ต้องการได้เร็วขึ้น ลดเวลาเฉลี่ยจาก 3 นาที เหลือ 1.5 นาที

 

3. ปรับปรุงระบบ Onboarding สำหรับผู้ขายให้ใช้งานง่าย

ปัญหา: ผู้ขายสมัครใช้งานแล้วแต่ไม่สามารถลงสินค้าได้ง่าย ทำให้แพลตฟอร์มมีจำนวนสินค้าต่ำ

แนวทางแก้ไข:

  • ปรับ Onboarding Flow ให้สั้นลง โดยใช้ระบบ Step-by-Step Guide

  • เพิ่ม AI-powered Product Upload ให้ผู้ขายสามารถอัปโหลดสินค้าโดยใช้ข้อมูลที่กรอกอัตโนมัติ

  • แสดง Progress Bar ให้ผู้ขายเห็นว่าเหลือขั้นตอนใดบ้าง

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • จำนวนผู้ขายที่ลงสินค้าครบถ้วนเพิ่มขึ้น 70%

  • ลดเวลาที่ใช้ในการลงสินค้าครั้งแรกลง 40%

 

4. เพิ่ม Dashboard สำหรับผู้ขายเพื่อติดตามยอดขายและคำสั่งซื้อ

ปัญหา: ผู้ขายไม่มีข้อมูลที่ช่วยให้บริหารร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางแก้ไข:

  • เพิ่ม Dashboard ที่แสดงข้อมูลยอดขาย, คำสั่งซื้อ, สินค้าคงคลัง

  • ใช้ Data Visualization เช่น กราฟสรุปยอดขายแบบเรียลไทม์

  • เพิ่ม ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ สำหรับออเดอร์ใหม่หรือสินค้าที่ขายดี

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • ผู้ขายสามารถบริหารร้านค้าได้ดีขึ้น อัตราการตอบสนองคำสั่งซื้อเร็วขึ้น 50%

  • อัตราการอัปเดตสต็อกสินค้าดีขึ้น เพิ่มขึ้น 60%

 

5. ปรับปรุงความเร็วของเว็บไซต์ให้โหลดเร็วขึ้น

ปัญหา: เว็บไซต์โหลดช้า ทำให้ลูกค้าออกจากแพลตฟอร์มก่อนทำการสั่งซื้อ

แนวทางแก้ไข:

  • ใช้ Lazy Loading ให้โหลดเฉพาะสินค้าที่ผู้ใช้กำลังดู

  • ใช้ CDN (Content Delivery Network) เพื่อลดเวลาการโหลด

  • บีบอัดรูปภาพให้มีขนาดเล็กลงโดยไม่ลดคุณภาพ

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • เวลาโหลดหน้าเว็บลดลง จาก 5 วินาที เหลือ 2 วินาที

  • ลดอัตราการออกจากเว็บไซต์ (Bounce Rate) ลง 35%

 

กรณีศึกษา: มาร์เก็ตเพลสที่ปรับ UX/UI เพื่อลดความซับซ้อน

ปัญหาที่พบก่อนการปรับปรุง UX/UI

แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสแห่งหนึ่งพบว่า ผู้ขายสมัครใช้งานแต่ไม่อัปโหลดสินค้า ส่งผลให้เกิดปัญหาดังนี้:

  • ระบบ Onboarding ซับซ้อน ทำให้ผู้ขายไม่สามารถลงสินค้าได้สะดวก

  • ไม่มี Dashboard ที่ช่วยติดตามยอดขาย ทำให้ผู้ขายขาดข้อมูลที่จำเป็น

  • ระบบค้นหาสินค้าสำหรับลูกค้าใช้งานยาก ทำให้ลูกค้าหาสินค้าไม่พบ

 

การปรับปรุง UX/UI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม

  1. ปรับปรุงระบบค้นหาสินค้า ให้มี Auto-Suggestion และ Filter ที่ใช้งานง่าย

  2. เพิ่มระบบ Onboarding สำหรับผู้ขาย ให้สามารถลงสินค้าได้ง่ายและเร็วขึ้น

  3. ออกแบบ Dashboard สำหรับผู้ขาย ให้สามารถติดตามยอดขายได้แบบเรียลไทม์

  4. เพิ่มความเร็วของเว็บไซต์ เพื่อลดปัญหาการโหลดช้า

 

ผลลัพธ์หลังการปรับปรุง UX/UI

  • จำนวนผู้ขายที่ลงสินค้าครบถ้วนเพิ่มขึ้น 70%

  • อัตราการใช้ระบบค้นหาสินค้าเพิ่มขึ้น 30%

  • เวลาที่ใช้ในการค้นหาสินค้าของลูกค้าลดลง 50%

  • ยอดขายรวมของแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น 25%

 

สรุป

UX/UI ที่ดีสามารถช่วยให้แพลตฟอร์ม E-commerce เพิ่มยอดขายและเพิ่ม Engagement ของผู้ใช้ โดยปรับปรุง:

  • ระบบค้นหาสินค้าให้แม่นยำและรวดเร็ว

  • ปรับปรุงตัวกรองสินค้าให้ใช้งานง่าย

  • ทำให้การลงขายของผู้ขายเป็นเรื่องง่าย

  • ออกแบบ Dashboard ให้ช่วยให้ผู้ขายบริหารร้านค้าได้ดีขึ้น

  • ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นเพื่อลด Bounce Rate

กรณีศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า UX/UI ที่ดีช่วยให้แพลตฟอร์มเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มความพึงพอใจของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

Written by
Snooker Nonpawit Limjintanavaragul
Snooker Nonpawit Limjintanavaragul

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

01
April, 2025
UX for Psychology - Loss Aversion (ความกลัวการสูญเสีย)
1 April, 2025
UX for Psychology - Loss Aversion (ความกลัวการสูญเสีย)
หลายคนคงเคยเจอเหตุการต่างๆ บนโลกดิจิทัลที่สามารถนำพาเราไปเสียเงินหรือสมัครใช้บริการได้ง่าย ๆ ทั้งที่ไม่รู้ตัว ลองมาดูกันว่า พวกเขาเหล่านั้น ใช้วิธีหลอกล่อนักชอปอย่างเรากันอย่างไรบ้าง พื้นฐานของคนทั่วไปนั้นไม่อยากที่จะสูญเสียอะไรไป แม้แต่สิ่งที่อาจจะไม่จำเป็น เราอาจจะพบการทำการตลาดในเชิงนี้ได้บ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เราไม่รู้ตัว และอาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อแต่โดนกระตุ้นด้วยข้อมูลที่เรารับมาแบบงง ๆ เช่น Flash sale 40% สินค้าที่มีจำนวนจำกัด นั้นจะน่าสนใจมากกว่าการเดินเจอสินค้าเดียวกันในห้างที่ลดราคา 40% เช่นเดียวกัน ข้อความบนเว็บช็อปปิ้งที่ส่งมาหาคุณว่าสินค้าที่คุณเคยสนใจกำลังลดราคาอยู่ อย่าพลาดโอกาสที่จะซื้อตอนนี้ มักกระตุ้นความต้องการซื้อของเราได้เป็นอย่างดี เพราะเรากลัวที่จะเสียโอกาสดี

By

3 mins read
Thai
01
April, 2025
ทำไม Google Fonts ถึงเป็นทางเลือกที่ดีในการออกแบบเว็บไซต์
1 April, 2025
ทำไม Google Fonts ถึงเป็นทางเลือกที่ดีในการออกแบบเว็บไซต์
แต่ก่อน เวลาที่เว็บไซต์ถูกดีไซน์ด้วยฟอนต์แปลก ๆ หรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะทำให้ผู้ใช้งานบางคนมองไม่เห็น เพราะในเครื่องของผู้ใช้งานไม่มีฟอนต์นั้น ระบบก็จะเลือกเอาฟอนต์อื่นในเครื่องขึ้นมาแสดงผล เห็นเป็นฟอนต์อื่นไป ทำให้ดีไซเนอร์ต้องแก้ปัญหาด้วยการทำรูปแล้วเอามาแปะในเว็บไซต์แทน หรือแม้ว่าจะแสดงผลตามที่ถูกออกแบบมา ความเร็วก็อาจเป็นปัญหาในการโหลดและเข้าถึง เพราะฟอนต์ถูกโหลดจากเซิร์ฟเวอร์ แต่สมัยนี้ไม่มีใครใจเย็นพอที่จะรออะไรนานๆ เพราะจากรายงานระบุว่า 40% ของคนที่เข้าเว็บไซต์ จะออกหรือปิดทันทีถ้ามีการโหลดนานกว่า 3 วินาที โดยเฉพาะนักช็อปออนไลน์เกือบครึ่งที่พร้อมจะหันหลังให้อีคอมเมิร์ซเว็บไซต์ที่โหลดช้ากว่า 2 วินาที และ 79% บอกว่ามีโอกาสที่จะไม่ใช้บริการอีก Google Fonts คืออะไร? (กันแน่) หลายคนคงรู้จัก Google Fonts แต่วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักให้มากขึ้น

By

4 mins read
Thai
01
April, 2025
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
1 April, 2025
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital

By

4 mins read
English

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.