hand lt
hand lt
hand lt
06Nov, 2024
Language blog :
Thai
Share blog : 
06 November, 2024
Thai

การใช้เทคโนโลยี Chatbot บนเว็บไซต์เพื่อเพิ่มการตอบกลับที่รวดเร็ว

By

2 mins read
การใช้เทคโนโลยี Chatbot บนเว็บไซต์เพื่อเพิ่มการตอบกลับที่รวดเร็ว

การใช้ Chatbot บนเว็บไซต์กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าออนไลน์ โดยเฉพาะในยุคที่ลูกค้าคาดหวังการตอบกลับที่รวดเร็ว Chatbot สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องรอทีมบริการลูกค้า ซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

บทความนี้จะนำเสนอประโยชน์ของ Chatbot ในการให้บริการลูกค้า รวมถึงขั้นตอนและวิธีการตั้งค่า Chatbot เพื่อให้สามารถตอบคำถามเบื้องต้นและช่วยงานทีมบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำความรู้จักกับ Chatbot

Chatbot คือโปรแกรมที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสื่อสารและโต้ตอบกับผู้ใช้งาน โดยสามารถตอบคำถามและให้ข้อมูลที่ลูกค้าต้องการได้อย่างรวดเร็ว Chatbot มักจะถูกติดตั้งบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการและข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเว็บไซต์บริการที่พักแห่งหนึ่งที่เพิ่ม Chatbot เข้ามาเพื่อตอบคำถามเบื้องต้นเกี่ยวกับการจองห้องพัก สถานที่ตั้ง สิ่งอำนวยความสะดวก และเงื่อนไขการยกเลิกการจอง ช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอให้ทีมงานตอบคำถาม ทำให้ลูกค้าประทับใจและช่วยลดภาระงานของทีมบริการลูกค้าได้อย่างมาก

 

ประโยชน์ของการใช้ Chatbot บนเว็บไซต์

Chatbot ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าในหลายด้าน ซึ่งมีข้อดีที่สำคัญดังนี้:

1. เพิ่มความเร็วในการตอบกลับ

Chatbot สามารถตอบกลับคำถามของลูกค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคิว ซึ่งเป็นการเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ ทำให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจในการรับบริการจากเว็บไซต์ นอกจากนี้การตอบคำถามที่รวดเร็วช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกรณีของธุรกิจที่ต้องการให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการอย่างรวดเร็ว

2. ลดภาระงานของทีมบริการลูกค้า

การใช้ Chatbot ช่วยแบ่งเบาภาระงานของทีมบริการลูกค้า โดยเฉพาะการตอบคำถามที่พบบ่อยหรือคำถามที่สามารถตอบได้ด้วยข้อมูลเบื้องต้น เช่น เวลาทำการ ที่ตั้ง หรือข้อมูลผลิตภัณฑ์ เมื่อ Chatbot ช่วยตอบคำถามเหล่านี้ ทีมบริการลูกค้าจะสามารถใช้เวลาไปโฟกัสกับงานที่ซับซ้อนหรือให้บริการลูกค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษได้ดียิ่งขึ้น

3. ให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Chatbot สามารถทำงานได้ตลอดเวลา ซึ่งช่วยให้เว็บไซต์สามารถให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเพิ่มทีมงาน ทำให้ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลได้ทุกเวลาแม้จะเป็นช่วงเวลานอกการทำงาน การให้บริการอย่างต่อเนื่องเช่นนี้มีส่วนช่วยในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

4. ช่วยเก็บข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า

Chatbot สามารถเก็บข้อมูลและบันทึกการสนทนาของลูกค้าได้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปปรับปรุงการให้บริการได้ เช่น การติดตามคำถามที่พบบ่อย การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาหรือข้อสงสัยของลูกค้า และการวิเคราะห์พฤติกรรมการสนทนาที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับการให้บริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

5. เสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์

การใช้ Chatbot แสดงให้เห็นถึงความทันสมัยและความใส่ใจในการให้บริการของแบรนด์ ลูกค้าจะมองเห็นว่าแบรนด์มีความพร้อมในการให้บริการและสนับสนุนการใช้งานของลูกค้า ซึ่งช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า

 

วิธีการตั้งค่า Chatbot เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การตั้งค่า Chatbot ให้รองรับการให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมีขั้นตอนสำคัญที่ควรคำนึงถึง ดังนี้:

1. ระบุวัตถุประสงค์และการใช้งานของ Chatbot

ขั้นตอนแรกในการตั้งค่า Chatbot คือการกำหนดวัตถุประสงค์ว่าต้องการให้ Chatbot ทำหน้าที่อะไร เช่น ตอบคำถามทั่วไป รับคำสั่งซื้อสินค้า หรือช่วยลูกค้าจองบริการ เมื่อกำหนดวัตถุประสงค์ชัดเจนแล้วจะช่วยให้สามารถตั้งค่าคำถามและการตอบกลับให้เหมาะสมได้

2. กำหนดรายการคำถามที่พบบ่อย (FAQs)

เพื่อให้ Chatbot สามารถตอบคำถามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรจัดทำรายการคำถามที่พบบ่อย ซึ่งรวมถึงคำถามที่ลูกค้ามักสอบถามเป็นประจำ เช่น ราคา วิธีการชำระเงิน วิธีการสั่งซื้อ หรือคำถามเกี่ยวกับนโยบายการคืนสินค้า คำถามเหล่านี้สามารถตั้งค่าให้ Chatbot ตอบได้ทันที โดยการพัฒนาฐานข้อมูลคำถามและคำตอบที่ครอบคลุมมากที่สุด

3. ใช้ AI ในการเรียนรู้และปรับปรุงการตอบกลับ

การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ร่วมกับ Chatbot จะช่วยให้ Chatbot สามารถเรียนรู้จากการสนทนาและพัฒนาการตอบกลับได้ดีขึ้น AI จะช่วยให้ Chatbot สามารถวิเคราะห์ข้อความและคาดเดาความต้องการของลูกค้าได้แม่นยำขึ้น ทำให้การสนทนาดูเป็นธรรมชาติและลดความรู้สึกที่ Chatbot ตอบกลับโดยอัตโนมัติ

4. ตั้งค่าให้สามารถเชื่อมต่อกับทีมบริการลูกค้า

แม้ว่า Chatbot จะสามารถตอบคำถามเบื้องต้นได้ดี แต่ในกรณีที่ลูกค้าต้องการความช่วยเหลือเฉพาะเจาะจง ควรตั้งค่าให้ Chatbot สามารถส่งต่อไปยังทีมบริการลูกค้าได้อย่างสะดวก การทำเช่นนี้ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลที่เหมาะสม และลดความไม่พอใจหาก Chatbot ไม่สามารถตอบคำถามได้อย่างครบถ้วน

5. ติดตามและวิเคราะห์ผลการใช้งานของ Chatbot

การติดตามผลการใช้งานของ Chatbot เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทราบว่าระบบสามารถตอบสนองลูกค้าได้ดีเพียงใด การวิเคราะห์ข้อมูลการสนทนา เช่น จำนวนการสนทนาที่สำเร็จ อัตราการส่งต่อไปยังทีมงาน หรือความพึงพอใจของลูกค้า จะช่วยให้สามารถปรับปรุง Chatbot ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

เครื่องมือสำหรับการสร้างและตั้งค่า Chatbot

มีเครื่องมือหลายตัวที่ช่วยในการสร้างและตั้งค่า Chatbot ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเครื่องมือยอดนิยมมีดังนี้:

  • Chatfuel: เป็นแพลตฟอร์ม Chatbot ที่รองรับการทำงานบน Facebook Messenger และเว็บไซต์ มีความสามารถในการตั้งค่าและใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง

  • ManyChat: เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้าง Chatbot ที่มีฟีเจอร์ที่ครบครันและยืดหยุ่น สามารถเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มเว็บไซต์ได้

  • Zendesk Chat: เครื่องมือสำหรับการให้บริการลูกค้าผ่านแชท สามารถติดตั้งบนเว็บไซต์และเชื่อมต่อกับทีมบริการลูกค้าได้ง่ายดาย

  • Intercom: เป็นแพลตฟอร์ม Chatbot ที่มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย ทั้งการให้บริการลูกค้าและการตลาด ช่วยให้แบรนด์สามารถตั้งค่า Chatbot ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนของการให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป

การใช้ Chatbot บนเว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยลดภาระงานของทีมบริการลูกค้า ให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเก็บข้อมูลการสนทนาเพื่อการวิเคราะห์และพัฒนา Chatbot ให้ดียิ่งขึ้น การตั้งค่า Chatbot ที่รองรับการตอบคำถามพื้นฐานและสามารถส่งต่อไปยังทีมงานเมื่อจำเป็นจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจในการให้บริการของแบรนด์

ด้วยการตั้งค่าและใช้งาน Chatbot อย่างถูกวิธี ธุรกิจสามารถเสริมสร้างประสบการณ์การให้บริการที่รวดเร็วและน่าพึงพอใจให้กับลูกค้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า และเสริมสร้างความประทับใจในแบรนด์ได้ในระยะยาว

 

Written by
Kant Kant Sunthad
Kant Kant Sunthad

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

13
December, 2024
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
13 December, 2024
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลักการของ Inbound Marketing Attract สร้าง

By

3 mins read
Thai
13
December, 2024
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
13 December, 2024
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital

By

4 mins read
English
13
December, 2024
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
13 December, 2024
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด ตัวอย่างการทำ Pivot ตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริง Pivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภท Customer Need

By

3 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.