hand lt
hand lt
hand lt
18Nov, 2024
Language blog :
Thai
Share blog : 
18 November, 2024
Thai

การเพิ่มความเร็วเว็บไซต์เพื่อลดอัตราการเด้งกลับ (Bounce Rate)

By

2 mins read
การเพิ่มความเร็วเว็บไซต์เพื่อลดอัตราการเด้งกลับ (Bounce Rate)

ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ เมื่อเว็บไซต์โหลดช้า ผู้ใช้มักจะออกจากเว็บไซต์ไปก่อนที่จะเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการ ซึ่งทำให้อัตราการออกจากหน้าเว็บหรือ Bounce Rate สูงขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อการจัดอันดับในเครื่องมือค้นหา เช่น Google ซึ่งให้ความสำคัญกับความเร็วในการโหลดและประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ดี

ในบทความนี้ เราจะมาดูวิธีการเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์เพื่อลดอัตราการเด้งกลับ โดยการใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การลดขนาดภาพ การบีบอัดข้อมูล และการใช้ Content Delivery Network (CDN) ที่จะช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นและทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น

ความสำคัญของความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ

การเพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไม่ได้เป็นเพียงการปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความประทับใจที่ดีให้แก่ผู้ใช้ มีการวิจัยพบว่าผู้ใช้มักจะออกจากเว็บไซต์หากต้องรอให้หน้าเว็บโหลดนานเกิน 3 วินาที ซึ่งการโหลดหน้าเว็บที่รวดเร็วจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงเนื้อหาที่ต้องการ

ข้อดีของเว็บไซต์ที่โหลดเร็ว:

  1. ลดอัตราการเด้งกลับ (Bounce Rate): ความเร็วในการโหลดช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงเนื้อหาได้เร็วขึ้น ทำให้มีโอกาสที่ผู้ใช้จะอยู่ในเว็บไซต์นานขึ้น

  2. เพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้: ผู้ใช้ที่ได้รับประสบการณ์ที่ดีในการเข้าใช้เว็บไซต์มีแนวโน้มที่จะดูหน้าเพจต่างๆ และมีส่วนร่วมกับเนื้อหาในเว็บไซต์มากขึ้น

  3. ช่วยปรับปรุงการจัดอันดับ SEO: Google ให้ความสำคัญกับความเร็วในการโหลด ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับในผลการค้นหา

  4. ส่งเสริมการทำธุรกรรมออนไลน์: ผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะดำเนินการซื้อหรือทำธุรกรรมบนเว็บไซต์ที่โหลดเร็ว

เทคนิคการเพิ่มความเร็วเว็บไซต์เพื่อลด Bounce Rate

1. การลดขนาดไฟล์ภาพ

ภาพที่มีขนาดใหญ่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เว็บไซต์โหลดช้า ดังนั้นการลดขนาดไฟล์ภาพโดยไม่กระทบต่อคุณภาพจะช่วยให้เว็บไซต์โหลดได้เร็วขึ้น การใช้รูปแบบไฟล์ที่เหมาะสม เช่น JPEG หรือ WebP สำหรับภาพที่ต้องการคุณภาพสูงแต่มีขนาดไฟล์เล็กลง นอกจากนี้ ควรปรับขนาดของภาพให้พอดีกับขนาดที่ต้องการใช้ในหน้าเว็บ และหลีกเลี่ยงการใช้ภาพที่มีขนาดใหญ่เกินไป

วิธีการลดขนาดภาพ:

  • ใช้โปรแกรมบีบอัดภาพ เช่น TinyPNG หรือ ImageOptim เพื่อปรับขนาดไฟล์

  • ใช้รูปแบบภาพที่เหมาะสม เช่น WebP ที่ให้คุณภาพสูงแต่มีขนาดไฟล์ที่เล็ก

  • ตั้งค่าขนาดภาพตามการแสดงผลที่ต้องการ เพื่อไม่ให้ภาพมีขนาดใหญ่เกินไปเมื่อแสดงผลบนหน้าเว็บ

2. การบีบอัดไฟล์ข้อมูล (Gzip Compression)

การบีบอัดไฟล์ HTML, CSS และ JavaScript ด้วยเทคนิค Gzip Compression ช่วยลดขนาดของไฟล์ที่ส่งไปยังผู้ใช้ ซึ่งจะทำให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น การบีบอัดไฟล์นี้สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านการตั้งค่าของเซิร์ฟเวอร์หรือใช้ปลั๊กอินที่ช่วยบีบอัดไฟล์

วิธีการบีบอัดข้อมูล:

  • เปิดใช้งาน Gzip Compression บนเซิร์ฟเวอร์ หรือใช้ปลั๊กอินในกรณีที่ใช้ CMS อย่าง WordPress

  • ตรวจสอบว่าไฟล์ที่ถูกบีบอัดยังคงทำงานได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้งาน

3. การใช้ Content Delivery Network (CDN)

CDN เป็นบริการที่กระจายข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ ทั่วโลก ช่วยให้ผู้ใช้ที่อยู่ไกลจากเซิร์ฟเวอร์หลักสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว โดย CDN จะทำการโหลดไฟล์สื่อ เช่น รูปภาพ วิดีโอ และไฟล์ JavaScript จากเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้กับผู้ใช้มากที่สุด ซึ่งทำให้การโหลดหน้าเว็บเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ประโยชน์ของการใช้ CDN:

  • ลดระยะเวลาที่ข้อมูลเดินทางจากเซิร์ฟเวอร์ไปยังผู้ใช้

  • เพิ่มความเสถียรในการโหลดหน้าเว็บโดยเฉพาะในช่วงที่มีการเข้าชมมาก

  • ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของเว็บไซต์ด้วยการป้องกันการโจมตีจากภายนอก

4. การตั้งค่าการแคช (Caching)

การตั้งค่าแคชช่วยให้เบราว์เซอร์ของผู้ใช้เก็บข้อมูลบางส่วนของเว็บไซต์ไว้ที่เครื่อง ทำให้การโหลดหน้าเว็บในครั้งต่อไปทำได้เร็วขึ้น เพราะเบราว์เซอร์ไม่ต้องโหลดข้อมูลซ้ำอีกครั้ง สามารถตั้งค่าแคชได้ทั้งในเซิร์ฟเวอร์และเบราว์เซอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการโหลด

วิธีตั้งค่า Caching:

  • ใช้ปลั๊กอินแคช เช่น W3 Total Cache หรือ WP Super Cache สำหรับผู้ใช้ WordPress

  • ตั้งค่าแคชบนเซิร์ฟเวอร์ให้เก็บข้อมูลบางประเภทไว้ในช่วงเวลาที่กำหนด

  • ระบุอายุของแคชเพื่อควบคุมการแสดงผลข้อมูลที่อัปเดตใหม่

5. ลดการใช้ปลั๊กอินที่ไม่จำเป็นและการเรียกใช้สคริปต์จากภายนอก

การใช้ปลั๊กอินจำนวนมากและการโหลดสคริปต์จากภายนอกทำให้เว็บไซต์โหลดช้าลง เพราะมีการโหลดข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่จำเป็น ควรเลือกใช้ปลั๊กอินที่จำเป็นเท่านั้นและตรวจสอบว่าไม่มีปลั๊กอินหรือสคริปต์ที่ขัดขวางการโหลดของเว็บไซต์

วิธีการลดปลั๊กอินและสคริปต์ที่ไม่จำเป็น:

  • ลบปลั๊กอินที่ไม่ได้ใช้งานและสคริปต์ที่ไม่จำเป็น

  • ตรวจสอบว่าปลั๊กอินที่ใช้อยู่มีประสิทธิภาพและเข้ากันได้ดีกับเว็บไซต์

  • ใช้การรวมไฟล์ (Minification) เพื่อลดขนาดของไฟล์ CSS และ JavaScript

การตรวจสอบความเร็วเว็บไซต์ด้วยเครื่องมือ

หลังจากปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์แล้ว ควรใช้เครื่องมือตรวจสอบความเร็วเพื่อวัดผลการปรับปรุง เครื่องมือที่แนะนำได้แก่:

  1. Google PageSpeed Insights: เครื่องมือนี้จะวิเคราะห์ความเร็วของเว็บไซต์บนอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ พร้อมแนะนำวิธีการปรับปรุง

  2. GTmetrix: เป็นเครื่องมือที่ให้ข้อมูลการโหลดหน้าเว็บอย่างละเอียด เช่น เวลาที่ใช้ในการโหลดส่วนต่าง ๆ ของหน้าเว็บ

  3. Pingdom Tools: เครื่องมือตรวจสอบความเร็วที่ใช้งานง่ายและให้คะแนนความเร็ว พร้อมแนะนำวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพ

การใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้เรามองเห็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและสามารถปรับปรุงเพิ่มเติมได้ตามคำแนะนำของเครื่องมือ

ข้อดีของการเพิ่มความเร็วเว็บไซต์

  1. ลดอัตราการเด้งกลับ (Bounce Rate): เว็บไซต์ที่โหลดเร็วทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดี ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้น

  2. ปรับปรุง SEO: เว็บไซต์ที่มีความเร็วสูงมักได้รับการจัดอันดับที่ดีใน Google เนื่องจากความเร็วเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ SEO

  3. เพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้: ผู้ใช้มักจะกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่โหลดเร็วมากกว่าเว็บไซต์ที่โหลดช้า

  4. เพิ่มโอกาสในการขาย: ความเร็วในการโหลดส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้ใช้ เว็บไซต์ที่โหลดเร็วช่วยเพิ่มโอกาสในการทำธุรกรรมและยอดขาย

ข้อสรุป

การเพิ่มความเร็วเว็บไซต์เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการลดอัตราการเด้งกลับและสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ การลดขนาดไฟล์ภาพ การบีบอัดข้อมูล และการใช้ CDN ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโหลดได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เพียงแต่เพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้ แต่ยังเพิ่มโอกาสในการทำธุรกรรมและปรับปรุงการจัดอันดับในเครื่องมือค้นหาได้อีกด้วย

 

Written by
Pooh Phuvit Jaruratkit
Pooh Phuvit Jaruratkit

Subscribe to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

- More than 120,000 people/day visit to read our blogs

Other articles for you

01
December, 2024
JS class syntax
1 December, 2024
JS class syntax
เชื่อว่าหลายๆคนที่เขียน javascript กันมา คงต้องเคยสงสัยกันบ้าง ว่า class ที่อยู่ใน js เนี่ย มันคืออะไร แล้วมันมีหน้าที่ต่างกับการประกาศ function อย่างไร? เรามารู้จักกับ class ให้มากขึ้นกันดีกว่า class เปรียบเสมือนกับ blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว ที่สามารถนำไปสร้างเป็นสิ่งของ( object ) ตาม blueprint หรือแบบพิมพ์เขียว( class ) นั้นๆได้ โดยภายใน class

By

4 mins read
Thai
01
December, 2024
15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
1 December, 2024
15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G
ผู้ให้บริการเครือข่ายในสหรัฐฯ ได้เปิดตัว 5G ในหลายรูปแบบ และเช่นเดียวกับผู้ให้บริการเครือข่ายในยุโรปหลายราย แต่… 5G มันคืออะไร และทำไมเราต้องให้ความสนใจ บทความนี้ได้รวบรวม 15 สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับ 5G เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันกำลังจะถูกใช้งานอย่างกว้างขวางขึ้น 1. 5G หรือ Fifth-Generation คือยุคใหม่ของเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายที่จะมาแทนที่ระบบ 4G ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมันไม่ได้ถูกจำกัดแค่มือถือเท่านั้น แต่รวมถึงอุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ 2. 5G คือการพัฒนา 3 ส่วนที่สำคัญที่จะนำมาสู่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ขยายช่องสัญญาณขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ การตอบสนองที่รวดเร็วขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลง ความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่า 1 ในเวลาเดียวกัน 3. สัญญาณ 5G นั้นแตกต่างจากระบบ

By

4 mins read
Thai
01
December, 2024
จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
1 December, 2024
จัดการ Array ด้วย Javascript (Clone Deep)
ในปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาษาที่ถูกใช้ในการเขียนเว็บต่าง ๆ นั้น คงหนีไม่พ้นภาษา Javascript ซึ่งเป็นภาษาที่ถูกนำไปพัฒนาเป็น framework หรือ library ต่าง ๆ มากมาย ผู้พัฒนาหลายคนก็มีรูปแบบการเขียนภาษา Javascript ที่แตกต่างกัน เราเลยมีแนวทางการเขียนที่หลากหลาย มาแบ่งปันเพื่อน ๆ เกี่ยวกับการจัดการ Array ด้วยภาษา Javascript กัน เรามาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า โดยปกติแล้วการ copy ค่าจาก value type ธรรมดา สามารถเขียนได้ดังนี้

By

4 mins read
Thai

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Go to contact us
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1
Ball leftBall rightBall leftBall right
Sennalabs gray logo28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599hello@sennalabs.com© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.